“คุณชายสุดยอดมาก บทกวีที่คุณชายท่องช่างมีศิลปะมาก ข้าคิดว่าทิวทัศน์ตรงนั้นดีกว่า เราไปดูดีหรือไม่”
“แน่นอน”
เสียงชัดเจนดังออกมาจากด้านหลังแนวหิน แล้วร่างหนึ่งในเสื้อคลุมสีฟ้าอ่อนก็เดินออกมาจากด้านหลังก้อนหิน
ชายผู้นี้หน้าตาหล่อเหลา รูปร่างสูงโปร่ง บนศีรษะกลัดด้วยปิ่นกลัดมวยผมหยกสีขาวสง่า ประหนึ่งสายลมสีขาวพัดเอื่อยๆ ทะเลครามฟ้าใส ทำให้คนรู้สึกสดชื่น
เมื่ออินชิงเสวียนหันไปมอง คุณชายผู้นั้นก็เห็นนาง แสดงท่าทางประหลาดใจในทันใด
“แม่นางอิน เราพบกันอีกแล้ว!”
หยวนเป่าพึมพำเสียงแผ่วเบาจากด้านหลัง “คุณชายตามแม่นางผู้นี้มาไม่ใช่หรือ ยังมาแกล้งทำอยู่นี่อีก”
เฮ่อฉางเฟิงดีดนิ้ว ถั่วลิสงขนาดเท่าเล็บมือก็ลอยออกมาจากปลายนิ้ว และกระแทกโดนจุดใบ้ของหยวนเป่า หยวนเป่าเงียบลงทันที
เขากังวลจนเต้นแร้งเต้นกา กระโดดไปอยู่ข้างหน้าเฮ่อฉางเฟิง แต่ถูกดึงออกไปอย่างไม่ไยดี
“อยู่เฉยๆ ไม่อย่างนั้นตลอดชีวิตนี้ก็อย่าหวังว่าจะพูดได้อีก”
หางตาของหยวนเป่าหรี่ลงทันที แล้วเดินตามอยู่ข้างๆ ด้วยความเคารพ
เฮ่อฉางเฟิงเดินไปหาอินชิงเสวียนด้วยใบหน้ายิ้มระรื่น ประกบมือคำนับแล้วพูดว่า “แม่นางอิน ไม่เจอกันนานสบายดีหรือไม่!”
อินชิงเสวียนลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกบมือคำนับแล้วกล่าวทักทาย
“สวัสดีคุณชายเฮ่อ ไม่ได้เจอหลายวัน คิดว่าคุณชายเฮ่อกลับมาบ้านแล้ว”
อินชิงเสวียนมีความประทับใจที่ดีต่อเฮ่อฉางเฟิง คนผู้นี้มีความรู้กว้างขวาง ท่วงท่าสง่างาม เมื่อได้พบเขาก็จะมีความรู้สึกใกล้ชิดราวกับเป็นเพื่อนเก่ามานานหลายปี ซึ่งทำให้คนรู้สึกสบายใจ
เฮ่อฉางเฟิงโค้งคำนับเล็กน้อย
“ข้าน้อยเกรงว่าจะอยู่ที่นี่อีกไม่กี่วัน เดิมทีอยากไปเยี่ยมพวกท่านสองสามีภรรยาที่หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็กลัวว่าจะรบกวนเกินไป ข้าจึงมาท่องบทกวีที่ชายทะเล เพื่อแสดงความรู้สึกในใจ”
อินชิงเสวียนยกย่องอย่างจริงใจ “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ บทกวีของคุณชายมีความสง่างาม ประดุจภาพวาดที่ปรากฏอยู่บนหน้ากระดาษอย่างมีชีวิตชีวา ชิงเสวียนชื่นชมจริงๆ”
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ข่าวรั่วไหล จนถูกสายลับจากตงหลิวล่วงรู้เข้า เจ้าสำนักเซี่ยวจึงบอกเรื่องนี้กับเฮ่ออวิ๋นทงและผู้อาวุโสสวีเท่านั้น
นางพยักหน้า พูดเสียงเรียบๆ “เป็นเช่นนั้นจริง”
อีกคนเมื่อได้ยินดังนี้ก็พูดด้วยความโกรธ “เจ้าดูแลพิณอย่างไร ของสำคัญเช่นนี้ถึงถูกทำลายไปได้ หากพวกตงหลิวโจมตีเป่ยไห่ จะต้านทานได้อย่างไร”
“ถูกต้อง สำนักใหญ่โตมีชื่อเสียงเช่นหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ลำพังแค่พิณตัวหนึ่งยังไม่สามารถดูแลได้ ช่างน่าขันสิ้นดี”
สีหน้าท่าทางของอินชิงเสวียนเย็นชา ริมฝีปากขยับเล็กน้อย แต่แล้วก็ปิดปาก
พิณการเวกไม่ได้เป็นของพวกเขา นางไม่จำเป็นต้องอธิบายให้พวกเขาฟัง สิ่งที่ศิษย์ระดับต่ำเหล่านี้จะไปรู้อะไร อย่างมากก็แค่พูดคล้อยตามคนอื่นเท่านั้น
“นี่เป็นเรื่องภายในสำนักเรา ไม่จำเป็นต้องเรียนให้ทราบ เชิญทุกคนกลับไปเถอะ!”
อินชิงเสวียนพูดจบก็เบือนหน้าหนี ศิษย์หลายคนคิดว่านางกินปูนร้อนท้อง ศิษย์หญิงคนหนึ่งเห็นอินชิงเสวียนงดงามสะโอดสะอง จึงมีใจอิจฉาริษยา
นางก้าวไปข้างหน้า พูดขู่เข็ญคุกคาม “ในเมื่อเจ้าเป็นคนทำพิณหาย งั้นก็ต้องให้คำอธิบายแก่เรา!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...