อินชิงเสวียนหันไปมองเย่จิ่งอวี้
กล่าวด้วยเสียงสั่นเล็กน้อย เนื่องจากความตื่นเต้นมากเกินไป
“เจ้า...คืออาอวี้?”
เย่จิ่งอวี้ยื่นมือออกมา ถอดหน้ากากออก ภายใต้แสงจันทร์ ใบหน้าหล่อเหลาคมสันก็ประจักษ์ชัดในดวงตาของอินชิงเสวียน
เรียวตาหงส์หรี่ลงเล็กน้อย แววตาเต็มไปด้วยความสุข
เขาจับมือของอินชิงเสวียนทันที พูดด้วยเสียงอ่อนโยน “ข้าเอง เสวียนเอ๋อร์ เจ้ามาที่นี่ทำไม”
อินชิงเสวียนรู้สึกตื่นเต้น อดไม่ได้ที่จะโผตัวเข้าสู่อ้อมแขนของเย่จิ่งอวี้ พูดละล่ำละลักว่า “ข้าต้องมาตามหาท่านอยู่แล้ว อาอวี้ ท่านไม่เป็นไร ดีจังเลย”
เย่จิ่งหลานยืนอยู่ข้างหลังทั้งสองคน เขาไอแห้งๆ และพูดว่า “เฮ้ ทุกคนไปกันหมดแล้ว พวกเราก็ควรตามไปไม่ใช่หรือ”
ใบหน้าของอินชิงเสวียนเปลี่ยนเป็นสีแดง รีบผลักเย่จิ่งอวี้ออก แล้วก็เห็นเจ้าสำนักเซี่ยวที่ถูกพยุงออกไปด้วยศิษย์หลายคน
ฮวาเชียนยังคงยืนอยู่ไม่ไกล ดูเหมือนกำลังรอพวกเขาอยู่
เย่จิ่งอวี้พูดทันที “เสวียนเอ๋อร์ ไว้เราค่อยคุยเรื่องอดีตกันทีหลัง ข้ามีเรื่องจะถามฮวาเชียน”
เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็น อินชิงเสวียนรีบพูดว่า “อาอวี้ นี่เป็นความเข้าใจผิดทั้งหมด ท่านอาฮวาไม่ใช่คนที่ฆ่าหวนไท่เฟย หวนไท่เฟยยังไม่ตาย”
เย่จิ่งอวี้ตกใจเล็กน้อย
“หมายความว่าอะไร”
“หมายความตามนั้นแหละ ให้ท่านอาฮวาหัวอธิบายให้ท่านฟังได้”
หลังจากที่อินชิงเสวียนพูดจบ นางก็โบกมือให้ฮวาเชียน
ฮวาเชียนเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว โค้งคำนับเล็กน้อยแล้วพูดว่า “หม่อมฉันฮวาเชียน ถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ”
เรียวตาหงส์ของเย่จิ่งอวี้มองนางอย่างเย็นชา
“ทั้งหมดนี้เกิดอะไรขึ้น”
ฮวาเชียนถอนหายใจเบาๆ และพูดว่า “เรื่องนี้พูดแล้วก็ยาว ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เราจะพูดคุยกัน เชิญพระบาทตามข้าไปที่หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์เถอะ”
เย่จิ่งอวี้ยังคงมีข้อสงสัยอยู่ในใจ อดไม่ได้ที่จะมองไปที่อินชิงเสวียน
อินชิงเสวียนพยักหน้าและกล่าวว่า “หวนไท่เฟยอยู่ในหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ฝ่าบาทก็คงต้องการพบนางเช่นกันกระมัง”
“จริงรึ”
เย่จิ่งอวี้ถามด้วยความประหลาดใจ
ไม่ถึงสิบห้านาที เย่จิ่งอวี้และคนอื่นๆ ก็มาถึงสถานที่ตั้งชั่วคราวของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์
ซื่อเมี่ยวอินทั้งสี่กำลังเฝ้าประตู เห็นฮวาเชียนแล้วก็ทำความเคารพอย่างพร้อมเพรียงกัน
“ศิษย์พี่ฮวาเชียน”
“เจ้าสำนักเป็นอย่างไรบ้าง”
ฮวาเชียนหยุดถาม
เซ่อเอ๋อร์กล่าวอย่างพินอบพิเทา “เจ้าสำนักเฮ่อยู่ในห้อง กำลังถ่ายทอดพลังรักษาให้เจ้าสำนักอยู่”
เมื่อได้ยินว่าเฮ่ออวิ๋นทงอยู่ที่นี่ ฮวาเชียนก็รู้สึกโล่งใจ
เมื่อมีเขาอยู่ที่นี่ เจ้าสำนักก็จะไม่เป็นไร
“ข้าจะพาแขกเหล่านี้ไปที่ห้องรับรองแขกก่อน หากมีอะไร มาแจ้งให้ข้าทราบทันที”
หลังจากที่ฮวาเชียนพูดจบ นางก็พาทุกคนไปที่ห้องฝั่งตะวันตก
เย่จิ่งอวี้ยื่นมือออกไปหยุดนาง พูดอย่างเร่งด่วน “เรื่องอื่นเอาไว้ค่อยคุยกัน ตอนนี้เสด็จแม่ข้าอยู่ที่ไหน ให้ข้าพบนางได้หรือไม่”
ฮวาเชียนลังเล แล้วพูดว่า “ก็ได้ ข้าจะพาฝ่าบาทไปเดี๋ยวนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...