สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 693

จู่ๆ เด็กสาวก็แสดงความไม่พอใจออกมา

“เงินข้าก็จ่ายแล้ว พวกเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาเก็บไว้”

เซี่ยวอิ๋นหวนอุ้มเด็กเดินเข้าไปหา พูดกับเด็กสาวว่า “ถ้าข้าจำไม่ผิด น้องสาวคนนี้น่าจะมาจากสำนักเทียนหยวนกระมัง”

เด็กสาวเหลือบมองนางแวบหนึ่ง แล้วประกบมือคำนับและกล่าวว่า “ถูกต้อง หรือว่าท่านผู้นี้คือผู้คุมตราเซี่ยว?”

เซี่ยวอิ๋นหวนพยักหน้า

“สองคนนี้เป็นลูกสะใภ้และลูกชายของข้า หวังว่าน้องสาวจะไว้หน้าข้าด้วย”

เด็กสาวหันไปมองอินชิงเสวียนอีกครั้ง ครั้นเห็นนางงดงามปานนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉา แล้วหันไปมองเย่จิ่งอวี้ที่เป็นบุรุษรูปงาม หล่อเหล่าเลิศล้ำ ในใจยิ่งรู้สึกไม่ยุติธรรม

มีสามีหน้าตาดีเพียงนี้ ทั้งยังมีแม่สะใภ้ที่คอยปกป้องนาง สตรีคนนี้โชคดีจริงๆ

นางถอนมืออย่างเคียดแค้น แค่นเสียงพูดว่า “เอาเถอะ เห็นแก่ผู้คุมตรา วันนี้จะมอบต่างหูให้เจ้า คราวหน้าข้าจะไม่ยอมแพ้แน่นอน”

หลังจากพูดจบก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง

อินชิงเสวียนค่อนข้างอึดอัดใจ แต่ตอนนี้นางมีทุกคนในครอบครัวออกมาด้วย ทุกอย่างต้องเห็นความปลอดภัยเป็นสำคัญ ไม่ต้องการที่จะต่อสู้โดยไม่จำเป็นจริงๆ

เซี่ยวอิ๋นหวนเห็นว่าลูกสะใภ้ไม่ค่อยมีความสุขนัก จึงพูดว่า “ถ้าแม่จำไม่ผิด แม่นางน้อยคนนี้น่าจะเป็นเก่อหงยวนหลานสาวของเจ้าสำนักเทียนหยวน ถูกเอาอกเอาใจมาตั้งแต่เด็ก เสวียน‍เอ๋อร์ไม่จำเป็นต้องใส่ใจนาง”

อินชิงเสวียนก้มศีรษะลงแล้วพูดว่า “ขอบคุณท่านแม่ ข้าไม่เป็นไร เราไปกันเถอะเจ้าค่ะ”

เซี่ยวอิ๋นหวนขยิบตาให้ลูกชาย

“ต่างหูสวยมากขนาดนี้ ทำไมยังไม่รีบใส่ให้เสวียนเอ๋อร์ล่ะ”

เย่จิ่งอวี้ตอบรับอย่างยินดี หยิบต่างหูจากมือของอินชิงเสวียน และช่วยใส่ต่างหูให้นาง

เซี่ยวอิ๋นหวนกล่าวชมทันที “เสวียน‍เอ๋อร์งดงาม เป็นไข่มุกขับเน้นคนงามจริงๆ”

เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงก็หันศีรษะ ตบมือเล็กๆ แล้วพูดว่า “คนงาม คนงาม”

คำชมจากแม่สามีและลูกชายทำให้อินชิงเสวียนอารมณ์ดีขึ้นมาก นางทิ้งเรื่องราวไว้เบื้องหลัง

ทุกคนเดินเที่ยวชมสักพัก เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงก็เริ่มพอใจแล้ว จึงกลับไปที่หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ระหว่างทางอินชิงเสวียนถามว่า “ท่านแม่รู้จักคนที่ชื่ออินหลีหรือไม่”

การแสดงออกของเซี่ยวอิ๋นหวนเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“หรือว่า นางกับเสวียน‍เอ๋อร์เกี่ยวข้องเป็นอะไรกัน?”

เมื่อมองดูสีหน้าท่าทาง อินชิงเสวียนก็รู้ว่านางต้องรู้จัก จึงพยักหน้าอย่างรวดเร็วและพูดว่า “คนคนนี้เป็นอาแท้ๆ ของข้า ได้ยินมาว่านางเล่นพิณการเวกในเมืองหลวงเมื่อไม่กี่ปีก่อน ต่อมาก็หายไป ที่เสวียน‍เอ๋อร์มาที่นี่ ก็หวังว่าจะได้รู้ว่าท่านอาอยู่ที่ไหน”

ครั้นกลับมาถึงหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ สองสามีภรรยาก็ให้เซี่ยวอิ๋นหวนกลับไปพักผ่อน เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงก็ถูกอวิ๋นฉ่ายอุ้มไปเข้านอน

อินชิงเสวียนรู้สึกปวดขาอยู่หน่อยๆ นางถอดรองเท้าและเอนตัวพิงเตียง

เย่จิ่งอวี้รินชาให้นาง แล้วถามอย่างอบอุ่นว่า “เหนื่อยหรือไม่”

อินชิงเสวียนยกมุมปากขึ้นยิ้ม

“เปล่า ข้าไม่ได้บอบบางขนาดนั้น”

แต่ในกลับรู้สึกเหนื่อยอยู่บ้าง มักคิดเสมอว่าทุกอย่างจะต้องแก้ไขได้ จะได้กลับเมืองหลวงโดยเร็วที่สุด แต่ตอนนี้เกรงว่าจะกลับไม่ได้สักระยะหนึ่ง

งานแต่งงานของพี่ใหญ่ก็ไม่ได้เข้าร่วม เมื่อนึกถึงสายตาที่ตัดใจไม่ลงของครอบครัวในตอนที่นางจากมา อินชิงเสวียนก็ถอนหายใจอย่างเงียบๆ

ทันใดนั้นก็รู้สึกว่ามีมือข้างหนึ่งบีบขาให้ตัวเอง แรงบีบกำลังพอดี ให้ความรู้สึกสบายมาก

นางเงยหน้าขึ้นมองเย่จิ่งอวี้ แล้วพูดอย่างกึ่งจริงจังกึ่งล้อเล่น “ไหนเลยจะกล้าให้ฝ่าบาทนวดให้ข้า?”

เย่จิ่งอวี้ยื่นนิ้วออกมา แล้วดีดหน้าผากอันเกลี้ยงเกลาเบาๆ

พูดด้วยรอยยิ้ม “ที่นี่ไม่มีฮ่องเต้อะไรนั่น เจ้าและข้าเป็นเพียงสามีภรรยาธรรมดาทั่วไปเท่านั้น”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์