สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 855

ขณะมองไปที่ทิศทางที่ฮั่วเทียนเฉิงออกไป เฮ่อฉางเฟิงได้ตกอยู่ในห้วงภวังค์

การแข่งขันวรยุทธ์ระหว่างทั้งสองสำนักจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า คนจากตำหนักเทพหอทองคำน่าจะฝึกฝนภายในสำนักจึงจะถูก ทำไมถึงมาปรากฏตัวที่นี่

เมื่อคิดถึงข่าวลือทั้งหมดเกี่ยวกับตำหนักเทพหอทองคำ ดวงตาของเฮ่อฉางเฟิงฉายแววรังเกียจเล็กน้อย

ครั้นละสายตา ก็เห็นขวดที่อินชิงเสวียนมอบให้ตัวเอง เมื่อนึกถึงที่คนผู้นั้นที่ร้องขอน้ำซ้ำๆ ก็ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้

หรือว่าที่เขามาที่นี่ เกี่ยวข้องกับน้ำในขวดนี้?

เมื่อหันกลับมา เห็นอินชิงเสวียนกำลังมองมาที่ตัวเอง เขาไอแห้งๆ แล้วพูดว่า “สมแล้วที่เป็นจอมยุทธ์ผู้กล้า ท่านผู้นั้นวรยุทธ์ล้ำเลิศจริงๆ!”

อินชิงเสวียนกล่าวอย่างเห็นด้วย “ใช่แล้ว ท่านผู้นั้นเคยช่วยชีวิตข้าและสามีข้าไว้ เป็นผู้ที่ไม่ธรรมดาจริงๆ”

เฮ่อฉางเฟิงตอบว่าโอ้

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้น่ะเอง มิน่าแม่นางอินถึงได้รู้จักกับเขา แม่นางเป็นสตรีอยู่ในสถานที่ถูกผิดเช่นเป่ยไห่ ควรระมัดระวังให้มาก จะได้หลีกเลี่ยงศึกภายในและภายนอก รับมือซ้ายขวาไม่ทัน”

อินชิงเสวียนกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณชายเฮ่อไม่ต้องกังวลเรื่องศิษย์เหล่านั้น พิณการเวกเป็นของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเสียหายหรือสูญหาย ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้อื่น หากพวกเขากล้าสร้างปัญหาอีก เจ้าสำนักต้องออกหน้าแน่นอน”

เฮ่อฉางเฟิงพยักหน้าและพูดว่า “เช่นนั้นก็ดีแล้ว ข้าน้อยออกมาได้สักพักแล้ว ต้องขอตัวก่อน”

เขาโค้งคำนับและทำความเคารพอย่างมีมารยาท

อินชิงเสวียนก็โค้งคำนับตอบตามมารยาท มองส่งสองนายบ่าวไปจนสุดสายตา

หลังจากเดินไปได้ระยะหนึ่ง หยวนเป่าก็ถามด้วยเสียงแผ่วต่ำ “คุณชาย อาการบาดเจ็บของท่านเป็นอะไรหรือไม่”

เฮ่อฉางเฟิงยิ้มเบาๆ แล้วพูดว่า “เป็นอาการบาดเจ็บภายนอกเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ต้องตื่นตูมไป”

หยวนเป่าหดคอแล้วพูดว่า “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว หากเกิดเรื่องขึ้นกับคุณชาย เจ้าเมืองต้องหักคอข้าเอามาเตะเล่นเหมือนลูกหนังแน่ๆ”

เฮ่อฉางเฟิงเอามือไพล่หลังกล่าวว่า “ไม่ต้องห่วง ตราบใดที่ข้าให้เจ้ามีชีวิตอยู่ เจ้าก็ไม่ตายหรอก”

หยวนเป่าหัวเราะเบาๆ

“ขอบคุณขอรับคุณชาย”

จากนั้นเขาก็กระซิบ “เราตามหามาหลายคืนแล้ว แต่ยังไม่เห็นรองเจ้าเมืองตู้เลย เกรงว่าเขาจะจำคุณชายได้ จึงไปซ่อนตัว ไม่เช่นนั้น...เรากลับก่อนเถอะ ถ้าเกิดเจ้าเมืองออกจากการบำเพ็ญเพียร แล้วรู้ว่าคุณชายไม่อยู่ ต้องโกรธเกรี้ยวแน่นอน”

เฮ่อฉางเฟิงพูดอย่างใจเย็น “ให้เจ้าเขียนจดหมายไปแล้วไม่ใช่หรือ จะกลัวอะไรอีก ตอนนี้ข้ายังมีเรื่องอื่นที่ต้องตรวจสอบ”

“ยังมีเรื่องอะไรอีกขอรับ”

