ในเวลานี้ การเข่นฆ่าสังหารในค่ายกลยังคงดำเนินต่อไป
ศัตรูอยู่ในที่ลับเราอยู่ในที่แจ้ง เหล่าศิษย์ถูกควบคุมทุกฝีก้าว คนตงหลิวเชี่ยวชาญในการลอบโจมตี เสียงร้องอันน่าเวทนาจึงดังระงม
เจ้าสำนักดาบเดือดและยอดฝีมืออีกสองคนจากสำนักกระบี่สังหารถูกสังหารด้วยดาบ คนอื่นก็พอจะรู้แล้ว
เก่อหงยวนหมดสตินอนแน่นิ่งไปนานแล้ว พื้นดินตรงหน้ากลายเป็นสีแดงเข้ม ไม่รู้ว่านางยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว
ผู้อาวุโสสวีเรียกชื่อนาง พลางต่อต้านอย่างสุดกำลัง ร่างกายก็เหนื่อยล้า เต็มไปด้วยบาดแผลและเลือด
ตอนนี้เสียใจไปก็ไม่มีประโยชน์ ได้แต่หวังว่าตาเฒ่าเซี่ยวจะสามารถหาวิธีทำลายค่ายกลบ้าๆ นี้ได้
ครึ่งชั่วยามผ่านไปในชั่วพริบตา เจ้าสำนักเซี่ยวยังคงอับจนหนทาง
เฮ่ออวิ๋นทงนำค่ายกลสามประสานฟ้าดินบุกเข้าไปข้างหน้า แต่ก็ยังไม่สามารถเปิดช่องว่างได้ และในครึ่งชั่วยามนี้ ค่ายกลก็เปลี่ยนไปหลายครั้ง กลับทำให้คนในสำนักกระบี่สังหารสิ้นเปลืองพลังไปไม่น้อย และเกือบจะถูกดูดเข้าไปในค่ายกลหลายครั้ง
“หยุดก่อนเถอะ”
เจ้าสำนักเซี่ยวเดินมาจากอีกด้านหนึ่งด้วยใบหน้าที่มืดมน คิ้วขาวโพลนคู่นั้นแทบจะขมวดจนชนกัน
เฮ่ออวิ๋นทงให้ทุกคนล่าถอยก่อนชั่วคราวทันที
“ในเมื่อตงหลิวมีค่ายกลที่ทรงพลังเช่นนี้ ทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่ยอมใช้ล่ะ หรือว่านี่คือวิธีที่เพิ่งค้นพบเพื่อมาต่อกรกับพวกเรา?”
เจ้าสำนักเซี่ยวส่ายหัว
“ค่ายกลแปดทิศซับซ้อนมาก ไม่สามารถเรียนรู้ได้ในชั่วข้ามคืน คงมียอดฝีมือสำนักพรตอยู่ในหมู่คนตงหลิวแน่ แต่น่าเสียดายที่นักพรตเทียนจีไม่อยู่ที่นี่ ไม่เช่นนั้น การทำลายค่ายกลนี้คงไม่เป็นปัญหาแบบนี้”
เฮ่ออวิ๋นทงก็รู้ว่านักพรตเทียนจีอยู่ไกลจากที่นี่ การเดินทางไปกลับต้องใช้เวลากว่าสิบวันหรือไม่ก็ครึ่งเดือน
“ค่ายกลนี้ไม่สามารถทำลายได้จริงหรือ”
โมริตะคาวาสึบาเมะก็ค่อนข้างประหลาดใจเช่นกัน เห็นๆ อยู่ว่าดาบนี้สามารถฆ่าอินชิงเสวียนได้ แต่กลับพลาดเป้าไปเสีย
ยิ่งไปกว่านั้นช่วงนี้ลงมือทำงานได้ไม่น่าพอใจ อาจเป็นเพราะการหลอมรวมจิตวิญญาณ เมื่อเข้าสู่เป่ยไห่ได้แล้ว เขาค่อยหาเวลาแก้ไขก็ได้
ทั้งสองต่างคิดกันคนละอย่าง และในพริบตาก็เคลื่อนไหวมาประมือกันหลายครั้ง
โมริตะคาวาสึบาเมะเป็นเหมือนหนอนที่ติดอยู่กับกระดูก นางพยายามเร่งความเร็วเต็มที่แต่ก็ไม่สามารถสลัดให้หลุดได้ สิ่งที่แย่กว่านั้นคือสุสานกระบี่ที่ไม่ได้ถูกสะกดด้วยเพลงหมื่นกระบี่เศษดารา ก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง
อินชิงเสวียนขมวดคิ้ว จู่ๆ ก็นึกถึงวิชาเนตรที่ตัวเองช่วงชิงมาจากเถียนเซินหลิน เอามาลองใช้กับเด็กเปรตนี่ได้พอดี
นางทำตามวิธีที่เย่จิ่งอวี้สอน รวบรวมกำลังภายในทั้งหมดไปที่จุดตันเถียน ดวงตาทั้งคู่ของนางก็ส่องประกายด้วยแสงแปลกๆ
โมริตะคาวาสึบาเมะเห็นเช่นนั้นก็แค่นเสียงหัวเราะอย่างโมโห นังเด็กบ้านี่รู้เคล็ดวิชานี้ด้วย เช่นนั้นก็จะแสดงให้นางเห็นว่าใครกันแน่ที่เป็นบรรพบุรุษแห่งวิชาเนตรลวงตาที่แท้จริง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...