ทั้งสองแยกทางกันที่ทางแยกบนถนน แล้วองครักษ์หลายคนก็คุ้มกันอินชิงเสวียนกลับมายังตำหนักจินหวู
ตามที่คาดไว้ ไป๋เสวี่ยไม่ได้อยู่ในตำหนัก จังอวี้จิ่นบอกว่ามันกิวอาหารเสร็จแล้วก็ออกไปข้างนอก
ช่างเป็นวัยรุ่นที่ชอบเล่นสนุกจริงๆ
อินชิงเสวียนเดินไปที่หน้าตำหนัก วางนิ้วบนริมฝีปากแล้วผิวปาก ครู่ต่อมานางก็ได้ยินเสียงโครมคราม ร่างสีขาวดุจหิมะก็กระโดดออกมาจากสวน ร่างใหญ่วิ่งทะยานราวกับม้า ทำให้พื้นสั่นสะเทือน
เมื่อเห็นอินชิงเสวียน ไป๋เสวี่ยก็รีบวิ่งไปหาทันที ยกอุ้งเท้าปุกปุยขึ้นกอดเอวของนาง
อินชิงเสวียนตบหัวอันใหญ่โต แล้วพูดว่า “ไม่เล่นแล้ว ข้ามีภารกิจที่ให้เจ้าทำ แต่ให้เจ้าติดตามคนอื่นไป เจ้ารับปากได้หรือไม่”
ไป๋เสวี่ยเห่า เอียงคอ กะพริบตาโตที่ชุ่มชื้น ดูเหมือนกำลังขบคิดอยู่
เมื่อเห็นการแสดงออกที่เหมือนมนุษย์มากขึ้นของไป๋เสวี่ย อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะลูบขนที่นุ่มฟูของมัน
“ถ้าเจ้าตามไป กลับมาแล้วจะมีอาหารแห้งและเนื้อไก่ให้กิน น้ำพุวิญญาณก็มีอยู่แล้ว ข้าจะเพิ่มให้เป็นสองเท่าเลย แต่เจ้าต้องสัญญาว่าจะทำงานให้สำเร็จ ช่วยข้าตามหาคนร้าย”
ไป๋เสวี่ยไม่สนใจสิ่งอื่นมากนัก แต่เมื่อได้ยินน้ำพุวิญญาณ มันก็อ้าปากเห่าลั่นทันที
อินชิงเสวียนก้มศีรษะลงแล้วถามว่า “เห่าหมายความว่าอย่างไร เจ้ายอมรับอย่างนั้นหรือ”
ไป๋เสวี่ยขยับพยักหน้า
อินชิงเสวียนกอดคอของมันอย่างมีความสุข ก้มลงจูบเบาๆ
“ไป๋เสวี่ยเด็กดี เมื่อเจ้ากลับมาข้าจะให้รางวัลอย่างดี”
ทันใดนั้นไป๋เสวี่ยก็กระโดดโลดเต้นอย่างดีอกดีใจ ยกอุ้งเท้าปุกปุยวางทับกัน แล้วยกขึ้นยกลงคำนับอินชิงเสวียนหลายครั้ง
“ไปเถอะ ไปหาเจ้านายของเจ้าที่อยู่ในห้องหนังสือ เขาจะบอกเองว่าให้เจ้าติดตามใคร”
ไป๋เสวี่ยเห่าสองครั้ง ราวกับจะบอกให้อินชิงเสวียนวางใจ แล้ววิ่งหายไป
ไป๋เสวี่ยเก่งทุกอย่าง แต่ฉลาดเกินไป การเชื่อฟังต่ำ ปกติแล้วจะเรียกไม่หัน ไม่เช่นนั้นคงให้มันออกไปจับคนร้ายแล้ว
ในวังหลวงแห่งนี้ คนเดียวที่สามารถทำให้มันสนใจได้ ก็น่าจะเป็นเสี่ยวหนานเฟิง
แม้ว่ามันจะออกไปเที่ยวเล่นทุกวัน แต่ทันทีที่กลับตำหนัก มันก็จะติดตามเสี่ยวหนานเฟิงไปทุกย่างก้าว ปล่อยให้เขาดึงเล่นตามสบาย
สามารถมีเพื่อนเล่นแบบนี้ได้ก็ไม่เลว หวังว่าการเดินทางในคราวนี้ของเจ้าสุนัขจะไม่ตกอยู่ในอันตรายใดๆ หากเจ้าสุนัขได้รับบาดเจ็บ อินชิงเสวียนจะรู้สึกเสียใจแน่นอน
หลังจากดูเงาสีขาวหายไป อินชิงเสวียนก็เข้าไปในประตูตำหนัก
พอกลับมาที่ห้อง อินชิงเสวียนก็ประสบปัญหาอีกครั้ง ทำอย่างไรถึงจะกระจายข่าวว่าพิณการเวกไม่ได้อยู่กับนางได้อย่างไร ถ้านางบอกผีแคระในวัง ก็หมายความว่าต้องปล่อยตัวเขาไป
หากเป็นคนธรรมดา ก็สามารถเอาไปเป็นเหยื่อล่อ และถือโอกาสตามน่องรอยไปจับตัวผู้สมรู้ร่วมได้อยู่หรอก แต่ทักษะวรยุทธ์ของคนเหล่านี้แปลกมาก อินชิงเสวียนกลัวจริงๆ ว่าถ้าปล่อยไป เขาจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ถึงตอนนั้นจะกลายเป็นคนโง่ที่อวดฉลาด จับใครไม่ได้สักคน
