เหมยชิงเกอก็คุกเข่าลงเช่นกัน
“ตำหนักเทพหอทองคำก็เต็มใจที่จะติดตามฝ่าบาทเช่นกัน ขอให้คำมั่นว่าจะขับไล่ศัตรูที่แข็งแกร่งออกไป ปกป้องภูเขาลำน้ำของต้าโจวเรา!”
“เฮ่อยวนยังเต็มใจที่จะนำเพียวเมี่ยวอิ๋นเฉิงเป็นกระบี่ของฝ่าบาท เพื่อต้าโจวจะต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ จนถึงวาระสุดท้าย!”
ทันทีที่ทั้งสองสำนักหลักแสดงจุดยืน เฮ่ออวิ๋นทงและคนอื่นๆ ก็คุกเข่าลง ทุกคนต่างตะโกนว่าฝ่าบาททรงพระเจริญ ชั่วครู่หนึ่งเกิดเสียงราวกับขุนเขาคำรามทะเลแผดก้อง สะท้านไปทั้งแผ่นฟ้า
จู่ๆ เย่จิ่งอวี้ก็ตระหนักได้ว่าตัวเองได้เปิดเผยตัวตนโดยไม่ได้ตั้งใจ เขามองไปที่อินชิงเสวียนโดยไม่รู้ตัว แต่เมื่อเห็นหญิงสาวเงยหน้าขึ้น ยิ้มอย่างชื่นชมเขา เขาก็เข้าใจทันที
จึงหันกลับมาแล้วพูดว่า “จอมยุทธ์ผู้ชอบธรรมทุกท่าน ข้ายังอยากกล่าวขอบคุณแทนไพร่ฟ้าทั่วหล้า ขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจอันยิ่งใหญ่ของทุกท่าน โปรดลุกขึ้นเถิด”
จากนั้นทุกคนก็ลุกขึ้นยืน ขวัญกำลังใจเพิ่มพูดขึ้นทันที
ในความคิดของหลายๆ คน ฮ่องเต้เป็นเพียงคนไร้ประโยชน์ที่นั่งบนบัลลังก์มังกรคอยชี้นิ้วบงการเท่านั้น แม้ว่าทุกคนจะเข้าร่วมในการต่อสู้ที่เป่ยไห่ตามคำสั่งของเจ้าสำนัก แต่ในใจก็ยังรู้สึกไม่เห็นด้วย
การต่อต้านผู้รุกรานจากต่างแคว้น คือสิ่งที่ราชสำนักควรทำ แต่กลับปล่อยให้คนในยุทธภพอย่างพวกเขาบุกเข้าสู่สนามรบ ในขณะที่ฮ่องเต้นั่งอยู่ในเมืองหลวงอย่างสบายกายสบายใจ มีคนที่รู้สึกไม่ยุติธรรมจำนวนมาก
ตอนนี้พวกเขารู้ตัวตนของเย่จิ่งอวี้แล้ว ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกตะลึง
ถ้าเขาเป็นฮ่องเต้ เช่นนั้นอินชิงเสวียนก็ต้องเป็นฮองเฮาแห่งราชวงศ์อย่างแน่นอน ทั้งสองคนมีสถานะสูงส่ง แต่กลับเป็นแนวหน้าต่อสู้กับตงหลิวร่วมกับทุกคนได้ เรื่องดีๆ เช่นนี้ สามารถนำไปอวดอ้างได้ครึ่งชีวิต
เมื่อคิดถึงวัยชราที่รายล้อมไปด้วยลูกหลาน ได้เอ่ยถึงเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นในอดีตนี้ ก็รู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่ง
เมื่อมองไปที่เย่จิ่งอวี้อีกครั้ง ดวงตาของทุกคนก็เปล่งประกายระยิบระยับ
“สมแล้วที่เป็นนักพรตเต๋าผู้มากวิชาความรู้ แม้จะแน่ใจในตัวตนของข้าแล้ว นักพรตก็ยังพยายามห้ามปรามข้าก่อน ลั่วสุ่ยชิงชื่นชมยิ่งนัก”
นักพรตเทียนชิงยิ้มอย่างสงบและกล่าวว่า “ไม่ว่าระดับฌานตบะของอาตมภาพจะเป็นอย่างไร อย่างไรก็เป็นชาวต้าโจว ล้วนคำนึงถึงความปลอดภัยของแคว้นเป็นอันดับแรก เหตุผลที่ไม่ลงมือ เพราะเห็นว่าแม่นางไม่มีเจตนาร้าย ก็เพียงเท่านั้น!”
“ขอบคุณท่านนักพรตที่บอกเหตุผลแก่ข้า ลั่วสุ่ยชิงยังคงชื่นชมนิสัยที่แท้จริงของท่าน ข้ามาที่นี่ครั้งนี้เพราะข้าอยากพบกับฮ่องเต้ต้าโจวและฮองเฮา”
ลั่วสุ่ยชิงมองดูภูเขาข้างๆ ในน้ำเสียงมีแฝงความรู้สึกเหนื่อยหน่ายและหมดกำลังใจอยู่บ้าง
“บางทีฮองเฮาต้าโจวก็พูดถูก ราชวงศ์หนึ่งจากความรุ่งเรืองมาสู่ความเสื่อม และสุดท้ายก็ถูกโค่นล้มโดยราชวงศ์อื่น นี่เป็นผลลัพธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หลายพันปีได้ผ่านไปแล้ว ไม่มีอะไรต้องหมกมุ่นอยู่กับมันจริงๆ ข้ามาที่นี่เพื่อบอกวิชาลับของเฟยเหยา ให้พวกเขาเตรียมการป้องกัน อีกประการหนึ่ง อ๋องเย่จิ่งหลานถูกชิงฮุยพาตัวไป สูญเสียสติ ข้ากับฮองเฮาต้าโจวก็ถูกดูดซับกำลังภายในไปมากกว่าครึ่ง หากไม่รีบช่วยคนโดยเร็ว เกรงว่ามันจะทำลายรากฐานได้”
นักพรตเทียนชิงถามอย่างเร่งด่วน “ท่านราชารู้หรือไม่ว่าชิงฮุยอยู่ที่ใด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...