เมื่อมองดูดวงตาคู่นั้นที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความอ่อนโยน หัวใจของอินชิงเสวียนเหมือนจะถูกสิ่งของบางอย่างกระแทกอย่างแรง พูดไม่ออกเป็นเวลานาน
นางคิดมาตลอดว่าความรักนั้นสามารถร้อนแรงเร่าร้อน หรือจะค่อยเป็นค่อยไปอย่างยาวนานก็ได้ แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่า ความรักของเย่จิ่งอวี้นั้นลึกซึ้งและหนักหน่วงมาก จนกระทั่งครอบครองหัวใจของนางอย่างเต็มกำลัง
รู้สึกว่าลำคอตีบตันไปหมด การมองเห็นพร่าเลือนไปชั่วขณะหนึ่ง
นางยืนขึ้นอย่างช้าๆ เดินไปหาเย่จิ่งอวี้ นางอ้าแขนออก และกอดชายตรงหน้าอย่างแรง ราวกับว่าได้อุ้มทั้งโลกไว้ในอ้อมกอด
จากนั้นก็ยืนเขย่งปลายเท้า จูบริมฝีปากที่เริ่มเย็นของเขา
นางเป็นฝ่ายเริ่มตวัดปลายลิ้นดุนดันปลายลิ้นของเย่จิ่งอวี้ อ้อยอิ่งอยู่กับเขา
รสหวานเข้าครอบงำประสาทสัมผัสของเย่จิ่งอวี้ทันที เขากอดร่างเล็กของหญิงสาวด้วยมือข้างเดียว จากผู้ที่เป็นฝ่ายถูกกระทำกลับกลายเป็นฝ่ายกระทำ ยึดร่างบางของนางไว้กับอกของตัวเอง กระแสเสียงแหบเครือ
“เสวียนเอ๋อร์...คิดถึงข้างั้นหรือ ทำไมวันนี้ถึงกระตือรือร้นเช่นนี้”
อินชิงเสวียนมองใบหน้าอันหล่อเหลาราวกับเทพเซียนด้วยสายตาพร่าเลือน ประทับจูบที่มุมปากของเขาแล้วพึมพำเบาๆ
“คิดถึง ข้าคิดถึงท่านมาก รักท่านมากด้วย อาอวี้ ขอบคุณสวรรค์ ที่ส่งข้ามาสู่โลกนี้ ได้รู้จักท่าน!”
ริมฝีปากอันอ่อนนุ่มจูบระเรื่อยลงมาที่แนวกรามคมสัน อิดออดอยู่ที่ลูกกระเดือกที่กำลังขยับขึ้นลง ตวัดปลายลิ้นขึ้น ทำให้เย่จิ่งอวี้ตัวสั่นสะท้าน เสวียนเอ๋อร์แบบนี้ ช่างน่าหลงใหลยิ่งนัก!
นิ้วเรียวเลื่อนเข้าไปในช่องว่างของชุดเสื้อผ้าสีแดงสด อีกมือหนึ่งจับเอวคอดกิ่วของอินชิงเสวียน แล้ววางลงบนเตียงอย่างอ่อนโยน
“เสวียนเอ๋อร์!”
เขาเรียกชื่อนางด้วยเสียงแผ่วเบา ดวงตาลึกล้ำเต็มไปด้วยความรักและความใคร่
อินชิงเสวียนไม่มีความเคอะเขิน นางเป็นฝ่ายเริ่มเอื้อมมือออกไป โน้มตัวเย่จิ่งอวี้เข้าหาตัวเอง
“อาอวี้ ไม่ต้องพูด จูบข้า!”
เย่จิ่งอวี้ยิ้มอย่างขบขัน
“น้อมรับบัญชา!”
...
เย่จิ่งอวี้แตะปลายจมูกของนางด้วยความรัก พูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ “ไม่ต้องกังวล มีคนไปประชุมเช้าแทนข้าแล้ว”
“เอ๊ะ?”
อินชิงเสวียนมองดูเขาด้วยความประหลาดใจ
“หรือว่า ท่านเรียกเสด็จอาสิบสามมาอีกแล้ว?”
เย่จิ่งอวี้พยักหน้าอย่างมั่นใจในความถูกต้อง
“เขายังไม่ได้แต่งงาน ยังไม่จำเป็นต้องอยู่กับภรรยา แล้วทำไมจะไปแทนข้าไม่ได้ล่ะ”
อินชิงเสวียนพูดไม่ออกเลย
“คนเขามีคนที่จะแต่งงานด้วยแล้ว ในเมื่อฝ่าบาทรู้เรื่องนี้ ทำไมไม่รีบหาฤกษ์ยามกำหนดวันแต่งงานให้เสด็จอาล่ะ”
เย่จิ่งอวี้ใช้กรามล่างถูไปมาที่ร่องคอของนาง แล้วพูดอย่างเกียจคร้าน “ข้าได้แจ้งให้โหราจารย์ทราบ และได้เลือกวันอันเป็นมงคลแล้ว ได้มีการส่งหนังสือประกาศไปยังทุกหนทุกแห่งแล้ว ให้แต่ละท้องที่ดำเนินการสอบขั้นต้น หนึ่งเดือนจากนี้ ข้าจะจัดให้มีการสอบหน้าพระที่นั่ง ความพยายามทุ่มเทของเสวียนเอ๋อร์ จะได้เห็นผลลัพธ์ในไม่ช้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...