สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 595

อินชิงเสวียนทำสีหน้าแปลกใจ จู่ๆ ทำไมเย่จิ่งอวี้จึงอยากฟังเพลงขึ้นมา ก่อนขึ้นครองราชย์เขาได้ชื่อว่าเป็นท่านอ๋องแห่งความสุดยอดทั้งห้า หากตัวเองต้องเล่นพิณต่อหน้าเขา จะไม่เป็นเหมือนการควงดาบต่อหน้านักรบกวนอูงั้นหรือ?

“เสวียนเอ๋อร์ไม่สมัครใจงั้นหรือ?”

เย่จิ่งอวี้เม้มริมฝีปากบางเล็กน้อย และพูดต่อว่า “ความจริงข้าประพันธ์เพลงได้ หากเสวียนเอ๋อร์ต้องการ ข้าสามารถแต่งเพลงและเล่นดนตรีกับเจ้าได้นะ”

เมื่อได้ยินดังนั้น อินชิงเสวียนจึงกลอกตามองบนอย่างอดไม่ได้

นี่ยังคงจำคำพูดของอาซือหลานไว้สินะ

ในเมื่อยอมรับในความสัมพันธ์ของสามีภรรยากันแล้ว อินชิงเสวียนไม่ต้องให้เกิดความเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็นอีก

“ฝ่าบาทอยากฟังเพลงก็ย่อมได้เพคะ แต่หมอมฉันหวังว่าฝ่าบาทเพียงแค่ต้องการฟังจริงๆ เท่านั้น ไม่ใช่ได้รับผลกระทบมาจากผู้ใด หม่อมฉันและไอ้สุนัขชาติชั่วอย่างอาซือหลานไม่เคยมีการกระทำซ่อนเร้นร่วมกัน หากว่าฝ่าบาทยังคงติดใจเรื่องนี้อยู่ เกรงว่าจะดูถูกความรู้สึกที่มีต่อกันมากเกินไปแล้วเพคะ”

เย่จิ่งอวี้ยังคงหน้าแดง เขารู้สึกอิจฉาเล็กน้อย ทุกครั้งที่คิดถึงภาพคนรักของตัวเองกำลังพูดคุยหัวเราะกับผู้ชายคนอื่น ในใจของเขารู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกมีดกรีด

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาประสบกับความรู้สึกเช่นนี้เช่นกัน

ไม่ว่าเป็นองค์รัชทายาท หรือว่าเป็นฮ่องเต้ ไม่เคยมีผู้หญิงคนใดเล็ดลอดเข้ามาในสายตาของเขาเลย และไม่เคยมีใครทำให้เขาเป็นห่วงและเป็นกังวลอยู่ตลอดเวลาได้เหมือนกับอินชิงเสวียนอีกแล้ว

ความรักที่เขามีต่ออินชิงเสวียน ไม่ใช่เพียงแค่ใบหน้าที่งดงามเป็นเลิศ แต่ถูกเอาชนะด้วยความไมตรีจิตและความมีเมตตาของนาง ตั้งแต่พวกเขารู้จักกันจนถึงตอนนี้ เรียกได้ว่าเป็นความเคารพต่อความสามารถ อุปนิสัย และคุณสมบัติประจำตัวอย่างแท้จริง

“เพราะข้าคิดสกปรกไปเอง เสวียนเอ๋อร์อย่าได้โกรธเลยนะ ข้าคงเป็นกังวลมากเกินไป จึงอดไม่ได้ที่จะคิดเรื่องนี้”

ต่อให้เป็นเสด็จแม่หวนไท่เฟย เย่จิ่งอวี้ก็ไม่เคยก้มหัวให้เช่นนี้มาก่อน แต่คนตรงหน้าคืออินชิงเสวียน จู่ๆ เย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นเหมือนของตาย

ความสัมพันธ์นี้ได้มาด้วยความยากเย็น และอาจเรียกได้ว่ามันผ่านปัญหามานับไม่ถ้วน ก่อนที่พวกเขาจะมาถึงจุดที่พวกเขาต้องพึ่งพาอาศัยกันเหมือนอย่างปัจจุบัน และเขาก็รักและทะนุถนอมสิ่งนี้อย่างมาก

“ข้ารู้ว่าเสวียนเอ๋อร์กำลังคิดเรื่องใดอีกบ้าง เรื่องที่ข้ารับปากเสวียนเอ๋อร์ ข้อต้องทำให้ได้อย่างแน่นอน เมื่อปัญหาทุกอย่างในเมืองหลวงถูกจัดการหมดแล้ว ข้าจะให้โหราจารย์หาเหตุผลเพื่อโยกย้ายผู้หญิงในตำหนักออกจากวัง จากนั้นค่อยหาฤกษ์งามยามดี เพื่อแต่งตั้งให้เสวียนเอ๋อร์ได้เป็นฮองเฮา”

อินชิงเสวียนเงยใบหน้าที่สะสวยขึ้นมา ใบหน้าที่ขาวผ่องมีรอยแดงผุดขึ้นมา

พูดเสียงตุ้งติ้งว่า “ข้าไม่ได้อยากเป็นฮองเฮาเสียหน่อย”

“เช่นนั้นก็ช่วยไม่ได้นะ”

เย่จิ่งอวี้หัวเราะเบาๆ และยื่นมือมาอุ้มอินชิงเสวียนในแนวขวาง จากนั้นก็วางนางลงบนเบาะนุ่ม

อินชิงเสวียนส่งเสียงตกใจเล็กน้อยออกมา และเอื้อมมือไปคว้าปกคอเสื้อของเขา

ร่างสูงโปร่งของเย่จิ่งอวี้ประกบลงมา ริมฝีปากบางที่เยือกเย็นเลื่อนผ่านใบหูของนางไป และพูดเสียงเบาว่า “ต่อไปเจ้าเรียกข้าว่าอาอวี้นะ ข้าชอบ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์