หานปิงยืนรอรับใช้อยู่ข้างๆ
เมื่อเห็นสวีจือย่วนดื่มสุราจอกแล้วจอกเล่า ดวงตาก็เต็มไปด้วยความปวดร้าว
“นายหญิง อย่าดื่มอีกเลย ท่านเมาแล้ว”
สวีจือย่วนดูคล้ายจะไม่ได้ยิน ยังคงดื่มจอกแล้วจอกเล่า
หานปิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก้าวไปแย่งจอกสุรา
“ดื่มสุราทำร้ายร่างกาย ถ้านายหญิงดื่มจนเสียสุขภาพ จะต่อสู้กับอินชิงเสวียนได้อย่างไร”
สวีจือย่วนเงยหน้าที่เมามายขึ้น แล้วพูดเยาะ “ข้าจะมีคุณสมบัติอะไรไปแข่งกับนางได้ ตอนนี้นางเป็นหวงกุ้ยเฟย แต่ข้าเป็นเพียงนายหญิงเล็กๆ ฝ่าบาทไม่สนใจความรู้สึกของข้าที่มีต่อเขาเลยด้งยซ้ำ”
นางแค่นเสียงหึแล้วพูดต่ออีกว่า “อินจ้งกลับมาที่ราชสำนักและกลับสู่ตำแหน่งเดิมแล้ว พ่อของข้าได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเจ้ากรมเท่านั้น ไม่น่าเกรงขามเหมือนแม่ทัพ ได้ยินมาว่าฝ่าบาทยังอนุญาตให้นางกลับไปพักอยู่กับพ่อกับพี่ชายสักพักด้วย แต่ข้ากลับทำได้เพียงพูดคุยกับท่านพ่อไม่กี่คำ ในตอนที่เขามาเข้าเฝ้าฝ่าบาทเท่านั้น เราต่างก็เป็นคนเหมือนกัน เหตุใดฝ่าบาทจึงเลือกที่รักมักที่ชัง จะให้ข้ายอมได้อย่างไร”
หานปิงเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า “หากนายหญิงเลือกฝ่าบาทตั้งแต่ตอนที่เข้าวัง ผลลัพธ์ก็คงไม่เป็นอย่างทุกวันนี้แน่นอน”
ใบหน้าของสวีจือย่วนเปลี่ยนเป็นเย็นชา พูดว่า “เจ้าพูดถูก ทุกอย่างเป็นความผิดของข้า ข้าไม่ควรลุ่มหลงตัวปลอมนั่น ข้าทำผิดพลาดไปแล้ว และตอนนี้ก็ทำได้เพียงอดทนเท่านั้น ข้าไม่เชื่อว่าฝ่าบาทจะโปรดปรานนางไปตลอดชีวิตได้”
เมื่อมองดูปลายนิ้วที่เสียหาย สวีจือย่วนก็รู้สึกไม่พอใจอีกครั้ง ฝ่าบาททำกับนางเช่นนี้เพราะอินชิงเสวียน นางจะต้องทำให้นางได้ชดใช้อย่างแน่นอน
เมื่อเห็นแสงเย็นเฉียบในแววตาของสวีจือย่วน หานปิงก็อดกลัวไม่ได้ ยื่นมือออกไปช่วยพยุงนางลุกขึ้น
“นายหญิง พวกเราควรไปพักผ่อนได้แล้ว”
สวีจือย่วนเดินโซเซไปถึงข้างเตียง สิ่งที่ในสมองคิดมีแต่เรื่องของอินชิงเสวียน
แม้ว่าตอนนี้นางจะรู้แล้วว่าอินสิงอวิ๋นเป็นตัวปลอม แต่พอนึกถึงตอนที่เขาบอกว่าชอบอินชิงเสวียนในใจยังคงมีความเคียดแค้นอยู่มิคลาย
มีเพียงความตายเท่านั้นที่สามารถขจัดความเกลียดชังในใจนางได้ และตอนนี้ สิ่งเดียวที่นางต้องทำคืออดทน เพื่อรอโอกาสที่จะฆ่านางให้ตาย...
วันต่อมา
เย่จิ่งอวี้ขึ้นประชุมเช้าตั้งแต่ตีสาม อินชิงเสวียนยังไม่อยากตื่น จึงแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ยังนอนอยู่บนเตียงแกล้งทำเป็นหลับ
ครั้นเห็นดังนั้น อวิ๋นฉ่ายที่อยู่ข้างๆ ก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “องค์ชายน้อยมีการเปลี่ยนแปลงมากจริงๆ ในเวลาเพียงไม่กี่วัน ก็สามารถพูดได้หลายคำแล้ว”
อินชิงเสวียนมองดูลูกชายด้วยปลื้มปีติ
พูดอย่างใจหาย “ใช่แล้ว เด็กๆ เปลี่ยนแปลงเร็วมากจริงๆ พริบตาเดียวก็หกเดือนแล้ว อีกครึ่งปี อาจจะพูดได้แล้วก็ได้”
อวิ๋นฉ่ายอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงขึ้น เพื่อให้อินชิงเสวียนได้ล้างหน้าล้างตา
“หม่อมฉันเห็นว่านายท่านกับคุณชายรองดูจะชอบองค์ชายน้อยของเรามากเลยนะเพคะ กลับไปคราวนี้ คงได้โอ๋จนสมใจ”
เมื่อคิดว่าจะกลับบ้านวันนี้ อินชิงเสวียนก็ถามขึ้นมาว่า “อุปนิสัยของฮูหยินรองเป็นอย่างไรบ้าง”
อวิ๋นฉ่ายตกใจเล็กน้อย ทันใดนั้นก็จำได้ว่าเจ้านายของตนไม่ชอบฮูหยินรอง จึงพูดว่า “ถ้าพระสนมไม่ชอบฮูหยินรอง ก็ไม่ต้องคุยกับนางมากนักก็ได้”
อินชิงเสวียนขมวดคิ้ว ทำไมอวิ๋นฉ่ายถึงพูดอย่างนั้น หรือว่าสตรีคนนี้เป็นคนปากหวานก้นเปรี้ยวจริงๆ?
หากเป็นเช่นนี้จริงๆ กลับไปคราวนี้จะต้องแสดงอำนาจหน่อยแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...