อินชิงเสวียนก็ประหลาดใจเช่นกัน
เดิมทีคิดว่าเฟิงเอ้อร์เหนียงเป็นเพียงเถ้าแก่เนี้ยหอนางโลมธรรมดาๆ แต่ไม่คิดว่าสตรีคนนี้จะมีวรยุทธ์สูงขนาดนี้ แม้ว่าตัวเองและพี่รองจะร่วมมือกัน ก็ไม่สามารถเอาชนะนางได้
ระหว่างทั้งสองไม่มีความเกลียดชังอย่างลึกซึ้งต่อกัน อินชิงเสวียนไม่ต้องการใช้ทักษะห้าสิบห้าสิบ ถึงอย่างไรการทำร้ายอีกฝ่าย ตัวนางก็ไม่ได้รู้สึกดีไปกว่ากัน
อันที่จริง เฟิงเอ้อร์เหนียงไม่ได้ผ่อนคลายเท่าที่นางแสดงให้เห็น ลำพังแค่อินชิงเสวียนคนเดียวก็เกินที่จะรับมือได้แล้ว เมื่อผนวกกับอินปู้อวี่ ก็ยิ่งทำให้นางรู้สึกลำบากมาก
ในชั่วพริบตา ก็ผ่านไปหลายสิบกระบวนท่า
เมื่อเห็นสองพี่น้องตระกูลอินที่บีบเข้ามาเรื่อยๆ เฟิงเอ้อร์เหนียงก็ทำอุบายหลอกตา และเหาะออกจากวงการต่อสู้
“เราอย่าสู้กันเลย คนอื่นเขาต่อสู้กันก็เพราะมีความแค้นต่อกัน ข้าแค่พาแม่นางน้อยกลับมาโดยไม่ได้ตั้งใจเท่านั้น ตอนนี้ก็ส่งคนคืนให้พวกเจ้าแล้ว แม่นางโปรดเมตตาปรานี ให้ข้ามีชีวิตรอดด้วย ใครบ้างที่ชีวิตไม่ลำบาก ไยต้องทำให้ลำบากใจด้วย”
ดวงตากลมโตของอินชิงเสวียนนิ่งขึง มองไปยังเฟิงเอ้อร์เหนียงจากระยะไกล
“เถ้าแก่เนี้ยมีทักษะวรยุทธ์ขนาดนี้ แต่เดินทางมายังเมืองหลวง คงไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผลกระมัง!”
เฟิงเอ้อร์เหนียงจัดคอเสื้อให้เรียบร้อย แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “จะมีเหตุผลอะไรได้เล่า ใครต่างก็รู้ดีว่าเมืองหลวงมีความเจริญรุ่งเรือง ยิ่งมีคนมาทำการค้ามากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีไม่ใช่หรือ ข้าอยากหาเงิน ก็ต้องมาที่นี่เป็นธรรมดา”
อินชิงเสวียนมองดูนางสักพักแล้วพูดว่า “ทางที่ดีก็ควรให้เป็นเช่นนี้ ขืนเจ้ากล้าทำสิ่งเลวร้ายใดๆ ข้าจะทำให้เรือนจุ้ยหงของเจ้าถูกทำลายย่อยยับ”
เฟิงเอ้อร์เหนียงอุทานและพูดว่า “ที่นี่อยู่ในเขตเมืองหลวง แม้ว่าข้าจะมีความกล้าหาญเป็นสองเท่า ข้าก็ไม่กล้าหรอก ข้าทำการค้า ไม่ต้องพึ่งพาผู้สูงศักดิ์เช่นพวกเจ้าให้ช่วยดูแล น้องชายคนนี้ ถ้าเจ้ามีเวลาว่าง ก็ไปนั่งเล่นที่เรือนจุ้ยหงสิ ข้าจะหาสตรีที่สวยที่สุดมาให้เจ้าเอง”
อินปู้อวี่ถ่มน้ำลายทันที
“สถานที่ผิดทำนองคลองธรรมเช่นนั้น ข้าไม่มีวันไปเหยียบหรอก”
เฟิงเอ้อร์เหนียงหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เรื่องนี้บอกแน่นอนไม่ได้หรอก ขอบคุณท่านทั้งสองที่เมตตาไว้ชีวิต ข้าก็เดินเตร่มาพอสมควรแล้ว ต้องขอตัวลาก่อน”
เฟิงเอ้อร์เหนียงประกบมือคำนับ แล้วเดินไปที่ต้นไม้ข้างๆ
อินชิงเสวียนกล่าวว่า “จริงๆ ข้าก็อยากมาทำความสะอาดหิมะให้ท่านแม่เหมือนกัน จึงมัดมันไว้กับม้าเอาติดมาด้วย เรียกว่าพลั่วเหล็ก ใช้งานง่ายกว่าไม้ตักหิมะ”
อินปู้อวี่ไม่ใช่คนขี้ระแวง และไม่คิดมาก เขารับไว้อย่างยินดี
แม้ว่าคนทั่วไปจะห้ามใช้เหล็ก แต่ก็ไม่น่าแปลกใจที่ราชวงศ์จะมีของแบบนี้
อินชิงเสวียนไม่มีอะไรทำ นางจึงเดินสำรวจอยู่ใกล้ๆ หลังจากเดินวนอยู่รอบหนึ่ง นางพบว่ามีหลุมศพอยู่ที่นี่
ที่เฟิงเอ้อร์เหนียงมาที่นี่ นางคงออกมาจากตรงนี้
หรือว่ามีสมบัติล้ำค่าซ่อนอยู่ในหลุมศพนี้ หรือว่ามีเคล็ดวิชายุทธ์อะไรอยู่?
ไม่อย่างนั้นผู้หญิงคนนี้จะมาทำอะไรที่นี่
เมื่อมองไปที่อินปู้อวี่ที่กำลังขุดหิมะ อินชิงเสวียนก็ไม่วายเกิดความคิดพิสดาร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...