ทันทีที่อินชิงเสวียนเพิ่งหิ้วเย่จิ่งหลานไปถึงถนน ก็ได้พบกับคนตงหลิวที่แสยะยิ้มสองคน
“สาวบุปผาแห่งจงหยวน สวยงาม”
หนึ่งในนั้นตะโกนใส่อินชิงเสวียนด้วยภาษาจีนแปร่งๆ
รูปลักษณ์ที่น่าสมเพชประกอบกับเสียงฆ้องแตกๆ ทำให้อินชิงเสวียนขนลุกทันที
จากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น ชายตงหลิวที่พูดก็ล้มลงกับพื้น
อินชิงเสวียนหันกลับมา เห็นเย่จิ่งหลานถือปืนพก ใบหน้าที่อ่อนเยาว์เต็มไปด้วยความโกรธ
“โคตรพ่อเจ้าเถอะ สาวๆ จงหยวนเรา ไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าจะจ้องตาเป็นมันได้”
อินชิงเสวียนยกนิ้วให้ทันที
“แม่นมาก!”
เมื่อชายตงหลิวอีกคนเห็นเพื่อนของเขาถูกยิงตาย ก็รีบวิ่งเข้าหาอย่างบ้าคลั่งทันที
“บากะ! (โง่เง่า)”
“บากะบ้านพ่อเจ้าน่ะสิ”
เย่จิ่งหลานยิงอีกนัด ดูเหมือนว่าชายคนนั้นจะรู้ถึงความร้ายกาจ เขารีบหลบ และพุ่งเข้าหาอินชิงเสวียนอีกครั้ง
“ตายซะ!”
อินชิงเสวียนคำรามเบาๆ และตบคนตงหลิวด้วยฝ่ามือเดียว
นับตั้งแต่ได้รับพลังมิติ อินชิงเสวียนก็ผ่านการต่อสู้หลายครั้งหลายคราว ความขี้ขลาดในใจตอนแรกนั้นหายไปนานแล้ว คิดแค่ว่าจะกำจัดสิ่งสกปรกเหล่านี้ให้ตายโดยเร็วที่สุด
เย่จิ่งหลานไม่กล้าบุ่มบ่ามยิง จึงหันไปสนใจที่อื่น ตราบใดที่มีโอกาส เขาจะยิงออกไป
การโจมตีแบบกองโจรระหว่างทางค่อนข้างมีประสิทธิภาพ อินชิงเสวียนยังใช้พลังและความเร็วของมิติเพื่อสังหารผีแคระตงหลิวจนนอนตายเกลื่อนเต็มพื้น
“เย่จิ่งหลาน เจ้าอย่าวิ่งมั่วซั่ว”
เมื่อเห็นว่าเขาก้าวไปข้างหน้า อินชิงเสวียนก็ตะโกนทันที ด้วยกลัวว่าจะเกิดอันตรายขึ้นกับเขา
“ไม่เป็นไร เจ้าจัดการของเจ้าไป ไม่ต้องห่วงข้า”
ในขณะที่พูด เย่จิ่งหลานก็ล้มอีกคนได้ ก้าวไปข้างหน้ายิงอย่างเหี้ยมเกรียมสองนัด จากนั้นเปลี่ยนใส่ลูกกระสุนอย่างรวดเร็ว
อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสับสน
“เจ้าแม่นปืนขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
เย่จิ่งหลานยิ้มและหันกลับมาแล้วพูดว่า “ช่วงสองวันที่พวกเจ้าวิ่งวุ่น ข้าก็ไม่ได้อยู่ว่าง ทำลายเป้ายิงปืนไปกว่าหนึ่งโหลแล้ว”
อินชิงเสวียนตกตะลึง แต่นางก็อดเตือนไม่ได้
“คนเหล่านี้ไม่ใช่คนธรรมดา วรยุทธ์ของพวกเขาแข็งแกร่งมาก ถ้าเจ้าไม่แน่ใจ ต้องเข้าไปซ่อนตัวนะ”
“ไม่ต้องห่วงข้า ดูแลตัวเจ้าเองเถอะ!”
