อินชิงเสวียนมองย้อนกลับไป แต่ก็ไม่เห็นใครอยู่
จึงจับมือเล็กป้อมของลูกขึ้นมา แล้วถามด้วยรอยยิ้ม “จ้าวเอ๋อร์คิดถึงเสด็จพ่อหรือลูก”
เสี่ยวหนานเฟิงยังคงชี้ออกไปด้านนอก
“เด็จพ่อ มามา~”
อวิ๋นฉ่ายวิ่งไปดูที่ประตู แล้วพูดอย่างพิศวง “ไม่มีใครอยู่นะ?”
ทันทีที่พูดจบ ก็มีเสียงฝีเท้ามั่นคงดังมาจากนอกประตู
มีร่างหนึ่งผลักเปิดประตูเข้ามา ซึ่งก็คือเย่จิ่งอวี้ในชุดเสื้อคลุมผ้าสีดำลายสีเข้ม
เรือนผมสีดำสนิทถูกรวบขึ้นด้วยปิ่นกลัดมวยผมสีดำ ดูสุขุมเรียบร้อย ทำคนทั้งคนมีกลิ่นอายดุดันน่าครั่นคร้ามขึ้น
อวิ๋นฉ่ายและจังอวี้จิ่นออกไปทันที พร้อมกับปิดประตูให้อย่างใส่ใจ
เย่จิ่งอวี้อุ้มลูกชายขึ้นมาแล้ว จิ้มจมูกเล็กๆ ของเขา แล้วถามว่า “วันนี้จ้าวเอ๋อร์เป็นเด็กดีหรือไม่”
เสี่ยวหนานเฟิงมองดูลวดลายรูปมังกรสีเข้มที่สวยงามบนเสื้อผ้าอย่างสนใจใคร่รู้ แล้วพูดเสียงนุ่มนิ่ม “ดีๆ”
เย่จิ่งอวี้เขย่าตัวเสี่ยวหนานเฟิงในอ้อมแขนเบาๆ
แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “จ้าวเอ๋อร์เป็นเด็กดีจริงๆ”
อินชิงเสวียนอดสงสัยไม่ได้ว่า เสี่ยวหนานเฟิงแค่พูดส่งเดช หรือเขามีความสามารถในการรับรู้ล่วงหน้า?
น่าเสียดายที่ตอนนี้ลูกยังเด็กเกินไป ยังพูดไม่เข้าใจนัก ต้องเก็บไว้ถามตอนโตแล้วล่ะ
เมื่อมองดูเสื้อคลุมสีดำของเย่จิ่งอวี้ นางก็คาดเดาเรื่องราวได้แล้ว
“ฝ่าบาทพบที่ซ่อนของพวกเขาแล้วหรือเพคะ”
เย่จิ่งอวี้พยักหน้าและกล่าวว่า “เจวี๋ยอิ่งเพิ่งรายงานเมื่อครู่ ว่าหวังซุ่นถูกคนตงหลิวจับตัวไป ซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังหนึ่งในเมืองหลวง ข้าเตรียมตัวลงมือคืนนี้ ไปจับตัวในตอนที่พวกเขายังไม่ทันได้ตั้งตัว”
“ดีเพคะ รีบจัดการเร็วจะได้สบายใจเร็วๆ หม่อมฉันไปแจ้งพี่ชายที่บ้านให้ทราบแล้ว ฝ่าบาทจะลงมือเมื่อใด ก็ส่งคนไปแจ้งได้เลย”
ตราบใดที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ พวกเขาจะเป็นภัยคุกคามต่ออินชิงเสวียน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขาเป็นบรรพบุรุษของคนญี่ปุ่น พวกเขาก็สมควรตายแล้วล่ะ (สาเหตุที่คนจีนเกลียดญี่ปุ่นเนื่องจากเหตุการณ์การสังหารหมู่ที่หนานจิง)
“ลำบากเสวียนเอ๋อร์แล้ว ข้าจะส่งคนไปแจ้งพี่ชายเจ้าเดี๋ยวนี้ ลงมือยามจื่อ (เวลาประมาณ 23.00-01.00น.)”
ครั้นเห็นท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูของเขา เย่จิ่งอวี้ก็อดหัวเราะไม่ได้
“จ้าวเอ๋อร์เข้าใจหรือไม่”
เสี่ยวหนานเฟิงส่ายศีรษะ แล้วพยักหน้า
ป้าเล็กๆ อ้าออก พูดว่า “เข้าจาย ไม่เข้าจาย”
จู่ๆ เย่จิ่งอวี้ก็หัวเราะออกมาดังลั่น ลูบศีรษะเล็กๆ ที่อ่อนนุ่มของเบาๆ
พูดเลียนแบบเขาว่า “ไม่เข้าจาย ไม่เข้าจาย”
เสี่ยวหนานเฟิงก็หัวเราะเช่นกัน เย่จิ่งอวี้ก็จับแก้มเล็กๆ อีกครั้ง ก่อนจะพูดว่า “ข้าจะไปแล้ว เสวียนเอ๋อร์อยู่ในวังก็ต้องระวังตัวด้วย”
อินชิงเสวียนไปส่งเย่จิ่งอวี้ออกจากตำหนักจินหวู ส่วนตัวเองก็กลับไปเตรียมตัวในห้อง เพิ่มมาอีกคนก็ช่วยเพิ่มกำลังคนได้ ยิ่งกว่านั้น คนที่ถูกส่งไปในครั้งนี้ ล้วนเป็นคนที่นางรักทั้งหมด
พริบตาเดียวก็ถึงยามจื่อ อินชิงเสวียนสวมชุดพรางตัว แล้ววางเสี่ยวหนานเฟิงที่กำลังหลับใหลไว้ในมิติ
ขณะที่กำลังจะออกจากวัง องครักษ์ก็มารายงานว่า จอมพลเฒ่าต้องการพบเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...