สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 856

อินชิงเสวียนได้ยินเย่จิ่งอวี้บอกว่า ตอนที่อยู่ในเมืองเติงหลงน่าจะเป็นพวกเขาสองคนที่ช่วยอินสิงอวิ๋นไว้ จึงประกบมือคารวะพวกเขาทันที

“แม่นางเก่อ จื่ออวี๋”

ต่งจื่ออวี๋คารวะตอบอย่างยินดี ถามว่า “แม่นางอินไปชายทะเลหรือ”

อินชิงเสวียนตอบว่าใช่ และถามว่า “สองวันที่แล้วพวกเจ้าไปที่เมืองเติงหลงมาหรือไม่”

ต่งจื่ออวี๋พยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่ ยังได้พบกับผีแคระตงหลิวด้วย”

“แล้วเจ้าช่วยคนขับรถม้าหรือเปล่า”

“เจ้ารู้ได้อย่างไร หรือว่าเจ้ารู้จักคนผู้นั้น?”

เก่อหงยวนมองไปที่อินชิงเสวียน พลางบีบผมเปียตัวเองอย่างไม่พอใจ

ทำไมชายหนุ่มรูปงามทุกคนในโลกถึงรู้จักอินชิงเสวียน?

อินชิงเสวียนยิ้มและพูดว่า “ขอบคุณเจ้าสองคนที่ช่วยเหลือ คนที่ขับรถม้าคือพี่ชายของข้าเอา”

“ฮะ เขาเป็นพี่ใหญ่ของเจ้าหรือ แซ่อินด้วย?”

เก่อหงยวนประหลาดใจ แล้วถามอีกว่า “แล้วพี่ใหญ่ของเจ้าแต่งงานแล้วหรือยัง”

อินชิงเสวียนยิ้มละไม “แต่งงานกันแล้ว คนในรถม้า คือพี่สะใภ้ของข้า!”

ทันใดนั้นเก่อหงยวนก็หรี่ตาลง บุรุษรูปงามในฝันก็พังทลายอีกครั้ง

ต่งจื่ออวี๋กลับไม่ได้สนใจอารมณ์ของนาง ถามอย่างระมัดระวัง “ได้ยินมาว่าพิณการเวกถูกทำลายแล้ว นี่เป็นเรื่องจริงหรือ”

“เป็นเรื่องจริง”

อินชิงเสวียนไม่ต้องการโกหกต่งจื่ออวี๋ ถ้าไม่มีเก่อหงยวนตามมาด้วย คงจะบอกความจริงกับเขาไปแล้ว ไม่ใช่ว่านางไม่ไว้ใจเก่อหงยวน แต่เป็นเพราะเด็กนี่มีนิสัยเปิดเผย อาจแพร่งพรายความจริงโดยไม่รู้ตัว

ต่งจื่ออวี๋ปลอบใจทันที “พังแล้วก็ให้พังไป แม่นางอินโปรดอย่าคิดมาก จงหยวนและตงหลิวทำสงครามกันมานาน หากไม่มีพิณการเวก เราก็สามารถขับไล่พวกเขากลับไปที่เกาะได้ ไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย”

เก่อหงยวนก็พยักหน้าเช่นกัน

“ถูกต้อง ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน พิณการเวกเป็นเพียงเครื่องช่วยเหลือ ไม่สามารถพึ่งพามากเกินไป พวกเรามียอดฝีมือมารวมตัวกันที่เป่ยไห่เยอะแยะ จะกลัวผีแคระเหล่านั้นได้อย่างไร”

คำพูดของพวกเขาทำให้อินชิงเสวียนซาบซึ้งใจ นางโค้งคำนับเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ขอบคุณทั้งสองคนมาก”

เก่อหงยวนหัวเราะเบาๆ พูดเรื่อยเปื่อย “ยังต้องขอบคุณอะไรอีก จริงสิ เจ้ายังมีพี่ชายคนอื่นอีกไหม ถ้าหล่อเหลาเหมือนคนวันนั้น ก็แนะนำให้รู้จักสักคนสิ”

ต่งจื่ออวี๋ไม่เพียงแต่กระดากอาย แต่ยังไอแห้งๆ อยู่ข้างๆ ด้วย

เก่อหงยวนถลึงตามองเขาแล้วพูดว่า “เจ้ามาแสร้งทำเป็นว่าสูงส่งทำไม ถ้าเก่งนักชาตินี้ก็ห้ามแต่งงานนะ”

เมื่อเห็นทั้งสองทะเลาะกัน อินชิงเสวียนก็อดยิ้มไม่ได้

“ข้ายังมีพี่รองอยู่อีกคน ถ้ามีโอกาส ข้าจะแนะนำให้รู้จักกับแม่นางเก่ออย่างแน่นอน”

เก่อหงยวนอุทานลั่น

ต่งจื่ออวี๋กล่าวว่า “แล้วพบกัน”

พวกเขาแยกทางกัน เย่จิ่งหลานก็หยิบผ้าพันคอไหมออกมาเช็ดหน้าทันที

อินชิงเสวียนพูดล้อเล่น “มีสาวมาบีบแก้มเจ้า เจ้ายังรังเกียจได้ลงคอหรือ”

เย่จิ่งหลานแค่นเสียงหึ

“หน้าของข้าไม่ว่าใช่ทุกคนที่จะสัมผัสได้”

อินชิงเสวียนยกมือขึ้นบีบแก้มอีกข้างของเขา

“บีบนิดบีบหน่อยจะทำให้ตัวเจ้าแตกงั้นหรือ”

เย่จิ่งหลานกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ

“เด็กบ้านี่ อย่ารังแกข้าเหมือนเด็กๆ ได้ไหม ไม่งั้นข้าจะฉีกเรือของเจ้าเป็นชิ้นๆ”

เมื่อมองดูคิ้วที่ขมวดมุ่น และแก้มกลมๆ เล็กๆ นั้น อินชิงเสวียนก็กลั้นยิ้ม เกลี้ยกล่อมอย่างขอไปที “เอาล่ะๆ เจ้าเป็นบุรุษรูปงามที่สุดในโลก พ่อคนหล่อ แบบนี้ใช้ได้หรือยัง”

ใบหน้าของเย่จิ่งหลานอ่อนลงเล็กน้อย

“ถือว่าเจ้าเป็นคนอ่านสถานการณ์ออก คืนนี้ย่างเนื้อเสียบไม้ให้ข้าด้วยล่ะ”

“ไม่มีปัญหา กลับไปข้าจะให้ฟางรั่วแจ้งให้ช่างฝีมือว่า การก่อสร้างจะเริ่มในวันพรุ่งนี้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์