“เชื่อว่าทุกท่านคงรู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้ วันนี้ที่เชิญทุกคนมาที่นี่ ด้วยหวังว่าทุกคนจะรวมตัวกันเป็นหนึ่ง ตามหาตัวสายลับที่ซ่อนอยู่บนชายฝั่งทะเลเป่ยไห่มาให้ได้”
เฮ่ออวิ๋นทงเป็นคนแรกที่เอ่ยขึ้น สำนักกระบี่สังหารเป็นสำนักกระบี่อันดับหนึ่งในใต้หล้า ได้รับความเคารพยำเกรงอย่างสูง เป็นที่เข้าใจได้ว่าเขารับผิดชอบสถานการณ์โดยรวม
ทุกคนพยักหน้าทันที วิธีการของเมื่อวานโหดร้ายและเลวทรามอย่างยิ่ง ดูเหมือนฝีมือของชาวตงหลิวจริงๆ
ผู้อาวุโสสวีกล่าวว่า “ข้าเห็นด้วยกับเรื่องนี้ หากไม่กำจัดสายลับ เหล่าลูกศิษย์ก็จะตกอยู่ในอันตรายที่ไม่อาจคาดเดาได้ เรารอนแรมมาไกลถึงที่นี่ แม้ว่าจะตาย ก็ต้องตายอย่างคุ้มค่า”
เจ้าสำนักเซี่ยวเห็นด้วย “ใช่แล้ว”
ซูถูเหลือบมองเจ้าสำนักเซี่ยว พูดกระทบกระแทกแดกดัน “ตามความเห็นของข้า อาจไม่ใช่คนตงหลิวก็ได้ อาจจะเป็นลูกศิษย์คนหนึ่งในสำนักบางสำนัก ใช้ประโยชน์จากน่านน้ำที่มีปัญหา เพื่อตกปลาในเวลาลำบาก ทำร้ายเพื่อนด้วยกัน”
เจ้าสำนักเซี่ยวอารมณ์ร้อนอยู่แล้ว อีกทั้งยังไม่ชอบซูถูที่ใช้วิธีการไม่ชอบเพื่อให้ได้มาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศ จึงตบโต๊ะอย่างอดไม่ได้
“ซูถู เจ้ากำลังกล่าวหาใคร”
ซูถูไม่ได้หลบ เขาหัวเราะเบาๆ พูดอย่างสงบ “เรื่องการตายของหมอเทวดาหนิงยังไม่ได้ข้อสรุป เรื่องนี้ หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์จะต้องเกี่ยวข้องด้วยแน่”
เจ้าสำนักเซี่ยวพูดด้วยความโกรธ “ไร้สาระ เจ้าหมายความว่าข้าฆ่าหนิงจงเจ๋องั้นหรือ”
“การตายของหมอเทวดาหนิงเป็นเพราะฝ่ามือทลายเสียง เป็นสิ่งประจักษ์ชัดแก่สายตาของทุกคน เจ้าสำนักเซี่ยวลำพังแค่ประโยคเดียวก็จะบอกปัดปฏิเสธ ค่อนข้างไม่มีเหตุผลเลย”
ซูถูยังคงมีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่ภายใต้รอยยิ้มซ่อนคมมีดไว้ในนั้น
“เจ้าสำนักเซี่ยวบอกว่าจะให้คำตอบแก่เรา แต่บัดนี้ยังไม่เห็น แม้ว่าเราจะไม่เอ่ยถึง เกรงว่าหมอเทวดาหนิงก็คงตายไม่สงบ”
เซี่ยวอิ๋นหวนรู้อารมณ์ของชายชรา กลัวว่าเขาจะไม่สามารถทนได้ จึงชิงพูดก่อนว่า “สหายชาวยุทธ์ทุกท่าน เจ้าสำนักได้ส่งซื่อเมี่ยวอินกลับไปสืบที่สถานที่ตั้งหลักของสำนักแล้วเมื่อสองวันก่อน เชื่อว่าจะได้รับข่าวเร็วๆ นี้ การตายของหมอเทวดาหนิง หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ก็เสียใจพอกัน ไม่ว่าอย่างไรก็จะคำตอบแก่ทุกท่าน จะไม่ยอมให้หมอเทวดาหนิงตายอย่างไม่ยุติธรรม”
น้ำเสียงของเซี่ยวอิ๋นหวนอ่อนโยน ให้ความรู้สึกสนิทชิดเชื้อ ทุกคนก็พยักหน้าทันที
แต่กลับพูดด้วยรอยยิ้ม “เป็นเช่นนี้นี่เอง คิดไม่ถึงว่าผู้คุมตราเซี่ยวจะมีลูก เป็นข้าที่โง่เขลา”
เจ้าสำนักเซี่ยวรำคาญแล้ว พูดอย่างเย็นชา “เจ้ามาที่นี่เพื่อพูดคุยธุระ หรือจะถามเรื่องครอบครัวของคนอื่น”
เมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาแล้ว อาซือหลานก็เลียนแบบเสียงของฉุยอวี้ พูดเสียงแหบแห้ง “เจ้าสำนักเซี่ยวระงับโทสะก่อน เรามาที่นี่เพื่อคุยธุระแน่นอน สำนักเซียวเหยาของเราได้ส่งลูกศิษย์ยี่สิบคนไปยืนเฝ้านอกประตู ต้องตามหาหัวโจรร้ายให้ได้”
ซูถูอดไม่ได้ที่จะมองไปที่อาซือหลาน
ทำไมฉุยอวี้ถึงคล้อยตามตาแก่เซี่ยวเช่นนี้ เขาคิดจะทำอะไรกันแน่
เมื่อคืนนี้ซูถูไปหาฉุยอวี้ แต่ได้รับแจ้งว่าเขาไม่ได้อยู่ในสำนักเซียวเหยา หรือว่าเขาแอบไปพบกับตาแก่เซี่ยว ทำข้อตกลงที่ลับตาคนงั้นหรือ
อาซือหลานกระแอมไอเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ยังมีอีกอย่างหนึ่ง ไม่ทราบว่าเจ้าสำนักเซี่ยวจะให้ยืมตัวแม่นางอินแก่สำนักของเราเป็นเวลาหนึ่งวันหรือไม่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...