เฮ่อฉางเฟิงนอนสบายใจเฉิบบนเตียง ยกมือข้างหนึ่งขึ้นเท้าคาง พูดด้วยดวงตาที่หรี่เล็กน้อย “นี่ยังต้องเลือกอีกรึ แน่นอนว่าข้าต้องการทั้งหมด”
ดวงตาของหยวนเป่าเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
“คุณชายคงไม่ชิงตัวแม่นางอินกลับไปที่อิ๋นเฉิง ไปเป็นฮูหยินของเจ้าเมืองน้อยกระมัง!”
เฮ่อฉางเฟิงกลอกตามองเขาแล้วพูดว่า “สุภาพบุรุษไม่พรากของชอบของผู้ใด แม่นางอินแต่งงานแล้ว ข้าจะเป็นคนถ่อยไร้เมตตาธรรมได้อย่างไร แต่ว่า ถ้าเจ้าเด็กแซ่เย่ปฏิบัติต่อนางไม่ดี ข้าจะไม่นิ่งดูดายเป็นแน่”
หยวนเป่าพูดด้วยรอยยิ้มร่า “ข้าดูแล้วสองคนผัวเมียคู่นี้มีความสัมพันธ์ที่ดี คุณชายเลิกคิดดีกว่า แม่นางเก่อหงยวนที่เรารู้จักก่อนหน้านั้น ก็ดูไม่เลวเลยนะขอรับ”
“ช่างเถอะ”
เฮ่อฉางเฟิงหลับตาอย่างหมดความสนใจ
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดอย่างใจเย็น “คืนนี้ เราจะลอบสำรวจสำนักเซียวเหยายามวิกาล”
เพียงชั่วพริบตาท้องฟ้าก็มืดมิด เย่จิ่งอวี้และอินสิงอวิ๋นก็กลับมาที่หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน
การลาดตระเวนทั้งวันทำให้อินสิงอวิ๋นเลื่อมใสเขาอย่างลึกซึ้ง
เขาคิดเสมอว่าฮ่องเต้เป็นคนที่มีชีวิตอยู่ดีกินดี แต่เย่จิ่งอวี้กลับเป็นเหมือนคนทั่วไป ตรวจตราไปทั่วทุกที่ไม่เกี่ยงงานหนัก ซึ่งทำให้อินสิงอวิ๋นประหลาดใจจริงๆ
ระหว่างทางยังได้รู้ถึงภูมิหลังทั่วไปของสงครามระหว่างตงหลิวและเป่ยไห่ เมื่อรู้ว่าผีแคระเหล่านี้เผา ฆ่า ปล้นสะดม และก่อความชั่วร้ายทุกประเภท ในใจก็เต็มไปด้วยความแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม
ในเมืองหลวงยังมีจอมพลเฒ่ากวนกับท่านพ่อของเขา ยังมีเย่จั้นนั่งบนบัลลังก์คอบดูแลราชสำนัก เขาจะกลับไปหรือไม่ ก็ไม่มีผลอะไรมากนัก เช่นนั้นก็อยู่ต่อเพื่อต่อต้านตงหลิวกับทุกคน ลูกผู้ชายต้องปกป้องครอบครัวและบ้านเมือง กำจัดศัตรูปกป้องราษฎร เชื่อว่าเป่าเล่อเอ่อร์จะสนับสนุนการตัดสินใจของเขาแน่นอน
ทุกคนรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน เย่จิ่งหลานรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย จึงกลับไปนอนก่อน ก่อนออกไปยังปรายหางตามองที่อินชิงเสวียน
เย่จิ่งอวี้เห็นแล้วก็ไม่เข้าใจ เมื่อกลับห้องก็ถามทันทีว่า “เสวียนเอ๋อร์ จิ่งหลานหมายความว่าอย่างไร”
อินชิงเสวียนหัวเราะคิกคัก
“เขาให้ข้าไปเก็บเรือ เมื่อวานที่ลืมอย่างไรล่ะ นี่เป็นงานที่เขาทุ่มเทด้วยกำลังทั้งหมด ถ้าถูกทำลายอีก เขาคงโมโหจนเป็นลม”
อินชิงเสวียนไม่สนใจเขาเสียดื้อๆ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดูชายฝั่งทะเล
เย่จิ่งอวี้ก็เขยิบเข้ามาดูด้วย เขารู้อยู่แล้วว่าสิ่งนี้เรียกว่ากล้องวงจอปิด แต่ทุกครั้งที่เห็นก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน
คนฮว๋าเซี่ยมีมันสมองแบบไหนกัน ถึงสามารถสร้างสรรค์สิ่งที่ประณีตเช่นนี้ได้?
อินชิงเสวียนสำรวจไปรอบๆ ทุกมุม แต่ก็ไม่พบศัตรู จึงไปเล่นเกมแคนดี้ครัชเลย
เย่จิ่งอวี้ค่อยๆ จับเคล็ดการเล่นได้ อดไม่ได้ที่จะยื่นนิ้วชี้เรียวยาวออกมาเล่นปัดๆ เล่นด้วย
ทั้งสองเล่นกันสักพัก ท้องฟ้าก็มืดพอสมควรแล้ว ทั้งสองจึงเดินออกจากหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์
เมื่อเข้าใกล้ชายฝั่ง อินชิงเสวียนหยุดชะงักชั่วครู่
เย่จิ่งอวี้พยักหน้าไปทางนางเล็กน้อย ทั้งคู่ก็ตระหนักว่ามีคนสะกดรอยตามพวกเขาอยู่ และทักษะวรยุทธ์ยังด้อยกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...