อินชิงเสวียนเชื่อแล้วโดยสิ้นเชิง ลูกชายของนางไม่ธรรมดาจริงๆ
“อาอวี้ ทำตามที่จ้าวเอ๋อร์บอกเถอะ ลั่วสุ่ยชิงเคยบอกวิธีทำลายค่ายกลกับข้าแล้ว แต่ถูกชิงฮุยขัดจังหวะเสียก่อน พอมาใคร่ครวญดูแล้ว มันก็คล้ายกับที่จ้าวเอ๋อร์พูด”
“ได้”
“รอเดี๋ยวก่อน”
เสี่ยวหนานเฟิงตะโกนหยุดทั้งสองคนด้วยเสียงแหลมใส
“มีอะไรหรือ”
อินชิงเสวียนมองดูลูกชายอย่างพิศวง
เสี่ยวหนานเฟิงจ้องมองลงด้วยดวงตากลมโต มองจากท้องฟ้าลงมาข้างล่าง แล้วพูดว่า “เรื่องนี้ดูจะยากสักหน่อย”
“ยังมีกลไกอย่างอื่นอีกงั้นหรือ”
เย่จิ่งอวี้ถาม
เสี่ยวหนานเฟิงทำปากมู่ทู่ พยายามเรียบเรียงคำพูด
“ยังมีกลิ่นอายอื่นอยู่ที่นี่ ไม่กำจัดออกไป ก็ทำไม่ได้นะ”
เขาเห็นหมอกสีดำทะมึนมากมายกระจายอยู่บนท้องฟ้า แม้ว่าเสี่ยวหนานเฟิงจะฉลาด แต่ก็ยังไม่สามารถอธิบายกลิ่นอายที่น่ากลัวนี้ได้
ซึ่งลักษณะสำคัญที่สุดของค่ายกลที่ชิงฮุยสร้างขึ้นคือพลังหยินของคนตายเหล่านี้ อาศัยแค่การทำลายหัวใจค่ายกลสองสิ่งนั้น ไม่สามารถทำลายค่ายกลที่ชั่วร้ายได้อย่างสมบูรณ์
ทั้งคู่อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันเลิ่กลั่ก พวกเขาไม่เห็นสิ่งที่เสี่ยวหนานเฟิงเห็น แต่ก็พอจะเข้าใจความหมายของลูกชายอยู่คร่าวๆ
“เสวียนเอ๋อร์ไม่ต้องกังวล ข้าจะลองสัมผัสดู”
เย่จิ่งอวี้เหาะลงมา แล้วส่งลูกชายให้กับอินชิงเสวียน
เขาเหยียบย่ำก้าวเดินดารา ก้าวขึ้นไปบนขั้นบันได ใช้ฝ่ามือเปลี่ยนแปลงพลังงานหยินหยาง ครั้นแล้วพลังแห่งฟ้าดินก็รวมทั่วร่างกายในทันที
กระแสพลังอันบริสุทธิ์แผ่ซ่านออกมาจากร่างกาย และเชื่อมโยงกับผืนฟ้าและแผ่นดินทันที ดวงตาทั้งคู่ปิดสนิท ใช้ประสาทสัมผัสตรวจจับอย่างระมัดระวัง ซึ่งก็เห็นจริงตามนั้นว่ามีกระแสพลังหยินด้านมืดที่แตกต่างออกไปจริงๆ
ความรู้สึกนี้แตกต่างจากหมอกสีดำที่ลั่วสุ่ยชิงปลดปล่อยออกมา เป็นอนัตตา ยากที่จะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
เย่จิ่งอวี้เห็นพ้องต้องกันอย่างยิ่ง ตัดสินใจเด็ดขาด “เสวียนเอ๋อร์ เจ้าเข้าไปก่อน คอยดูว่าเกิดอะไรขึ้นข้างใน ข้าจะคอยสนับสนุนอยู่ข้างนอก”
“ได้ ท่านระวังด้วย”
หลังจากที่อินชิงเสวียนพูดจบก็เหาะทะลุหลุมนั้นตรงเข้าไปในอิ๋นเฉิง แม้ว่าจะดูดซับพลังของคนอื่นนับร้อย แต่รากฐานของกำลังภายในยังค่อนข้างแตกต่างจากเย่จิ่งอวี้ ดังนั้นจึงไม่ดื้อรั้น หรือพูดมากอีก
ยังไม่ถึงสิบห้านาที นางก็เข้ามาในเมือง เมื่อเห็นศพบนพื้นและกลิ่นเลือดที่ไม่สามารถกระจายไปตามลมได้ อินชิงเสวียนก็รู้สึกเย็นตั้งแต่มือจรดเท้า เหงื่อกาฬไหลท่วมแผ่นหลัง
“ท่านแม่ ท่านพ่อ ท่านแม่สามี?”
นางวิ่งพลางตะโกน แต่ไม่มีใครขานตอบ ทั้งเมืองเงียบกริบราวกับความตาย เสียงเดียวที่ดังก้องในหูคือเสียงลมอื้ออึง
เป็นแบบนี้ได้อย่างไร
อินชิงเสวียนตื่นตระหนก โชคดีที่ไม่เห็นศพของพวกเขา บางทีผลลัพธ์อาจไม่เลวร้ายอย่างที่นางคิด
เมื่อเดินไปตามทาง ก็ยังไม่พบใครเลย อินชิงเสวียนจึงเร่งฝีเท้าทันทีและมุ่งหน้าตรงไปยังจวนหลัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...