สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1419

“กระหม่อมไม่ได้กลัวองค์หญิง และองค์หญิงย่อมไม่ใช่ภูตผีปีศาจอยู่แล้ว”

อินปู้อวี่ก้าวถอยหลัง แล้วก้มศีรษะลง

เย่ไห่ถังเอามือไพล่หลัง แล้วพูดแหว “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมเจ้าไม่กล้ามองข้าล่ะ”

อินปู้อวี่โค้งกายลงอีกเล็กน้อย

“องค์หญิงวรกายล้ำค่า กระหม่อมย่อมไม่กล้ามองตรงๆ”

เย่ไห่ถังพูดเบาๆ “ข้าอนุญาตให้เจ้าเงยหน้าขึ้น”

“ทำเช่นนั้นมิได้ ไม่เหมาะสม”

อินปู้อวี่ถอยหลังอีกครั้ง ในใจรู้สึกหวาดหวั่น

แม้ว่าเย่ไห่ถังกับน้องหญิงใหญ่จะเคยไปเจอเขากับกวนเซี่ยวที่บริเวณโรงเรียน แต่นั่นอยู่นอกพระราชวัง ตอนนี้เขาอยู่ในฐานะผู้บัญชาการทหารองครักษ์ มีหน้าที่โดยตรงในการดูแลรักษาความปลอดภัยของพระราชวัง เขาเคารพในกฎเกณฑ์ขุนนาง ไม่อาจแสดงความไม่เคารพใดๆ ได้

เมื่อเห็นว่าเขาทำท่าเหมือนจะวิ่งหนี เย่ไห่ถังก็กระทืบเท้าด้วยความโกรธ

“เจ้ามันท่อนไม้ อยากไปนักก็รีบไปเถอะ ข้าก็ไม่ได้อยากเจอเจ้านักหรอก”

“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา”

อินปู้อวี่ตอบรับด้วยความโล่งใจ จากนั้นก็รีบจากไปอย่างรวดเร็ว

เย่ไห่ถังไม่คาดคิดว่าเขาไปจริงๆ นางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกทั้งโกรธทั้งหงุดหงิด คว้าดอกไม้สี่ห้าดอกที่อยู่ข้างๆ มา แล้วโยนมันใส่แปลงดอกไม้ด้วยความโกรธ

เสียงหัวเราะเบาๆ ดังมาจากด้านหลัง สตรีในชุดกระโปรงสีฟ้าเรียบๆ ก็ค่อยเดินออกมาจากด้านหลังถนนอย่างแช่มช้า

“อาหญิงอิน”

เย่ไห่ถังวิ่งไปหาด้วยความรู้สึกอับอายจนพาลโกรธ เม้มริมฝีปากเข้าด้วยกัน

เมื่อก่อนนางไม่เคยรู้เรื่องกิจการราชสำนัก และไม่เคยคิดอะไรมากมาย แต่ตอนนี้พออยู่ในวังมานาน ฟังเย่จั้นพูดเรื่องกิจการบ้านเมืองบ่อยเข้า ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องนี้

ตั้งแต่สมัยโบราณไม่ว่าความสัมพันธ์จะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็เทียบไม่ได้กับพลังอำนาจที่อยู่สูงสุด เมื่อใดที่ฮ่องเต้รู้สึกได้ถึงภัยคุกคาม เขาจะไม่มีทางปล่อยตระกูลอินไปอย่างแน่นอน

ซึ่งภายหลังอินหลีถึงได้รู้ว่าพี่ใหญ่เคยถูกเนรเทศทั้งครอบครัว เพื่อเรื่องนี้ชิงเสวียนต้องทุ่มเทลงแรงอย่างมาก นางกลัวมากว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ซึ่งมันอาจเลวร้ายยิ่งกว่าการถูกเนรเทศ

เย่ไห่ถังไม่รู้ว่าอินหลีคิดอะไรอยู่ ยังคงพูดพร่ำเพรื่อไปเรื่อย สีหน้าท่าทางเหมือนกับเด็กสาวที่กำลังมีความรักอยู่เต็มอก

อินหลีเหลือบมองนางอย่างช่วยไม่ได้ ไม่รู้ว่าทางด้านชิงเสวียนจะเป็นอย่างไรบ้าง นานแล้วที่นางกับฝ่าบาทยังไม่กลับมาเมืองหลวง เผชิญกับอุปสรรคอะไรอยู่กันนะ...

...

เมื่อเทียบกับความเงียบสงบในเมืองหลวง อิ๋นเฉิงได้สูญเสียความมีชีวิตชีวาในอดีตไป

ศิษย์ทุกคนที่เสียชีวิตในการต่อสู้ถูกส่งไปยังจุดเดียวกัน ฝังอยู่ในหลุมศพนับพันคน เช่นเดียวกับตอนที่อยู่ในเป่ยไห่ บนกำแพงเมือง ปักเต็มไปด้วยกระบี่ประจำตัวของทุกคน ชายผ้าที่ผูกปลายดาบที่โบกไหวไปตามลม นั่นแหละคือหลักฐานที่แสดงว่าพวกเขาได้เสียสละเพื่อบ้านเมือง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์