สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 627

อินจ้งรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

การเดินทางข้ามผ่านเขาสูงชันระยะทางห่างไกลเช่นนี้ แต่สาวน้อยผู้บอบบางกลับสามารถมาถึงที่นี่ได้ด้วยตัวเอง เห็นถึงความตั้งใจจริงๆ

“เจ้ามาแค่เพราะอยากพบหน้าอินสิงอวิ๋นงั้นหรือ”

อินจ้งถามอีกครั้ง

แววตาคมกริบจับต้องไปยังศีรษะ เป่าเล่อเอ่อร์รู้สึกประหม่า ยิ่งก้มศีรษะลงมากขึ้น

“ใช่ ข้าอยาก...เจอเขา”

เป่าเล่อเอ่อร์อยากบอกว่านางอยากใช้ชีวิตอยู่กับอินสิงอวิ๋น แต่นางไม่รู้ว่าอินจ้งจะคิดอย่างไร นางจึงไม่กล้าพูดมากกว่านี้

เมื่อเห็นอินจ้งจ้องมองไปที่เป่าเล่อเอ่อร์ราวกับพิพากษานักโทษ ซูหมิงหลานรู้สึกไม่สบายใจ รีบไกล่เกลี่ยด้วยรอยยิ้ม

“สิงอวิ๋นเด็กคนนี้นี่ ยังไม่กลับมาอีกหรือ”

“คงไม่กลับมาแล้วกระมัง เจ้าไปเจอลูกสาวข้าได้อย่างไร”

แล้วอินจ้งก็หันกลับมาหาเป่าเล่อเอ่อร์อีก

เขาต่อสู้กับเจียงวูมาหลายปี ทั้งสองฝ่ายต่างเจ็บหนัก ทุกครั้งที่เขาคิดถึงทหารเหล่านั้น ความประทับใจดีๆ ของอินจ้งที่มีต่อเจียงวูก็หายไปโดยสิ้นเชิงทันที

แม้ว่าเป่าเล่อเอ่อร์จะเป็นเพียงสตรี แต่นางก็เป็นองค์หญิงแห่งเจียงวู หากมีอะไรผิดพลาด ตระกูลอินก็จะพลอยติดร่างแหไปด้วย

ตอนนี้ในที่สุดครอบครัวก็ได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา อินจ้งไม่อยากถลำลึกซ้ำรอยเดิมอีก

อินชิงเสวียนกล่าวว่า “เรื่องนี้พูดไปแล้วก็ยาว สรุปก็คือท่านพ่อวางใจได้ การเดินทางเสี่ยงอันตรายของเป่าเล่อเอ่อร์ในครั้งนี้ เกือบจะถูกขายไปอยู่หอนางโลม ตอนนี้นางกำลังตั้งท้องลูกของพี่ใหญ่ หวังว่า ท่านพ่อจะไม่อคติต่อภูมิหลังทางครอบครัว อีกทั้งฝ่าบาทก็ทราบเรื่องนี้แล้ว ท่านพ่อไม่ต้องพะวงอะไรอีก”

เมื่อเขาได้ยินว่าเป่าเล่อเอ่อร์ตั้งครรภ์ ท่าทางของอินจ้งก็เปลี่ยนไป แสดงสีหน้ายินดีปรีดา ไม่คาดคิดว่าตระกูลอินจะมีทายาทเร็วๆ นี้ เมื่อได้ยินว่าฝ่าบาทก็รู้เรื่องนี้แล้ว เขาก็รู้สึกโล่งใจ

“ถ้าเช่นนั้นก็ให้แม่รองเจ้าจัดการเรื่องที่พักให้องค์หญิงน้อยเถิด ช่วงนี้พี่ใหญ่ของเจ้ามีภาวะซึมเศร้า คงออกไปดื่มอีกแล้ว คงใกล้จะกลับมาแล้วกระมัง”

ทันทีที่อินจ้งพูดจบ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าสม่ำเสมอที่นอกประตู อินจ้งถามทันทีว่า “สิงอวิ๋นหรือ?”

มีเสียงตอบรับเบาๆ ดังมาจากด้านนอก จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงสงบ “นี่ก็ดึกแล้ว ลูกขอกลับไปพักผ่อนก่อน”

อินจ้งพูดว่า “รอเดี๋ยวค่อยกลับ เจ้าเข้ามาดูก่อน ว่าใครมา”

อินสิงอวิ๋นหยุดชะงักชั่วครู่

“หรือว่าเป็นน้องหญิงใหญ่?”

เมื่อครู่เขาเข้าวังมา แต่ได้รับแจ้งว่ากุ้ยเฟยออกจากวังแล้ว ยังไม่กลับมา อินสิงอวิ๋นรออยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็ต้องกลับมาก่อน

เมื่อได้ยินเช่นนี้ก็อดยินดีเสียมิได้ เอื้อมมือออกไปผลักประตูให้เปิดออก

ครั้นเห็นสามีที่โหยหาอยู่เสมอ เป่าเล่อเอ่อร์รู้สึกตื่นเต้น ลุกขึ้นยืนโดยไม่รู้ตัว

อินสิงอวิ๋นก็เห็นนางทันทีเช่นกัน เขาตกตะลึงไปชั่วขณะ

ยกเว้นชุดที่ดูแตกต่างแล้ว สตรีตรงหน้าเขาเหมือนสตรีในฝันทุกประการ

ดวงตาของเป่าเล่อเอ่อร์แดงก่ำ ละล่ำละลักถามขึ้นว่า “อามู่เอ่อร์ ท่าน...ท่านยังจำข้าได้หรือไม่”

