วินาทีที่ฝาขวดถูกเปิดออก เฮ่อฉางเฟิงรู้สึกได้ถึงความแตกต่าง จึงเหลือบมองเย่จิ่งหลานอย่างอดไม่ได้
หรือว่าพวกเขาสามารถดื่มน้ำชนิดนี้ได้หมดทุกคน?
ระหว่างที่ครุ่นคิด เย่จิ่งหลานได้จับใต้คางของอินชิงเสวียน และพยายามป้อนให้นางดื่มลงไป
ปากของพูดราวกับกำลังโกรธว่า “อินชิงเสวียน เจ้าจะกลับไปเช่นนี้งั้นหรือ ข้าจะเกลียดเจ้าไปทั้งชาติ ไม่สิ สิบชาติเลย!”
อินชิงเสวียนขบฟันไว้แน่น น้ำส่วนใหญ่รั่วไหลออกมา เย่จิ่งหลานจึงร้อนใจอย่างอดไม่ได้
“อินชิงเสวียน เจ้ายอมแพ้ไม่ได้นะ”
เขาใช้ความพยายามเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยและในที่สุดก็ดื่มไปได้บางส่วน
จากนั้นก็เปิดอีกขวดหนึ่ง และป้อนให้เย่จิ่งอวี้ด้วยวิธีที่คล้ายกัน
ขณะเดียวกันนั้นเอง เสียงที่รีบร้อนก็ดังขึ้นด้านหลัง
“น้องใหญ่!”
อินสิงอวิ๋นรีบวิ่งเข้ามาแต่ไกล
เมื่อรู้ว่าชาวตงหลิวเหยียบเข้ามาบนเกาะ อินสิงอวิ๋นก็รีบรุดเข้าฝั่งเพื่อ
ให้ความช่วยเหลือ น่าเสียดายที่มีชาวตงหลิวมากเกินไปในสนามรบ จึงไม่ได้มารวมตัวกับอินชิงเสวียนตั้งแต่แรก
คิดในใจว่าทุกที่ล้วนเต็มไปด้วยศัตรู จึงอยู่ด้านนอกวงล้อมกับลูกศิษย์สำนักอื่นๆ
เมื่อชาวตงหลิวเหล่านั้นถูกฆ่าตายไปบางส่วนแล้ว อินสิงอวิ๋นถึงได้รู้ว่าพวกเขาตั้งค่ายกล จึงรีบพาคนอื่นๆ เข้ามาช่วยเป็นกองหนุน และยังพลาดช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดอีกด้วย
ตอนนี้ค่ายกลเล็กๆ หลายพื้นที่ถูกบุกโจมตีแล้ว อินสิงอวิ๋นและคนจำนวนมากร่วมต่อสู้กันมาตลอดทาง แต่จู่ๆ กลับได้ยินเสียงของเย่จิ่งหลาน จึงรีบวิ่งเข้ามา
ในตอนนั้น เนื้อตัวของเขาก็อาบไปด้วยเลือด ไหล่ขวามีสีแดงทั้งแถบและมีเลือดไหลออกมาตามนิ้วของเขา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการต่อสู้ครั้งนี้ยากลำบากเพียงใด
“น้องใหญ่ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง น้องใหญ่!”
เมื่อเห็นอินชิงเสวียนและเย่จิ่งอวี้ต่างหลับตาสนิททั้งคู่ อินสิงอวิ๋นก็มีเหงื่อเย็นผุดออกมาอย่างอดไม่ได้
เย่จิ่งหลานโยนขวดเปล่าในมือลงบนพื้น พูดด้วยสีหน้าที่ลำบากใจว่า “ข้าเองก็ไม่รู้ หากคุณชายอินยังมีพอกำลัง ก็นำพวกเขาทั้งสองกลับหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ก่อนเถอะ”
ขณะนั้น ชาวตงหลิวที่คุ้มกันริมหัวใจค่ายกลถูกฆ่าตายแล้ว ค่ายกลจักรวาลแปดทิศกลายเป็นก้อนทรายเต็มไปหมด
ลูกศิษย์ที่ถูกขังไว้ในค่ายกลก่อนหน้านี้ต่างกลั้นลมหายใจไว้ ตอนนี้ไม่มีอุปสรรคจากปัญจธาตุที่ขัดแย้งกัน ในที่สุดก็สามารถหายใจออกมาได้
ทุกคนต่างกู่ร้องตลอดทาง เมื่อเห็นชาวตงหลิวก็ควงดาบฆ่าตาย แม้ชาวตงหลิวเหล่านี้จะมีวิชาอาคมที่แปลกประหลาด แต่การต่อสู้จะสูงส่งแค่ไหนก็ยังกลัวมีดดาบเช่นกัน
เพียงแค่พลังอำนาจของความกล้าหาญและไม่เกรงกลัวความตาย ก็มาพอที่จะทำให้ทุกคนจิตใจขี้ขลาดหวาดผวา
ทว่าเวลาเพียงชั่วพริบตา สถานการณ์ก็พลิกผันไปหมด
ท่านอ๋องโมริตะถูกขุนศึกหลายคนคุ้มกันไว้อยู่ ใบหน้าของเขาซีดขาวด้วยความหวาดกลัว และหลบซ่อนอยู่หลังก้อนหินใหญ่จำนวนหนึ่ง
“ท่านอ๋อง ทำอย่างไรดี?”
เมื่อมองคนเหล่านี้ที่ลงจากหุบเขาราวกับเสือร้าย เหล่าขุนศึกก็รู้สึกหวาดกลัวอย่างอดไม่ได้
ท่านอ๋องโมริตะพูดด้วยสายตาโหดเหี้ยมว่า “อยากกอบกู้ความพ่ายแพ้ เกรงว่ายังเป็นไปไม่ได้ ชางดินแดงจงหยวนกล่าวว่า ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ย่อมยังความหวัง ตอนนี้สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยต่อพวกเรา พวกเราต้องออกไปจากที่นี่ก่อนแล้วค่อยวางแผนใหม่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...