สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 401

ชาวประมงก็ประหลาดใจอยู่พักหนึ่ง ไม่ว่าอย่างไรก็คาดไม่ถึงว่าจะลากอวนขึ้นมาเป็นคนได้

มีคนก้าวไปลองแตะดูอย่างใจกล้า พบว่ายังมีลมหายใจอุ่นๆ มาจากคนผู้นั้น

ทุกคนรีบกดหน้าท้องของเขา แต่ชายผู้นั้นกลับไม่สำลักน้ำออกมาเลย

ชายสูงอายุขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ดูท่าทางไม่เหมือนคนจมน้ำเลย”

“จริงด้วย แต่เขาตายแล้วหรือยังมีชีวิตอยู่ล่ะ”

หลายคนเห็นว่ามือและเท้าของเขาเย็นเฉียบ จึงไม่สามารถตัดสินได้ชั่วขณะหนึ่ง

ชายชราจับหน้าอกของเขาอีกครั้ง แล้วพูดอย่างหนักแน่น “คนผู้นี้ยังไม่ตายแน่นอน อุ้มเขาไปที่บ้านของข้าก่อนเถอะ!”

“ได้”

ชาวประมงล้วนเป็นบุรุษเรียบง่าย ไม่นานก็พาคนผู้นั้นไปที่บ้านของชายชราแซ่จังอย่างสบายๆ

จังอวี้จิ่นผู้เป็นลูกสาวกำลังตากปลาแห้งอยู่ที่ลานบ้าน เมื่อนางเห็นพ่อประคองใครบางคนเข้ามา นางก็รีบเช็ดมือแล้ววิ่งไปถามว่า “ท่านพ่อ นี่ใครเจ้าคะ”

ผู้เฒ่าจังพูดว่า “ข้าก็ไม่รู้จักเขาเหมือนกัน วันนี้ลากตัวเขาขึ้นมาได้ตอนเอาปลาน่ะ ข้าจับดูยังมีลมหายใจอุ่นๆ อยู่ จึงพากลับมา เจ้าไปต้มน้ำร้อนเร็วเข้า จะได้เพิ่มความอบอุ่นแก่เขา น้ำในแม่น้ำของเราหนาวเย็นมากจริง ไม่แน่ว่าอาจจะแข็งตายแล้วก็ได้”

จังอวี้จิ่นรับคำ แล้วรีบเอาฟืนไปก่อไฟต้มน้ำหม้อใหญ่

ทุกคนพาชายชุดม่วงเข้าไปในบ้าน แล้วถอดเสื้อผ้าออกเหลือเพียงกางเกงตัวเดียว

เมื่อเห็นเรือนร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามและผิวที่ขาวเนียน จังอวี้จิ่นก็รีบหดคอกลับ

“ท่านพ่อ ต้มน้ำเสร็จแล้วเจ้าค่ะ”

ผู้เฒ่าจังตอบรับเบาๆ แล้วออกมาเอาผ้าชุบน้ำร้อนไปเช็ดตัวให้ชายผู้นั้น

จังอวี้จิ่นแอบเหลือบมองคนผู้นั้น เมื่อเห็นว่าเขาดูหล่อเหลา นางก็หน้าแดงอย่างอดไม่ได้

ชาวประมงออกไปทอดอวนที่แม่น้ำตลอดทั้งวัน ต่างก็ตากแดดจนผิวกร้านดำ ไม่เคยเห็นบุรุษที่ผิวขาวและหล่อเหลาเช่นนี้มาก่อน

เมื่อเห็นลูกสาวยืนแอบดูอยู่ที่ประตู ผู้เฒ่าจังก็พูดทันทีว่า “ดูอะไรของเจ้าน่ะ รีบไปทำอาหารเร็วเข้า”

หลังจากเห็นลูกสาวออกไปแล้ว เขาก็ถอดกางเกงของคนผู้นั้นออกอีกครั้ง เช็ดตัวด้วยน้ำร้อน แล้วห่มผ้าให้เขา

ชาวประมงยากจนมาก ไม่มีหมอในหมู่บ้าน ไม่ว่าชายคนนี้จะรอดหรือไม่ล้วนขึ้นอยู่กับชะตากรรมของเขาแล้ว

ในชั่วพริบตาฟ้าก็มืดลง ชายบนเตียงก็ยังไม่ตื่น แต่มีแสงที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเปล่งออกมาจากช่องท้องส่วนล่างของเขา รัศมีของแสงยังคงขยายออกอย่างต่อเนื่อง และค่อยๆ แผ่ขยายไปยังแขนขาและกระดูกของชายผู้นั้น...