“อามู่เอ่อร์” สามคำนี้ดูเหมือนจะเปิดความทรงจำ อินสิงอวิ๋นก็จำเรื่องราวในอดีตตอนที่อยู่เจียงวูได้ทันที

ในอดีตเขาถูกไล่ตามจนไปติดอยู่บนยอดเขา ทหารของเจียงวูบังคับให้เขายอมจำนน อินสิงอวิ๋นยอมตายดีกว่ายอมจำนน เพื่อไม่ให้ตัวเองถูกจับไว้เป็นตัวประกันไว้ขู่อินจ้ง เขาได้กระโดดลงจากหน้าผา

เมื่อลืมตาขึ้น ก็เห็นหญิงสาวตรงหน้าแล้ว

เป่าเล่อเอ่อร์เป็นผู้ช่วยชีวิตเขา พาเขากลับไปที่กระโจมพัก และดูแลเขาอย่างดี

ความทรงจำนั้นค่อยๆ ปรากฏขึ้น เขาจำได้ว่าตัวเองมักจะเข้าป่าไปเก็บดอกไม้ มามอบให้เป่าเล่อเอ่อร์ นางจะวิ่งเข้ามารับเขาอย่างมีความสุข และถือดอกไม้ที่ดูไม่สวยงามมากนักอย่างระมัดระวัง ใบหน้าเล็กๆ เปี่ยมไปด้วยความสุข เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

หลังจากที่หมอไปแล้ว อินปู้อวี่ก็ถามว่า “น้องหญิงใหญ่ เจ้ากลับมามีอะไรรึ”

“ข้ามาส่งพี่สะใภ้ คนนี้อย่างไรล่ะ”

อินชิงเสวียนชี้ไปที่เป่าเล่อเอ่อร์ และแนะนำ “นี่คืออินปู้อวี่ พี่รองของข้า”

อินปู้อวี่เป็นคนง่ายๆ อะไรก็ได้ เข้าไม่ถามอะไร พูดโพล่งขึ้นว่า “สวัสดีพี่สะใภ้ ปู้อวี่ยินดีดที่ได้พบ”

ใบหน้าของเป่าเล่อเอ่อร์เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเมื่อถูกเรียกเช่นนี้ แต่หัวใจกลับรู้สึกหวานชื่น

อินจ้งพูดกับซูหมิงหลาน “พาองค์หญิงน้อยกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ พรุ่งนี้เมื่อสิงอวิ๋นตื่น เราค่อยคุยกันอีกที ปู้อวี่ เจ้าอยู่ที่นี่ดูแลพี่ใหญ่เจ้าที่ ชิงเสวียน เจ้ามากับพ่อ พ่อมีเรื่องอยากจะคุยกับเจ้า”

“เจ้าค่ะ/ขอรับ”

ทุกคนตอบรับพร้อมกัน ต่างก็เดินกลับไป ในขณะที่อินชิงเสวียนตามอินจ้งไปที่ห้องหนังสือ

“ท่านพ่ออยากคุยเรื่องจูอวี้เหยียนหรือเจ้าคะ ท่านพ่อคิดว่า ลูกทำเกินไปหรือเปล่า?”

อินชิงเสวียนฉลาดเป็นกรด เมื่อนางเห็นสีหน้าผิดแผกของอินจ้ง นางก็เดาด้วยว่าเขาต้องได้ยินสิ่งที่นางพูด

อินจ้งเทชาร้อนใส่ถ้วย แล้วยื่นให้อินชิงเสวียน

“พ่ออยากจะพูดเรื่องอวี้เหยียนจริงๆ แต่ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด พ่อไม่ได้ตั้งใจจะตำหนิเจ้า สิ่งที่เจ้าทำถูกต้องแล้ว นิสัยของอวี้เหยียนนั้นเหลือเกินจริงๆ มีบางอย่างที่ต้องบอกให้นางรับรู้ ก็ใช่ว่าจะไม่ดี”

หลังจากได้ยินคำพูดของอินจ้งแล้ว อินชิงเสวียนยอบกายคำนับเล็กน้อย

“ขอบคุณท่านพ่อที่เข้าใจ ลูกไม่อยากเห็นความพยายามของทั้งครอบครัว ถูกมองข้ามในสายตาของจูอวี้เหยียน นางยังคิดว่าทุกคนต่างกำลังชดเชยให้นางอยู่ ขืนยังเป็นเช่นนี้ต่อไป นางก็มีแต่จะแย่ลงไปทุกที”

อินจ้งพยักหน้า

“เจ้าพูดถูก เป็นพ่อที่คิดผิด คิดว่าการทำดีต่อนางจะทำให้นางสงบใจลงได้บ้าง ตอนนี้รู้แล้วว่ามันไม่เป็นเช่นนั้น จะว่าไปก็เป็นความผิดของพ่อทั้งหมด ถ้าไม่ใช่เพราะอาการบาดเจ็บและเป็นไข้ในสนามรบ อัคราจารย์ของเจ้าคงไม่ส่งพ่อไปที่บ้านไร่ใกล้ๆ แค่เสียใจที่ตอนนั้นพ่อละเมอเพ้อพก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น กลับกลายเป็นการทำเรื่องผิดๆ ตอนนี้จะมาเสียใจภายหลังก็สายเกินไปแล้ว ทำได้เพียงพยายามแก้ไขให้ดีที่สุดเท่านั้น”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์