หลังจากที่เย่จิ่งหลานพูดจบ เขาก็เดินไปที่ตรอกข้างๆ
อินชิงเสวียนอยากตามเขาไป แต่นางเห็นคนตงหลิวสวมชุดเกราะไม้ไผ่เหาะลงมาจากอากาศ ทันใดนั้นมีดหัวผีก็ฟันใส่หัวใจของอินชิงเสวียน
อินชิงเสวียนเร้นกายหลบหลีก เหาะขึ้นเตะเอวด้านหลังของชายคนนั้น ในฉับพลันอีกฝ่ายก็ลอยขึ้นจากพื้น แล้วแทงสวนกลับ
เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับผีแคระตงหลิวในตอนนี้ เขามีวิชาตัวเบาล้ำเลิศ กระบวนท่าก็ยอดเยี่ยมยิ่งนัก
ในเวลานี้อินชิงเสวียนมีประสบการณ์การต่อสู้มาอย่างโชกโชน การได้ต่อสู้กับเขาไปมา ยังนับว่าได้เปรียบอยู่
เดิมทีผีแคระตงหลิวคิดว่าแค่แม่นางน้อยคนหนึ่งสามารถจับมาได้ง่ายๆ เขาไม่คิดว่าจะยากขนาดนี้ เขาผิวปากเรียกสหายทันที และในพริบตาเดียว คนตงหลิวอีกสามสี่คนก็เหาะเข้ามา
อินชิงเสวียนเหาะถอยกลับ นำพิณการเวกออกจากมิติ
เมื่อเทียบกับเพลงหมื่นกระบี่เศษดาราที่สร้างความเสียหายอย่างกว้างขวางแล้ว อินชิงเสวียนค่อนข้างคุ้นเคยกับเพลงหยกรัตติกาลมากกว่า นางเตะคนคนหนึ่งออกไป จับพิณด้วยมือซ้าย นิ้วเรียวยาวก็เริ่มกรีดกรายไปตามสายพิณแล้ว
เมื่อคิดถึงประชาชนในเมืองเติงหลงที่ถูกทรมานจนตายด้วยวิธีต่างๆ อินชิงเสวียนก็ปล่อยวาง
นางไม่ได้ทรมานพวกเขา ก็นับว่าเมตตามากแล้ว
หลังจากปลอบใจตัวเอง อินชิงเสวียนก็ใช้ความเร็วของมิติมุ่งหน้าไปยังใจกลางเมืองให้เร็วที่สุด
เหล่าศิษย์ที่ต่อสู้กับชาวตงหลิวสามารถพบเห็นได้ทุกที่ตลอดทาง เมืองที่เงียบสงบแต่เดิมเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด
อินชิงเสวียนนึกถึงเย่จิ่งอวี้ ทันใดนั้นก็รู้สึกตกใจ
หากดวงตาของเย่จิ่งอวี้เกี่ยวข้องกับกลิ่นคาวเลือดจริงๆ วันนี้สำหรับเขา อาจไม่ใช่วันที่ดี จะต้องตามหาเขาให้พบและไปอยู่ข้างๆ เขาโดยเร็ว เพื่อป้องกันเหตุที่ไม่คาดฝัน
ในเวลานี้ เย่จิ่งอวี้มาถึงในเมือง เห็นโนจิริจูนิที่กำลังต่อสู้กับศิษย์เทียนหยวนทันที
เห็นได้ชัดว่าศิษย์คนนี้ไม่ใช่คู่ตต่อสู้ของโจรถ่อยนี้ มีเลือดอยู่บนหน้าอก แต่ยังคงฝืนทนเอาไว้ ทันใดนั้นก็เห็นคมกระบี่สะท้อนแสงแวบหนึ่งต่อหน้าต่อตา ครั้นแล้วกระบี่ยาวที่ใสราวกับน้ำก็ตกลงมาจากอากาศ แทงใส่เกราะบนไหล่โนจิริจูนิอย่างแรงและแม่นยำ
โนจิริจูนิกรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด หันกลับมาก็จำเย่จิ่งอวี้ได้
“บากะ (โง่) วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าให้ได้”
เขาทำมือเหมือนร่ายมนตร์ด้วยมือเดียว และร่างอันอ้วนท้วนก็หายไปทันที
เย่จิ่งอวี้รู้ว่าความสามารถของเขาคือการเคลื่อนย้าย จึงหลับตา เพิ่มประสาทสัมผัสของร่างกายให้สูงสุด แม้ว่าความสามารถในการรับรู้ของเขาจะไม่ดีเท่าอินชิงเสวียน แต่ก็แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปมาก
ในไม่ช้า เขาก็รู้สึกถึงกลิ่นอายที่พัดมาข้างหลังเขา จึงหันศีรษะไปอย่างรวดเร็ว
เวลานี้ เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังมาจากข้างๆ
“คุณชายเย่ ระวัง!”
เก่อหงยวนมองเห็นเย่จิ่งอวี้ จึงวิ่งผลุนผลันเข้าไปหาเขา
แต่ไม่รู้ว่าเย่จิ่งอวี้ได้เห็นการเคลื่อนไหวของโนจิริจูนิแล้ว ก่อนที่เขาจะปรากฏร่าง กระบี่ยาวในมือก็แทงออกไปแล้ว
ไม่ว่าอย่างไรโนจิริจูนิก็คาดไม่ถึงว่าเย่จิ่งอวี้จะสามารถคาดเดาตำแหน่งของเขาได้ พอคิดจะเปลี่ยนกระบวนท่า ก็สายเกินไปแล้ว รู้สึกได้เพียงความเจ็บปวดจากอก แล้วเลือดสดๆ ก็ทะลักออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...