การต่อสู้ที่เจียงวูกำลังเตรียมพร้อม
ทางด้านเมืองหลวง สถานการณ์ทุกอย่างยังคงเดิม
หลังจากการดูแลรักษาพยาบาลหลายวัน เย่จั้นก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว สามารถเดินบนพื้นได้ได้
หลังจากทราบข่าว อินชิงเสวียนก็ส่งน้ำพุวิญญาณสองถังให้เขาไปแช่ตัวทันที
หมอหลวงเหลียงยิ่งสับสนงุนงง
“กุ้ยเฟยพ่ะย่ะค่ะ อาการบาดเจ็บของท่านอ๋องยังไม่หายดี ถ้าบาดแผลถูกน้ำจะไม่อักเสบแน่หรือ”
อินชิงเสวียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไร หมอหลวงเหลียงจะทำตามที่ข้าบอกก็พอ ข้ารับรองว่าจะไม่มีปัญหาอะไร”
“เอ่อ...เช่นนั้นก็ได้พ่ะย่ะค่ะ ใครก็ได้ มายกน้ำสองถังนี้เข้าไปหน่อย”
เย่จั้นกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะ เขานอนมาหลายวันแล้ว สมองตื้อไปหมด การได้นั่งเช่นนี้กลับรู้สึกสบายกว่า
เขายังกังวลถึงเรื่องสงครามในเมืองซุ่ยหาน เขาเสนอตัวจะออกไปหลายครั้ง แต่ถูกเย่จิ่งอวี้ปฏิเสธ เย่จั้นไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากหาหนังสือมาอ่านฆ่าเวลาบ้าง
เมื่อเห็นขันทีน้อยหลายคนช่วยกันถือถังน้ำขนาดใหญ่สองใบเข้ามา ก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “นี่เอามาทำไมรึ”
หมอหลวงเหลียงตามเข้ามา และกล่าวว่า “เป็นน้ำที่หวงกุ้ยเฟยส่งมาให้ท่านอ๋องไปอาบพ่ะย่ะค่ะ”
เย่จั้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็จำได้ว่าตอนที่เย่จิ่งอวี้ได้รับบาดเจ็บ ดูเหมือนว่าเขาจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการอาบน้ำ บางทีอาจมีอะไรความลับอะไรซ่อนอยู่ในน้ำกระมัง
ผ่านเวลามาเนิ่นนานขนาดนี้แล้ว เขาก็พอจะรู้จักอินชิงเสวียนอยู่บ้าง รู้ว่านางจะไม่มีวันทำสิ่งที่ไร้ประโยชน์ ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าและพูดว่า “เอาล่ะ พวกเจ้าทุกคนออกไปได้”
“ท่านอ๋องไม่ต้องการการปรนนิบัติหรือ”
ขันทีน้อยสองคนถามด้วยความเคารพ
เย่จั้นปลดกระดุมเสื้อคลุมออก “ไม่ต้อง”
หมอหลวงเหลียงขยิบตาให้ทั้งสองคน จากนั้นก็ปิดประตู
เย่จั้นได้ยืนขายาวเข้าไปในถังไม้
ทันทีที่เข้าไปนั่งแช่อยู่ในน้ำ จู่ๆ ก็รู้สึกถึงกำลังภายในที่อยู่ในร่างกายที่กำลังเดือดพล่าน พลังที่อยู่นิ่งๆ ในจุดตันเถียนก็ถูกกระตุ้นขึ้นมา
เย่จั้นอดประหลาดใจเสียมิได้
เขารู้ว่าเหตุผลที่เขารอดชีวิต เป็นเพราะวิชาความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาจากสำนักได้ปกป้องหัวใจของเขา แต่ไม่คาดคิดว่าน้ำนี้จะสามารถเสริมความแข็งแกร่งของกำลังภายในได้
อินชิงเสวียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเข็นรถเข้าไป
เย่จิ่งอวี้กำลังตรวจอ่านฎีกา เมื่อเขาเห็นอินชิงเสวียนและลูกชาย สีหน้าแววตาล้วนเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ปิดบังไม่ได้
เขาวางพู่กันในมือลง แล้วเดินอ้อมโต๊ะออกมา
“ทำไมวันนี้ถึงคิดมาหาข้าได้”
“เดินผ่านมาเพคะ จึงอยากเข้ามาดูเสียหน่อย ว่าฝ่าบาทแอบอู้หรือเปล่า”
อินชิงเสวียนเชิดหน้าชูคอมองเขา ท่าทางซุกซนเล็กน้อยเหมือนสาวน้อย
เย่จิ่งอวี้ยิ้มอย่างชอบใจ
“แล้วเสวียนเอ๋อร์เห็นอะไรบ้างล่ะ”
อินชิงเสวียนเม้มริมฝีปาก แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เห็นฮ่องเต้ที่ดีพระองค์หนึ่งที่กำลังขยันตรวจตรากิจการบ้านเมืองอยู่”
เย่จิ่งอวี้ยื่นนิ้วออกไป แล้วแตะหน้าผากอันเกลี้ยงเกลาของนางเบาๆ
ถามด้วยรอยยิ้ม “ปากหวานขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือว่าแอบกินน้ำผึ้งมา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...