หลิวเหล่าไท่ไท่พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าไม่กล้าคิดถึงไปไกลเพียงนั้น แค่อ่อนออกเขียนได้ก็พอแล้ว”
ขณะที่เรากำลังคุยกัน ก็มีคนมาซื้อข้าว
“ท่านทำงานไปก่อน ข้าจะกลับไปดูหน่อย”
อินชิงเสวียนมาถึงเรือนหลังเล็กอย่างง่ายดาย อย่างที่คาดไว้ ข้าวและแป้งหมี่เหลือไม่มากแล้ว
นางใช้คะแนนในมิติแลกเป็นแรงงาน จากนั้นข้าวและแป้งหมี่ที่อยู่ข้างในก็ลอยออกไปโดยอัตโนมัติและจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย หลังจากนั้นอินชิงเสวียนก็ออกไปจ้างรถม้า ให้ขนข้าวและแป้งหมี่สิบถุงบรรทุกกลับจวน
อินปู้อวี่กำลังกวาดสายตามองไปรอบทิศอยู่ที่ประตู เมื่อเขาเห็นอินชิงเสวียนในชุดบุรุษ เขาก็วิ่งเข้ามาหาทันที
เขาพูดอย่างโกรธๆ ว่า “น้องหญิงใหญ่ ทำไมเจ้าถึงออกไปคนเดียว”
“ไม่เป็นไร ข้าออกไปซื้อข้าวกับแป้งหมี่มา ขนย้ายเข้าไปข้างในได้เลย”
อินชิงเสวียนมอบเงินก้อนหยวนเป่ามูลค่าห้าตำลึงให้คนขับรถม้า
เมื่อเห็นเงินมากมาย คนขับรถม้าก็พยักหน้าอย่างตื่นเต้น
“ทั้งสองท่านไม่ต้องห่วง ข้ารับรองว่าจะขนย้ายข้าวและแป้งหมี่เข้าไปเก็บโดยไม่ทำหกแม้แต่เม็ดเดียวเลย”
เมื่อเห็นว่าคนขับสามารถแบกถุงข้าวและแป้งหมี่ได้เพียงสองถุงในคราวเดียว อินปู้อวี่ก็อดใจร้อนไม่ได้ เขาแบกถุงสี่ใบพร้อมกัน แล้วเดินเข้าไปในลานบ้าน
อินชิงเสวียนพูดไม่ออก ถ้ารู้แต่แรกนางคงไม่ให้เงินเขามากขนาดนี้
จากนั้นประมาณิบห้านาที ข้าวและแป้งหมี่ก็ถูกขนไปเก็บไว้จนเรียบร้อย คนขับดีใจมาก รับเงินแล้วขับออกไปทันที
หลังจากเข้าไปในเรือนก็ยังไม่เห็นอินจ้ง อินชิงเสวียนถามทันที “ท่านพ่อล่ะ”
อินปู้อวี่ตบแป้งที่ติดตัวออก แล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ท่านพ่อไปที่ห้องหนังสือ ประเดี๋ยวอาจไปบ้านอัคราจารย์ด้วย ข้าได้ยินมาว่าระยะนี้โรคปวดหัวของอัคราจารย์กำเริบ ไม่ได้ไปประชุมเช้าหลายวันแล้ว”
ทันทีที่อินปู้อวี่พูดจบ อินจ้งก็จูงม้าเข้าไปในบ้าน คิ้วหนาขมวดมุ่น
หัวใจของอินชิงเสวียนเต้นไม่เป็นส่ำ หรือว่าเขารู้ทุกอย่างแล้ว
นางเดินไปสอบถาม “ท่านพ่อ เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ”
อินจ้งกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ผู้ที่เป็นนักรบย่อมมีหน้าที่ที่จะต้องปกป้องบ้านเมือง บัดนี้คนป่าเถื่อนกำลังก่อปัญหาที่ชายแดน ในฐานะขุนนาง จะอยู่บ้านเพลิดเพลินไปกับความสงบสุขได้อย่างไร!”
เมื่อเห็นใบหน้าที่มุ่งมั่นของอินจ้ง อินชิงเสวียนก็รู้ว่าตัวเองไม่สามารถโน้มน้าวใจเขาได้
ขุนนางผู้ซื่อสัตย์ของบ้านเมือง ย่อมเป็นเฉกเช่นนี้!
หากตระกูลอินไม่กลับเมืองหลวง ก็จะเป็นการสูญเสียของเย่จิ่งอวี้ และยิ่งเป็นการสูญเสียของต้าโจว
นางถอนหายใจเบาๆ และพูดว่า “ถ้าท่านพ่อตัดสินใจว่าจะไปเจียงวู เช่นนั้นลูกก็มีอะไรจะบอกท่านอีกอย่างด้วย”
อินจ้งหยุดเดิน หันกลับมาแล้วถามว่า “อะไรรึ”
อินชิงเสวียนเม้มริมฝีปาก แน่นอนว่าแผนการตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลง
ก่อนหน้านี้นางเคยพยายามปกปิดเรื่องอินสิงอวิ๋น แต่ตอนนี้อินจ้งได้ตัดสินใจที่จะไปต่อสู้กับเจียงวู การที่นางปกปิดไว้ก็ไม่มีความหมาย
จากนั้นก็ลดสายตาลงแล้วพูดว่า “ความจริงแล้วพี่ใหญ่ไม่ได้ไปดูแลน้ำ แต่ถูกกักตัวไว้ที่เจียงวู...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...