“เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
เจ้าสำนักเซี่ยวนิสัยโผงผาง ไม่สนใจว่าแอบฟังอะไรจากด้านนอกได้บ้าง จึงเดินเข้ามาอย่างโจ่งแจ้ง
ฉุยอวี้ได้ยินเสียงฝีเท้า คิดว่าเป็นเพียงลูกศิษย์ของสำนักกระบี่สังหาร ไม่คิดว่าผู้มาเยือนคือเจ้าสำนักเซี่ยว
จึงประสานมือคำนับแล้วพูดว่า “เจ้าสำนักเซี่ยว สบายดีหรือไม่เจ้าคะ”
สายตาของเจ้าสำนักเซี่ยวเหลือบมองฉุยอวี้ด้วยความเย็นชา และถามอย่างไม่เกรงใจว่า “เวลาดึกดื่นเช่นนี้ เจ้ามาที่นี่ด้วยจุดประสงค์ใด?”
เฮ่ออวิ๋นทงรู้สึกอึดอัดอย่างอดไม่ได้ น้ำเสียงที่ใช่ถามของเหล่าเซี่ยว ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกคนจับผิดเรื่องศีลธรรมอย่างน่าประหลาด
รู้จักกันมานานหลายปี เขารู้จักนิสัยของเจ้าสำนักเซี่ยวเป็นอย่างดี หากตัวเองพูดอะไรออกไปในตอนนี้ จะยิ่งทำให้เหล่าเซี่ยวโกรธมากกว่าเดิม จึงหยิบแก้วขึ้นมาและค่อยๆ ดื่มชา
ฉุยอวี้กระแอมไอและพูดว่า “ข้ามาที่นี่ก็เพื่อเจรจาเรื่องการโจมตีตงหลิว”
เจ้าสำนักเซี่ยวฟาดฝ่ามือลงบนโต๊ะ พูดด้วยความโมโหว่า “ฉุยอวี้ เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนหูหนวกงั้นหรือ เจ้าคิดอย่างไร คิดว่าข้าไม่มีสิทธิ์ยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้งั้นหรือ หากเข้ากล้าแย่งโจมตีคนของตงหลิวจากมือของข้า ข้าจะฆ่าเจ้าก่อน”
ฉุยอวี้ก็เป็นเจ้าสำนักเช่นกัน เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ก็รู้สึกเสียหน้า
นางสีหน้านิ่งขรึมและพูดเสียงแข็งว่า “เจ้าสำนักเซี่ยวอย่าได้เที่ยวดูถูกคนอื่นเพียงเพราะตนเองอาวุโสกว่า เพื่อไม่ให้เกิดความบาดหมางต่ออารมณ์ของท่านและข้า”
เจ้าสำนักเซี่ยวทำเสียงฮึดฮัด และถามอย่างไม่แยแสว่า “เช่นนั้นแล้วจะทำไม ผู้หญิงชั้นต่ำแห่งสำนักเซียวเหยาอย่างเจ้า ข้าไม่เคยมองเห็นอยู่ในสายตามาก่อนเลย หากคิดจะลงมือ ข้ามั่นใจว่าสามารถเอาชนะเจ้าได้”
เขาใช้ชีวิตอย่างเปิดเผยและโปร่งใส สิ่งที่เกลียดที่สุดคือเรื่องสกปรกโสมมเช่นนี้ เพื่อไม่ให้เฮ่ออวิ๋นทงถูกชักจูงไปในทางที่ผิด หากต้องลงมือต่อสู้กันก็ไม่มีสิ่งใดต้องเสียดาย
เขารินชาให้เจ้าสำนักเซี่ยวหนึ่งแก้วด้วยตัวเอง พูดด้วยแววตาที่สงบสุข “ฉุยอวี้มาที่นี่เพราะมีเรื่องขอร้องจริงๆ และไม่เกี่ยวข้องกับตงหลิว เพียงแต่ข้าอายุมากขนาดนี้แล้ว จึงไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในยุทธภพ ข้ากำลังเปิดปากบอกปฏิเสธ ท่านก็เข้ามาพอดี หรือว่ามีเรื่องเกิดขึ้นด้านนอก?”
“พิณการเวกถูกข้าทำลายไปเมื่อครู่ ครั้งนี้ตงหลิวจะต้องบุกโจมตีครั้งใหญ่ รบกวนเหล่าเฮ่อนำข่าวนี้ไปแจ้งให้แต่ละสำนักได้ทราบ ครั้งนี้ห่างจากวันที่พวกเราจะไปจากเป่ยไห่ไม่มากแล้วจริงๆ”
เฮ่ออวิ๋นทงขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “พวกเขาจะลงมือรวดเร็วเช่นนี้เลยหรือ? พิณที่แตกเป็นของปลอมใช่หรือไม่?”
เจ้าสำนักเซี่ยวหยิบแก้วชาขึ้นมาดื่มหนึ่งอึก จากนั้นก็ทุบลงบนโต๊ะอย่างแรง
“ข้าทุบพิณของจริงได้ด้วยหรือ?”
เฮ่ออวิ๋นทงโล่งใจ ยิ้มและพูดว่า “เช่นนั้นก็ดี สาวน้อยอินชิงเสวียนช่างเป็นดาวนำโชคของพวกเราจริงๆ นับตั้งแต่นางมาที่เป่ยไห่ ดูเหมือนว่าปัญหาต่างๆ ได้แก้ตกไปตามๆ กัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...