อินชิงเสวียนจิบน้ำ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในเมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นแล้ว คิดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่จะตามใจจูอวี้เหยียนเช่นนี้ก็ไม่ได้ ตอนนี้อาซือหลานตายแล้ว จูอวี้เหยียนก็คงไม่มีแผนอะไรอีก ขอเพียงปล่อยให้นางเข้าใจลำดับความสำคัญ ก็จะลดความเย่อหยิ่งลงได้แน่ แล้วนางจะค่อยๆ ชินไปเอง”
อินจ้งพยักหน้า
แม้ว่าเขาจะไม่ยินยอมที่จะละทิ้งลูกสาวคนนี้ แต่สิ่งที่อินชิงเสวียนพูดนั้นก็ไม่ไร้เหตุผล ดังคำโบราณที่ว่า การตามใจลูกก็ไม่ต่างจากการฆ่าลูกทางอ้อม เขาก็ตามใจจูอวี้เหยียนจริงๆ นางอยากได้อะไรก็สรรหามาให้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่จูอวี้เหยียนพูดในวันนี้ ทำให้อินจ้งรู้สึกเย็นจับขั้วหัวใจจริงๆ
เขาถอนหายใจเบาๆ พูดว่า “พ่อรู้แล้ว แล้วเรื่ององค์หญิงน้อยเจียงวู ฝ่าบาทว่าอย่างไรบ้าง”
อินชิงเสวียนกระตุกมุมปากขึ้น แต่เป็นรอยยิ้มที่ขมขื่นเล็กน้อย
แม้ว่านางจะสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ แต่ฝ่าบาทองค์ปัจจุบันก็ไม่ใช่ฝ่าบาทองค์เดิมอีกต่อไป
ภาพของเย่จิ่งอวี้คุกเข่าลงบนพื้นแวบขึ้นมาต่อหน้าต่อตาอีกครั้ง ทันใดนั้นหัวใจก็รู้สึกราวกับถูกมือใหญ่คว้าไว้ เจ็บปวดจนหายใจไม่ออก
เพื่อไม่ให้อินจ้งมองออก อินชิงเสวียนแสร้งทำเป็นผ่อนคลายและพูดว่า “หากราชาเผ่าเจียงวูเห็นด้วยกับเรื่องนี้ ฝ่าบาทย่อมไม่คัดค้านอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น การแต่งงานระหว่างทั้งสองแคว้นก็ส่งผลดีทางการเมือง สัมพันธมิตรทางการทูตของทั้งสองแคว้นก็จะมีเสถียรภาพ สงครามลดลง การทำศึกสงครามที่ชายแดนหลายปีที่ทำให้ราษฎรเดือดร้อน ก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะได้พักฟื้นอย่างสงบสุข”
อินจ้งพูดด้วยความโล่งใจว่า “นั่นก็จริง เหตุผลที่พ่อถามองค์หญิงเจียงวูหลายครั้ง ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้นางแต่งเข้าจวน แต่กลัวจริงๆ ว่าจะเกิดปัญหาขึ้นกับตระกูลอินโดยไม่จำเป็นขึ้นอีก กว่าครอบครัวของเราจะได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย พ่อไม่อยากเสียใครไป ในเมื่อฝ่าบาทยินดีที่จะช่วยให้สมหวัง พ่อย่อมไม่คัดค้านอยู่แล้ว”
“ท่านพ่อโปรดวางใจ สองวันนี้ลูกจะให้ฝ่าบาทเขียนจดหมายส่งไปให้ราชาเผ่าเจียงวู ถ้าเขาตกลง ก็จัดงานแต่งงานได้ เพียงแต่...ลูกอาจหายไปสักพัก ไม่สามารถมาร่วมงานแต่งของพี่ใหญ่ได้”
อินจ้งถามว่า “หรือว่าฝ่าบาทจะเสด็จประพาสนอกวังหรือ”
สิ่งที่อินชิงเสวียนพูด ทำให้อินจ้งไม่สามารถปฏิเสธได้ เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วถามว่า “เจ้าจะออกไปเมื่อไหร่”
“ภายในสองสามวันนี้ ข้ายังมีงานต้องทำอยู่ เมื่อเสร็จงานก็จะเดินทางทันที”
อินจ้งพูดอย่างอ่อนโยน “ถ้าเจ้าไม่รีบ ก็รออีกสักหนึ่งหรือสองวันเถอะ อีกสี่วันก็จะเป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของแม่เจ้า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาพ่อและพี่ชายทั้งสองคนของเจ้าก็มีแต่ทำศึกอยู่ข้างนอก ไม่ได้บูชาเซ่นไหวแม่ของเจ้าอย่างดีเลย บัดนี้กว่าพวกเราจะได้อยู่ในเมืองหลวงกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เราไปด้วยกัน ทำความสะอาดหลุมศพ เผากระดาษเงินกระดาษทองให้แม่เจ้าเถอะ”
แม้ว่าอินชิงเสวียนจะไม่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับแม่ของเจ้าของร่างเดิม แต่เรื่องเช่นนี้ก็ยากที่จะปฏิเสธได้
แม้ว่านางจะกระวนกระวายใจดังไฟแผดเผา แต่นางก็จำใจต้องรับปาก
“ลูกทราบแล้วเจ้าค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...