เมื่อได้ยินเสียงคนเรียกฮวาเชียน เย่จิ่งอวี้ก็หันศีรษะทันที
แน่นอนว่าเขาเห็นสตรีคนหนึ่งที่มีรูปร่างหน้าตาคุ้นเคย แม้เวลาผ่านไปหลายปี ใบหน้าที่ตรากตรำความลำบากมากมายของนาง ยังเป็นเหมือนกับในความทรงจำของเย่จิ่งอวี้
เมื่อมองดูสตรีในชุดสีขาวพระจันทร์ยืนอยู่ข้างๆ ฮวาเชียนอีกครั้ง หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็พองโตขึ้น
เสวียนเอ๋อร์ ทำไมนางถึงมาที่เป่ยไห่!
ขณะที่กำลังว่อกแว่ก ดาบเล่มยาวก็ฟาดลงมาที่หัว ตามมาด้วยถ้อยคำก่นด่าอันโกรธเกรี้ยว
“บากะยาโร่ว (ไอ้บ้าเอ๊ย)”
คนตัวเตี้ยรู้สึกได้ว่าเย่จิ่งอวี้กำลังฟุ้งซ่าน ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองถูกดูหมิ่น อดไม่ได้ที่จะก่นด่าสาปแช่ง
เย่จิ่งอวี้ไม่มีความอดทนที่จะเสียเวลากับพวกเขาอีกต่อไป แค่อยากจะไปหาอินชิงเสวียนโดยเร็วที่สุด
ทันทีที่กระบี่ยาวในมือตวัด เสียงมังกรแผดคำรามก็ดังขึ้นอีกครั้ง ปราณกระบี่มหาศาลทำให้กระบี่ยาวสูงขึ้นหนึ่งเมตรในทันที
เมื่อผีแคระตงหลิวเห็นสิ่งนี้ แทนที่จะกลัว เขากลับหัวเราะ
“เจ้าน่ะ ขยะ”
ทันใดนั้นเขาก็ยกดาบยาวขึ้น โจมตีไปที่แขนของเย่จิ่งอวี้ โดยไม่คาดคิดว่าปราณกระบี่นั้นเร็วกว่าวิชาดาบของเขาหลายเท่าตัว ได้ยินเสียงฉึ่บ และแขนของผีแคระตงหลิวก็ถูกตัดออกเรียบร้อย
วิชายุทธ์ที่คนผู้นี้ฝึกฝนนั้น คล้ายคลึงกับวิชาภูษาเหล็กและวิชาระฆังทองคุ้มกาย แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีคนโจมตีทะลุการป้องกันได้อย่างง่ายดาย
เขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้ววิ่งพรวดเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง
“เจ้าน่ะ ตายซะ ตายซะ!”
เดินทีเย่จิ่งอวี้คิดแต่ว่าต้องไปหาอินชิงเสวียน แต่เมื่อถูกผีแคระยื้อยุดไว้เช่นนี้ นัยน์ตาก็ฉายแววโกรธขึ้ง
เมื่อเห็นว่าแขนของสหายถูกตัดขาด ผีแคระอีกคนก็เหาะเข้ามา และร่วมมือกันโจมตีเย่จิ่งอวี้
คนที่มาที่นี่ไม่ใช่คนธรรมดา แถมยังมีทักษะพิเศษ เย่จิ่งอวี้ไม่สามารถหลบหนีได้ชั่วขณะหนึ่ง
อินชิงเสวียนได้นำน้ำพุวิญญาณที่มีอยู่ในถุงน้ำออกมาแล้ว
“นี่คือน้ำพุยา ให้เจ้าสำนักเซี่ยวดื่มก่อน จะได้บรรเทาอาการบาดเจ็บ”
ฮวาเชียนรีบรับไว้ แล้วพูดกับซื่อเมี่ยวอินทั้งสี่ว่า “แม่นางคนนี้เป็นผู้ช่วยชีวิตข้า พวกเจ้าไม่ต้องสงสัย รีบให้เจ้าสำนักดื่มเถอะ”
ซื่อเมี่ยวอินพยักหน้าพร้อมกัน บีบปากของเจ้าสำนักเซี่ยวให้อ้าออก และเทน้ำพุวิญญาณให้เขาดื่ม
ซูถูเฝ้าดูอยู่ไม่ไกล เมื่อเห็นว่าเจ้าสำนักเซี่ยวถูกแว้งกัด เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุข รีบส่งภาษามือให้ลูกศิษย์หลายคนทันที
หลายคนเข้าใจ เหาะเข้าหาเจ้าสำนักเซี่ยวทันที
ซือเหมี่ยวอินกำลังป้อนน้ำอยู่ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงลมแปลกๆ เหนือหัว จึงชักกระบี่ยาวออกมาทันที
อินชิงเสวียนก็ปล่อยเลยตามเลย พิณการเวกควบคุมทั้งมิตรและศัตรู โดยอาศัยพลังใจอันแกร่งกล้า ด้วยการเพิ่มพลังมิติเข้าไป ทำไห้จิตใจของอินชิงเสวียนแข็งแกร่งกว่าของคนอื่นมาก
จิตใจของชาวตงหลิวได้รับผลกระทบทันที ผู้ที่มีทักษะวรยุทธ์ต่ำล้วนหมดสิ้นเรี่ยวแรง แม้แต่การถืออาวุธยังเป็นปัญหา ยอดฝีมืออย่างโนจิริจูนิก็มีอุปสรรคขัดขวางเช่นกัน เขารู้สึกสับสนว้าวุ่นใจ พลังความแข็งแกร่งลดน้อยลง
ฮวาเชียนและซื่อเมี่ยวอินต่างก็ตกตะลึง
นึกไม่ถึงว่าอินชิงเสวียนจะสามารถบรรเลงพิณนี้ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเพลงนี้ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน จะมีพลังมากมายมหาศาลขนาดนี้
หลายคนที่กำลังจะลงมือก็หยุดเช่นกัน
ในเมื่อมีคนในหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถบรรเลงพิณนี้ได้ พวกเขาก็ไม่อยู่ในจุดที่จะแย่งชิงได้อีก
ใบหน้าของซูถูเขียวขุ่น แม่นางผู้นี้มาจากไหนกันแน่ หรือว่าหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์จะมีพลังซ่อนเร้นอยู่?
ฉุยอวี้ซึ่งยืนอยู่ห่างไกลรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย นิ้วในแขนเสื้อก็อดสั่นไม่ได้
เป็นนาง นางมาที่เป่ยไห่จริงๆ
เมื่อเทียบกับอินชิงเสวียนแล้ว พิณการเวกก็ไม่มีค่าอะไรเลย
ในเวลานี้ เจ้าสำนักเซี่ยวก็รู้สึกตัวแล้ว เมื่อเห็นอินชิงเสวียนกำลังดีดพิณด้วยมือข้างหนึ่ง ก็อดตกตะลึงเสียมิได้
นี่คือ...หญิงสาวจากเมืองหลวงคนนั้นงั้นหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...