หยวนเป่ามองไปที่เฮ่อฉางเฟิงด้วยสีหน้างุนงง

“คนเมื่อครู่อาจมาจากตำหนักเทพหอทองคำ ข้าตัดสินใจว่าคืนนี้จะไปทดสอบวรยุทธ์ของเขา”

สีหน้าท่าทางของเฮ่อฉางเฟิงดูสบายๆ ราวกับกำลังคุยเรื่องบทกวีหรือจิบชาสักถ้วย เขามีท่าทางสง่างาม ลักษณะเหมือนผู้คงแก่เรียน ทำให้ยากจะคิดว่าเขามีความเกี่ยวโยงกับวรยุทธ์

หยวนเป่ารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

“ทำไมคนจากตำหนักเทพหอทองคำถึงมาที่นี่ หรือว่าพวกเขาออกไปรวบรวมคนอีก?”

เฮ่อฉางเฟิงหัวเราะเบาๆ กล่าวว่า “เจ้าเด็กบ้านี่ก็เคยได้ยินข่าวลือนี้เหมือนกันรึ แต่ก็ใกล้เคียงแล้ว เพื่อการแข่งขันครั้งนี้ พวกเขารวบรวมผู้มีความสามารถจากที่ต่างๆ มากมาย ว่ากันว่าปรมาจารย์กระบี่ลิ่นเซียวก็ไปที่ตำหนักเทพ”

หยวนเป่าร้องชิ แล้วพูดว่า “ต่อให้เป็นปรมาจารย์กระบี่นั่นก็เป็นฉายาที่พวกเขาแต่งตั้งกันเอง เกรงว่าจะเทียบคุณชายไม่ได้สักกระผีก”

เฮ่อฉางเฟิงพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “อย่าโม้ ขืนโม้อีกคงลอยขึ้นฟ้าแล้ว เจ้าสำนักเซี่ยวกับท่านผู้เฒ่าเฮ่อที่สะพายกระบี่เป็นผู้ที่มีฌานตบะสูงส่ง ไม่ควรประมาท”

หยวนเป่าถามทันที “ระหว่างพวกเขากับคุณชาย เทียบกันได้หรือไม่”

เฮ่อฉางเฟิงยิ้ม ไม่พูดอะไร

ครั้นแล้วหยวนเป่าก็ลำพองใจขึ้นมา

“ขอข้าคิดดูก่อน”

อินชิงเสวียนนึกในใจ ครั้นแล้วเรือที่ต่อเสร็จมากกว่าครึ่งก็หายไปทันที

นางยิ้มและพูดว่า “ตามที่คาดไว้ ทุกสิ่งที่นำออกจากมิติของข้า สามารถเก็บกลับคืนได้”

เย่จิ่งหลานยกเยี่ยมให้

“เจ๋ง”

จากนั้นเขาก็พูดด้วยสีหน้าเศร้าใจ “พี่สาว ในเมื่อเจ้ามีความสามารถนี้ ทำไมถึงไม่เก็บไว้ตั้งแต่แรก”

อินชิงเสวียนพูดอย่างขัดเขิน “ข้าก็เพิ่งนึกขึ้นได้”

เมื่อก่อนนางไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งใหญ่โตเช่นนี้จะสามารถเก็บเข้ามิติได้

เย่จิ่งหลานกลอกตามองนางอย่างพูดไม่ออก

“เอาล่ะ เจ้าไปยุ่งงานของเจ้าเถอะ ครั้งนี้ไม่เถียงเจ้าแล้ว ต่อจากนี้ไป ข้าจะทำงานตอนกลางวัน ให้เจ้ามาเก็บในตอนกลางคืน จะได้ไม่ถูกทำลายอีก”

“ได้ เอาตามนั้น”

อินชิงเสวียนนึกในใจ เรือก็ถูกปล่อยออกมา

ในเวลานี้ที่ชายทะเลไม่มีลูกศิษย์หรือช่างฝีมือเลย มีเพียงพวกเขาสามคนเท่านั้น อินชิงเสวียนจึงไม่ต้องพะวงอะไรมากมาย

หวังซุ่นมองด้วยใบหน้าที่สงบ หลังจากติดตามเจ้านายทั้งสองคนนี้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ไม่มีเหตุผลอะไรก็ได้เห็นหมดแล้ว เห็นของแปลกจนไม่รู้สึกแปลกใจแล้ว

เย่จิ่งหลานปรึกษาเรื่องรายละเอียดบางอย่างกับอินชิงเสวียน จากนั้นก็เรียกหวังซุ่นกลับไปที่หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์

ระหว่างทาง ทั้งสามได้พบกับเก่อหงยวนและต่งจื่ออวี๋ ที่เป็นผู้นำศิษย์สำนักมามากมาย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์