ถ้าไม่เช่นนั้น ก็ต้องปล่อยตัวหวังซุ่นไป
แต่คนผู้นี้ก็ไม่น่าเชื่อถือ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเขามีวิชาแปลงโฉมที่ยอดเยี่ยม การจะตามตัวเขาให้พบอีก ก็เหมือนกับงมเข็มในมหาสมุทร
ทันใดนั้นนางก็นึกถึงเครื่องระบุตำแหน่งในมิติได้ ไม่รู้ว่าสิ่งนี้สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือของนางได้หรือไม่
อินชิงเสวียนเข้าไปแลกมาจากมิติอันหนึ่ง ส่งให้อวิ๋นฉ่าย แล้วให้นางเดินไปที่ไหนก็ได้
อวิ๋นฉ่ายไม่รู้ว่าทำไม แต่ก็ยังทำตาม
แต่ความคิดนี้เป็นเพียงความคิดชั่วขณะ ไม่นานก็ถูกเย่จิ่งอวี้ดับลงอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา ยามนี้ความอดอยากเริ่มจะคลี่คลาย การเปิดคลองยังไม่บรรลุผลเต็มที่ เขารู้สึกไม่สบายใจที่จะจากไปเช่นนั้น ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสัญญากับอินชิงเสวียน ว่านางจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นฮองเฮา ซึ่งคำสัญญานี้ยังไม่บรรลุผล
เย่จิ่งอวี้ถอนหายใจเบาๆ กับใบหน้าเล็กๆ ที่นุ่มนิ่มของลูกชาย พลางคิดว่าต้าโจวจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามถึงห้าปี จึงจะเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง
เมื่อถึงตอนนั้น เขาจะวางรากฐานสำหรับจ้าวเอ๋อร์ เพื่อที่เขาจะได้ขึ้นสู่บัลลังก์โดยไม่ต้องกังวลใดๆ
พออินชิงเสวียนเปิดประตู เห็นเย่จิ่งอวี้กำลังอุ้มลูกอย่างเหม่อๆ พอดี ร้องอุทานอย่างอดไม่ได้
“ฝ่าบาท ท่านมาแล้ว”
เย่จิ่งอวี้ตื่นจากภวังค์ทันที พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
“ไป๋เสวี่ยกับเจวี๋ยอิ่งออกจากวังแล้ว มันฟังคำสั่งเสวียนเอ๋อร์จริงๆ แม้ว่าข้าจะบอกให้มันออกไป มันคงดูไม่ดีใจเช่นนี้ เว้นแต่จะรู้สึกว่าข้ากำลังตกอยู่ในอันตราย ถึงจะออกมาปกป้องเจ้านาย”
“เช่นนี้ก็ดีแล้วเพคะ หากใครสามารถพาตัวมันไปได้ง่ายๆ ไป๋เสวี่ยคงถูกลักพาตัวไปนานแล้ว”
อินชิงเสวียนก้าวไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม แล้วเข้ามาอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงต่อ
“ฝ่าบาทมาได้เวลาพอดี หม่อมฉันมีเรื่องอยากจะหารือกับฝ่าบาท”
“เรื่องใดหรือ”
เย่จิ่งอวี้เดินเข้าห้อง แล้วนั่งลงบนเก้าอี้
อินชิงเสวียนอุ้มลูกนั่งข้างๆ หันหน้ามาพูดว่า “เป็นเรื่องหวังซุ่น หม่อมฉันอยากจะปล่อยเขาไป ให้ไปปล่อยข่าว แล้วหม่อมจะใส่เครื่องติดตามไว้ในตัวของเขา รับรองว่าเขาจะหนีไม่พ้นเมืองหลวง หากใช้อย่างเหมาะสม ก็อาจจับพวกเขาได้หมดในคราวเดียว แม้ว่าจะส่งไป๋เสวี่ยออกไปแล้ว แต่ก็ไม่อาจรับรองว่าสุนัขจะตามหาพบ วิธีที่ดีที่สุดคือใช้ทั้งไม้แข็งและไม้นวม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...