ในเป่ยไห่ท้องฟ้าสว่างเร็วกว่าปกติมาก หลังจากที่แม่ลูกคุยกันสักพัก ท้องฟ้าข้างนอกก็เริ่มส่องแสงสีเงินยวงแล้ว
อินชิงเสวียนขยิบตาให้เย่จิ่งอวี้ทันที
“อาอวี้ นี่ก็สายแล้ว ให้ท่านแม่รีบพักผ่อนเถอะ!”
เย่จิ่งอวี้ยืนขึ้นทันที ในเวลานี้ ประตูก็เปิดออก และเจ้าสำนักเซี่ยวได้ก้าวเข้ามาจากด้านนอก
หลังจากอาบน้ำในน้ำพุวิญญาณ เจ้าสำนักเซี่ยวแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ดวงตาทั้งคู่เป็นประกาย ใบหน้าแดงเปล่งปลั่ง
“หวนเอ๋อร์ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
เซี่ยวอิ๋นหวนลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว
“พ่อบุญธรรมไม่ต้องเป็นห่วง หวนเอ๋อร์เรียบร้อยดีทุกอย่างเจ้าค่ะ”
บาดแผลบริเวณผิวหนังของหวนไท่เฟยตกสะเก็ดแล้ว จึงไม่รู้สึกเจ็บปวดมากนัก ท่าทางมีชีวิตชีวายิ่งนัก
เจ้าสำนักเซี่ยวพยักหน้า และมองไปที่อินชิงเสวียน
“น้ำที่ข้าใช้อาบน้ำแช่ตัว เจ้าก็นำมาจากเมืองหลวงกระนั้นหรือ”
อินชิงเสวียนไอแห้งๆ แล้วพูดว่า “เจ้าค่ะ ยังมีเหลืออยู่บ้าง”
จากนั้นก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างรวดเร็ว “เหตุใดเจ้าสำนักเซี่ยวจึงหมดสติอยู่ข้างถนน เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ”
เซี่ยวอิ๋นหวนรีบถามทันควัน “พ่อบุญธรรม หรือว่าท่านก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน?”
เจ้าสำนักเซี่ยวนั่งลงบนเก้าอี้ สีหน้ามืดมนเล็กน้อย
“เดิมทีข้าติดตามพวกเขาสองผัวเมียไปที่สำนักเซียวเหยา แต่จู่ๆ ก็ถูกโจมตี คนผู้นี้มีวรยุทธ์ล้ำเลิศ แต่เขาก็ถูกข้าโจมตีไปหนึ่งฝ่ามือเช่นกัน ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน”
เขาหยุดชั่วคราวแล้วพูดว่า “ยามนี้สถานการณ์ในเป่ยไห่มีความซับซ้อน ไม่รู้ว่ามีผู้ที่มีเจตนาแอบแฝงมาปะปนอยู่ด้วยมากเท่าใดแล้ว ต่อไปเมื่อพวกเจ้าจะออกไปข้างนอก ต้องระวังตัวไว้ด้วย”
หลังจากที่เจ้าสำนักเซี่ยวพูดจบ เขาก็หันไปหาเซี่ยวอิ๋นหวน
“แล้วทางด้านพวกเจ้าเกิดอะไรขึ้น ใครกันที่จับเจ้าไว้”
ครั้นแล้วเซี่ยวอิ๋นหวนก็ได้เล่าเรื่องที่ตัวเองได้เผชิญหน้าให้แก่เจ้าสำนักเซี่ยวฟังอีกหน เจ้าสำนักเซี่ยวเกรี้ยวกราดอย่างอดไม่ได้
เซี่ยวอิ๋นหวนถอนหายใจกล่าวว่า “พ่อบุญธรรมมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่ไม่ใช่ว่าลูกศิษย์ทุกคนในสำนักจะเหมือนพ่อบุญธรรม แม้ว่าจะสูญเสียไปหนึ่งคน แต่ก็ได้ไม่คุ้มเสีย”
เย่จิ่งอวี้มีสีหน้าเคร่งขรึมและไม่พูดอะไรสักคำ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร เรื่องของเสด็จแม่ เขาจะสืบสาวราวเรื่องจนถึงที่สุด
“เสวียนเอ๋อร์ ข้ากลับไปก่อน”
เจ้าสำนักเซี่ยวอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เจ้าเด็กเปรตนี่ เจ้าอารมณ์ทีเดียว ไม่จบไม่สิ้นเสียมี
อินชิงเสวียนพูดทันที “อาอวี้คงจะเหนื่อยแล้ว ข้าจะกลับไปดูหน่อย ท่านแม่กับเจ้าสำนักเซี่ยวไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ”
เมื่อกลับถึงที่พัก ก็เห็นเย่จิ่งอวี้นั่งอยู่ข้างเตียง กำลังเช็ดกระบี่ยาวแวววาวด้วยผ้าสีขาวเหมือนหิมะ
“อาอวี้ ท่านคงไม่คิดจะตามหาฉุยอวี้อีกคนกระมัง”
เย่จิ่งอวี้พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ต้องตามหาอยู่แล้ว ในฐานะบุตรชาย จะไม่ล้างแค้นแทนมารดาได้อย่างไร”
คิ้วคู่งามของอินชิงเสวียนขมวดมุ่น
“ฉุยอวี้ไม่พ้นต้องมีส่วนพัวพันกับเรื่องนี้เป็นแน่ แต่ตอนนี้เขาได้ผลักออกไปโดยสิ้นเชิง ท่านและข้าไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดที่จะพิสูจน์ว่าเขาเป็นผู้ยุยงเรื่องนี้ ขืนทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ เกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...