อินชิงเสวียนออกมาจากมิติแล้ว
เดิมทีคิดว่าแผนการของตัวเองจะไม่มีสิ่งใดผิดพลาด แต่ความจริงพิสูจน์ให้เห็นว่า นางคิดง่ายเกินไป
ทว่าทั้งหมดกลับไม่ได้เสียเปล่า เมื่อรู้ว่าคนของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์สามารถช่วยอินสิงอวิ๋นได้ ก็นับว่าประสบความสำเร็จอย่างเต็มเปี่ยม
อีกทั้งยังทำให้นางรู้ถึงความสัมพันธ์ของกู่แม่และกู่ลูก ดังนั้นจึงคิดวิธีอื่นได้แล้ว
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ จูอวี้เหยียนไม่น่าจะพูดโกหก
แต่ผู้อาวุโสที่ชิงเอาพิณไปได้บอกไว้ว่า นางจะไม่กลับมาที่เมืองหลวงอีก เย่จิ่งอวี้ส่งกำลังคนออกไปตามหาจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้ยินข่าวคราวของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์เลย เกรงว่าเส้นทางนี้จะล้มเหลว
ทันใดนั้น อินชิงเสวียนก็นึกถึงบทเพลงใจหินผาที่ตัวเองได้ร่ำเรียนมา ไม่รู้ว่าจะทดลองได้หรือไม่
หากสามารถช่วยอินสิงอวิ๋นได้จริงๆ ก็อาจทดลองกับเย่จิ่งอวี้ได้เช่นกัน
เมื่อคิดถึงเรื่องเหล่านี้ อินชิงเสวียนก็รู้สึกถึงความหวังที่ริบหรี่อีกครั้ง
นางรีบเดินมาที่ห้องหนังสือ อินจ้งก็เดินออกมาจากในห้องพอดี เมื่อเห็นอินชิงเสวียน สีหน้าและสายตาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
“พระนางกุ้ยเฟย”
“ท่านพ่อไม่ต้องมาพิธี ข้าจะออกจากวังไปเยี่ยมท่านพี่ใหญ่ ท่านพ่อกลับไปพร้อมข้านะเจ้าคะ!”
“คือว่า...”
อินจ้งลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
อินชิงเสวียนเลิกตากลมโต
“หรือว่าท่านพ่อมีธุระ?”
อินจ้งกระแอมไอแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไร เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ”
อินชิงเสวียนพยักหน้า และหันไปทางเย่จิ่งอวี้
“หม่อมฉันไม่ออกไปนานหรอกเพคะ อีกสักครู่ก็จะกลับ ผ่าบาทช่วยหม่อมฉันปกป้องดูแลจ้าวเอ๋อร์ให้ดีด้วย”
“เจ้าวางใจได้ ข้าจะดูแลตำหนักจินหวูให้ดี”
อินชิงเสวียนไม่มัวพูดพร่ำ นางออกจากวังพร้อมกับอินจ้ง และกลับไปยังจวนแม่ทัพ
“ท่านพ่อ ข้าอยากไปพบท่านพี่ใหญ่ อยากบรรเลงบทเพลงให้เขาฟัง อาจสามารถเรียกสติเขากลับมาได้”
อินชิงเสวียนไม่กล้าพูดเรื่องหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ และไม่ได้บอกว่าลิ่นเซียวเป็นผู้สืบทอดมา เพราะกลัวว่าอินจ้งจะคาดหวังมากเกินไป และสุดท้ายจะผิดหวังอย่างมากที่สุด
อินจ้งรู้ว่าลูกสาวชอบบรรเลงเพลงพิณมาตั้งแต่ยังเล็ก และในตระกูลอินก็มีเพียงลูกชายคนโตที่เชี่ยวชาญเสียงสัมผัสทางด้านดนตรี ตอนที่อินชิงเสวียนยังไม่ออกเรือน สองพี่น้องมักจะบรรเลงเพลงพิณด้วยกันบ่อยๆ
หากไม่สามารถทำได้ ก็ถือเป็นน้ำใจของลูกสาว เขาไม่มีทางปฏิเสธได้
“ไปเถอะ พ่อจะไปหาของที่ห้องหนังสือสักหน่อย”
“เจ้าค่ะ”
อินชิงเสวียนน้อมตัวเล็กน้อย และไปยังด้านหลังบ้าน
อินสิงอวิ๋นยังคงถูกมัดไว้บนเตียง นิ้วมือหนาเท่าโซ่เหล็ก เมื่อไม่ได้พบกันหลายวัน เขาผอมลงมาก ใบหน้าก็ซีดขาวไม่น้อย
อาจเป็นเพราะเส้นเลือดในร่างกายกำลังก่อปัญหา อินชิงเสวียนรู้สึกสงสารอย่างไม่อาจห้ามใจได้
นางแลกพิณมาจากด้านในมิติ วางลงบนขา นิ้วเรียวยาวทั้งสิบค่อยๆ เคลื่อนไหว ทันใดนั้นเสียงพิณอันไพเราะก็ดังไปทั่วห้อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...