หลายวันแล้วที่ไม่ได้รับข่าวจากเจียงวู อินชิงเสวียนจึงร้อนใจอย่างอดไม่ได้
หากว่าอาซือหลานตายแล้ว นางก็คงไม่ต้องกังวลใจมากขนาดนี้ ตอนนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าเจ้าวายร้ายคนนั้นยังคงมีชีวิตอยู่ จิตใจของนางจึงไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
แม้ว่าอินจ้งจะมีประสบการณ์การใช้กองกำลังทหารที่โชกโชน แต่ทว่าแผนการในใจอันแยบยลกลับไม่มากเท่าอาซือหลาน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีอินสิงอวิ๋นที่ถูกพิษกู่เล่นงานอยู่
ช่วงเช้าไปทำการสอนที่สำนักศึกษาหลวง อย่างน้อยก็พอเบี่ยงเบนความสนใจได้บ้าง แต่ทันทีที่กลับถึงตำหนัก อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะคิดฟุ้งซ่าน
เมื่อเห็นพระสนมจิตใจว้าวุ่น อวิ๋นฉ่ายจึงถามอย่างระมัดระวังว่า “พระสนม พระองค์เป็นห่วงนายท่านและคุณชายรองใช่ไหมเพคะ”
อินชิงเสวียนตอบรับและพูดว่า “ถูกต้อง ท่านพ่อและพี่รองของข้าไม่ใช่คนเจ้าเล่ห์ อีกทั้งคู่ต่อสู้ในครั้งนี้แข็งแกร่งมาก ข้ากลัวว่าพวกเขาจะรับมือไม่ไหว”
อวิ๋นฉ่ายยิ้มและพูดอย่างไม่ถือสาว่า “พระสนมอย่าได้เป็นกังวลเลยเพคะ นายท่านเริ่มนำกองทัพตั้งแต่อายุยี่สิบกว่าปี ผ่านสงครามน้อยใหญ่มานับร้อยครั้ง และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ต่อสู้กับเจียงวู จะต้องไม่มีปัญหาแน่นอนเพคะ”
อินชิงเสวียนถอนหายใจ
“ขอให้เป็นเช่นนั้นนะ หวังว่าเราจะได้รับข่าวดีจากเจียงวูในเร็ววัน”
อวิ๋นฉ่ายยิ้มและพูดว่า “พระสนมวางพระทัยเถอะเพคะ มันจะเกิดขึ้นแน่นอน”
เสียงหัวเราะของเสี่ยวหนานเฟิงดังขึ้นมาจากด้านนอก อินชิงเสวียนเดินไปที่ประตูทางเข้า จึงเห็นไป๋เสวี่ยนอนหรี่ตาหมอบอยู่ในที่เย็นฉ่ำ พร้อมสะบัดหางใหญ่ไปมา เสี่ยวหนานเฟิงนั่งอยู่ในรถเข็นเด็ก และจับหางของมันเล่นอยู่
เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของลูกชาย อินชิงเสวียนก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันที แน่นอนว่าเด็กทุกคนคือนางฟ้าตัวน้อยที่คอยรักษาและเยียวยามนุษย์
เมื่อเห็นว่าวันนี้อากาศค่อนข้างดี จึงเรียกอวิ๋นฉ่ายและเสี่ยวอานจื่อ เพื่อพาเสี่ยวหนานเฟิงไปที่สวนอวิ๋นเซียง
ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว เมลอน ลูกแพร์และพีชต่างก็สุกงอมเต็มต้น โดยเฉพาะแตงกวามีสีเขียวขจี ซึ่งสวยงามอร่ามตามากทีเดียว
“ผู้หญิงคนนั้นฟื้นแล้ว กระหม่อมได้ตามหานักวาดภาพ เพื่อวาดลักษณะของฆาตกรตามคำบอกเล่าของนาง”
เจวี๋ยอิ่งหยิบหนังสือม้วนออกมาจากหน้าอก
เย่จิ่งอวี้ไม่เคยเห็นหน้าตรงของอาซือหลาน และไม่รู้ลักษณะท่าทางของเขา แต่เขาเคยได้ยินอินชิงเสวียนอธิบายถึงลักษณะมาก่อน บอกว่าใต้มุมดวงตาของเขา มีไฝข้างตาอยู่หนึ่งเม็ด ซึ่งเหมือนกับคนในรูปภาพพอดี
สายตาคมของเขาเย็นเยือก และพูดเสียงเข้มว่า “น่าจะเป็นจอมโจรอาซือหลาน ตอนนี้เขาหนีกลับเจียงวูไปแล้ว หากว่าอินจ้งโจมตีเจียงวูได้ จะต้องนำตัวเขากลับมาแน่นอน”
เจวี๋ยอิ่งพูดขึ้นอีกว่า “นอกจากเรื่องนี้แล้ว ยังมีอีกเรื่องหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ ซึ่งน่าสงสัยมากทีเดียว”
เย่จิ่งอวี้เลิกคิ้วและถามว่า “เรื่องอะไร?”
เจวี๋ยอิ่งพูด “กระหม่อมได้ยินว่าหลายวันนี้มีคนชราจำนวนไม่น้อยหายตัวไป และมีประชาชนแจ้งข่าวให้แก่ฝ่ายราชการ...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...