“เป็นพวกเจ้านักพรตจมูกวัวอีกแล้ว ข้ามีธุระที่ต้องทำ ไม่มีเวลาทะเลาะกับพวกเจ้า ออกไปให้พ้นทาง ถ้ามีอะไร ก็ให้นักพรตเทียนชิงมาหาข้าเอง”
เย่จิ่งหลานร้อนใจดั่งไฟเผา ย่อมไม่อยากมีปัญหามากขึ้นอยู่แล้ว
หากไม่นับว่าอินชิงเสวียนกับเขาเป็นคนที่ข้ามภพมาเหมือนกัน ลำพังแค่ในราชวงศ์ต้าโจว นางก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน
ก่อนที่จะมาถึงเทือกเขาเชื่อมเมฆา เย่จิ่งหลานยังสามารถแยกตัวเองออกจากผู้คนในยุคนี้ หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่าเขาได้รวมตัวเข้ากับราชวงศ์ที่แปลกประหลาดนี้อย่างช้าๆ ทำให้เกิดความรู้สึกแปลกๆ และเกิดความรู้สึกของการเป็นเจ้าของโดยอัตโนมัติ จะเอื่อยเฉื่อยเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้อีกแล้ว
นักพรตเต๋าประกบมือไว้อย่างเรียบร้อย ยืนอยู่กลางถนน เสื้อคลุมนักพรตเต๋าสีน้ำเงินเทาดูโทรมเล็กน้อย แต่ถูกซักให้สะอาดมาก ชายเสื้อคลุมถูกลมพัดปลิวว่อน ท่ามกลางสายลมนี้ ทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับเป็นเทพเซียนจุติ
เขามองเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าสงบ ไม่มีสีหน้าหงุดหงิดแม้แต่น้อย
“คุณชายท่านนี้ตามหาใครใช่หรือไม่ อาตมภาพเชี่ยวชาญเรื่องการทำนายดวง อาจช่วยชี้ทางให้ได้”
“เจ้าไม่ได้มาตามหาข้างั้นหรือ”
เย่จิ่งหลานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ทุกครั้งที่เขาเห็นนักพรตจมูกวัวเหล่านี้ไม่เคยมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นเลย เอาแต่จะจับกุมตัวเขา เพื่อพาไปชำระล้างหรือไม่ก็เนรเทศ เย่จิ่งหลานจึงรู้สึกไม่ดีกับผู้ที่ใส่ชุดคลุมลัทธิเต๋าเช่นนี้
เพียงแต่ว่าคนนี้ดูจะแตกต่างออกไปเล็กน้อย เขายังเด็กมาก ดูเหมือนอายุประมาณยี่สิบปี ใบหน้าหล่อเหลามากเช่นกัน ลูกตาดำตัดกับตาขาวเป็นประกายราวกับเต็มไปด้วยน้ำในฤดูใบไม้ร่วง ยิ่งกว่าดวงดาว แม้แต่ผู้หญิงก็อาจไม่งดงามเท่าเขาแม้แต่ครึ่งเดียว
ไม่มีร่องรอยของความอาฆาตพยาบาทในดวงตา การเคลื่อนไหวก็มีให้อารมณ์ที่ประณีตสูงส่งอย่างผู้หลุดพ้นจริงๆ
มีหน้าตาดีมักจะทำให้คนคลายความระมัดระวัง เย่จิ่งหลานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “เจ้าทำนายได้จริงๆ หรือ”
นักพรตเต๋าน้อยเอื้อมมือไปหยิบกระดองเต่าขนาดเท่าฝ่ามือออกมา
เขาโค้งคำนับเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ไม่กี่วันก่อนอาตมภาพเฝ้าดูท้องฟ้าในตอนกลางคืน และทันใดนั้นข้าก็เห็นแสงสีม่วงเข้ามาทางทิศใต้ กลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อฮ่องเต้ แม้ว่าอารามซ่างชิงกวนจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในราชสำนัก หากใต้หล้าตกอยู่ในความลำบาก ย่อมไม่นิ่งดูดายเป็นแน่ ไม่กี่วันก่อนอาจารย์สังเกตว่ามีบางอย่างแตกต่างออกไปในท้องฟ้า จึงทิ้งจดหมายไว้และเดินทางมาที่เทือกเขาเชื่อมเมฆา อาตมภาพโง่เขลา ในเมื่อเกิดในแผ่นดินต้าโจว ดื่มกินอาหารจากต้าโจว ย่อมพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชาวต้าโจว”
เมื่อเห็นความเมตตาในดวงตาของเขา เย่จิ่งหลานก็เชื่อมากขึ้นอีก และเสื้อคลุมเต๋าที่เขาสวมก็เหมือนกับชุดในอารามซ่างชิงกวนจริงๆ
“เป็นเช่นนี้นี่เอง ที่แท้นักพรตเต๋าลงจากภูเขาเพื่อช่วยใต้หล้าในยามยากลำบาก เจ้าทำนายเถอะ ข้าต้องการหาผู้หญิงคนหนึ่ง นางมีความสำคัญต่อข้ามาก รบกวนนักพรตด้วย”
นักพรตเต๋าน้อยพยักหน้า เดินไปหาเย่จิ่งหลานอย่างสงบ
เขายกมือขวาขึ้น เหยียดนิ้วชี้และนิ้วกลางออก และชี้ไปที่คิ้วของเย่จิ่งหลานราวกับดัชนีกระบี่
คนทั้งคนมีกลิ่นอายที่สงบเยือกเย็น ปลายนิ้วกดเบาๆ บนผิวหนังของเย่จิ่งหลาน...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...