บนถนนที่ห่างออกไปหนึ่งร้อยลี้ สาวใช้คนที่สี่กำลังเร่งให้ม้าก้าวไปข้างหน้า ทันใดนั้นกู่ชีวิตลูกที่อยู่ในมือของเหมยเอ๋อร์ก็มีการเคลื่อนไหว นางจึงรีบควบม้าออกไปทันที

“กู่ลูกเคลื่อนไหวแล้ว ท่านอ๋องยังมีชีวิตอยู่จริงๆ”

จู๋เอ๋อร์กล่าวว่า “ราชครูบอกไว้ว่า ตราบใดที่ร่างกายของท่านอ๋องไม่เสียหาย กู่ชีวิตแม่ก็จะสามารถปกป้องเขาจากความตายได้”

จวี๋เอ๋อร์พูดว่า “เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงในเจียงวู พวกเราต้องรีบไปรับท่านอ๋องเดี๋ยวนี้”

หลานเอ๋อร์พยักหน้า

“จริงด้วย เรารีบไปกันเถอะ”

ทุกคนพยักหน้าพร้อมกัน และออกวิ่งไปในทิศทางที่กู่ลูกชี้นำ

ตระกูลอิน

ซูหมิงหลานทำอาหารเต็มโต๊ะ นางไม่เพียงแต่จะมีฝีมือการปักเย็บที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น นางยังทำอาหารเก่งอีกด้วย

แม้ว่าจะไม่มีเครื่องปรุงเสริมเช่นซีอิ๊วและน้ำส้มสายชู แต่ก็ยังอร่อยและเต็มไปด้วยรสชาติ

อินชิงเสวียนกลัวเสี่ยวหนานเฟิงมากวน จึงรีบชงนมผงให้เขากินก่อน เด็กน้อยตัวกลมกำลังนอนถือขวดนมอยู่บนเตียง เท้าเล็กๆ ก็ถีบอากาศเล่น กินอย่างมีความสุขยิ่งนัก

ซูหมิงหลานช่วยประคองอินชิงเสวียนไปนั่งที่หัวโต๊ะ แต่อินชิงเสวียนหลบอย่างรวดเร็ว

“มีท่านพ่อกับท่านแม่รองอยู่ที่นี่ ข้าจะนั่งหัวโต๊ะได้อย่างไร”

แล้วนางก็นั่งลงที่ที่นั่งถัดมา ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มองเห็นเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงได้ถนัด

“เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ที่นี่มีแต่ผู้ใหญ่กับเด็ก ไม่มีลำดับชั้น ทุกคนเชิญนั่งก่อนเถอะ”

อินจ้งไม่ได้ดื่มสุรามากเช่นนี้มานานแล้ว เมื่อเขาลุกขึ้น ตัวก็โงนเงน อินปู้อวี่รีบประคองพ่อไปพักผ่อนที่เรืองด้านหลัง

ทิ้งอินชิงเสวียนและซูหมิงหลานไว้เบื้องหลัง

“ปีที่ผ่านมา ท่านแม่รองต้องทนทุกข์ทรมานกับตระกูลอินของเราแล้ว”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ซูหมิงหลานก็รู้สึกสะเทือนใจ และเศร้าไปพร้อมๆ กัน

ที่อินชิงเสวียนสามารถพูดคำนี้ได้ แม่หนูคนนี้เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

นางกะพริบตาแรงๆ สองครั้ง ก้มศีรษะลงแล้วพูดว่า “เราเป็นครอบครัวเดียวกัน จะมีเรื่องทุกข์ทรมานได้อย่างไร ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ข้าควรทำแล้ว”

อินชิงเสวียนถอนหายใจ

“ชีวิตที่อยู่ในเมืองซุ่ยหานคงลำบากมากกระมัง”

ซูหมิงหลานยิ้ม

“ก็พอใช้ได้ พ่อกับพี่ชายของเจ้าทำงานหยาบๆ ส่วนข้าก็รับเย็บปักซ่อมแซม จึงพอจะใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ ได้”

เมื่อมองดูมือที่มีแต่รอบปุปะจากฝีเข็มของซูหมิงหลาน อินชิงเสวียนก็รู้ว่าชีวิตของพวกเขาไม่ง่าย

นางรีบส่งครีมทามือ ครีมทาหน้า ลิปสติก อายแชโดว์ ดินสอเขียนคิ้ว และสิ่งของอื่นๆ จากในมิติมาให้กับซูหมิงหลานทันที

จากนั้นเขาก็หยิบยาย้อมผมสีดำที่เป็นฟองออกมาสองขวด

“ใช้สิ่งนี้สระผม จะทำให้เส้นผมดำเงางาม ให้ท่านแม่รองกับท่านพ่อใช้ ส่วนของเหล่านี้เอาไว้ทาหน้า ยังมีทามือ วัยงดงามของสตรีแสนสั้นนัก จึงต้องดูแลตัวเองให้ดี”

เมื่อมองดูเครื่องประทินโฉมเครื่องประทินผิวที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน ซูหมิงหลานคิดว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นของที่ฝ่าบาทประทานให้ จึงรีบลุกขึ้นยืนกำลังจะคุกเข่าลง แต่ถูกอินชิงเสวียนหยุดไว้

“อย่าคิดว่าเป็นคนอื่นคนไกลเลย ข้าจะสอนท่านว่าของเหล่านี้ใช้อย่างไร”

อินชิงเสวียนอธิบายให้ซูหมิงหลานเข้าใจอย่างอดทน ทั้งยังถือโอกาสแต่งหน้าให้นางด้วย

เมื่อมองตัวเองที่ดูสดใสในกระจก ซูหมิงหลานก็กลั้นน้ำตาไว้นาน แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถกลั้นไว้ได้น้ำตาไหลอาบแก้มของนางทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์