สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 906

ทุกคนต่างพากันออกจากห้อง เหลือเพียงเย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียน

เมื่อมองลำคอของเขาที่ยังห้อยหยกเย็นพันปีชิ้นนั้นอยู่ อินชิงเสวียนก็รู้สึกพึงพอใจมาก

“อาอวี้ก็ไม่เป็นอะไร ช่างดีจริงๆ เลยนะ”

เย่จิ่งอวี้โอบกอดอินชิงเสวียนไว้ และซุกหน้าลงบนผมของนางที่ตกอยู่บนไหล่

“เสวียนเอ๋อร์ก็เช่นกัน หากเจ้าเป็นอะไรไป ข้าไม่รู้จะอยู่ไปอย่างไรจริงๆ”

อินชิงเสวียนหันหน้ามาพูดว่า “ชีวิตมนุษย์ทุกคนมีค่าและมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น อาอวี้พูดจาไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้ได้อย่างไร แม้ว่ามีวันหนึ่งที่ข้าไม่อยู่แล้วจริงๆ ข้าก็หวังให้อาอวี้สามารถที่จะ...”

ยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกประกบปิดด้วยริมฝีปากที่เย็นเล็กน้อย

สักพักหนึ่ง ริมฝีปากก็แยกออกจากกัน

เย่จิ่งอวี้เสยปอยผมที่อยู่ข้างแก้มของอินชิงเสวียน และพูดเสียงเบาว่า “อย่าพูดไร้สาระ ในเมื่อเจ้ามายังโลกใบนี้ เป็นภรรยาของข้า ดังนั้นไม่ควรไปจากข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต”

เมื่อมองดวงตาคู่นั้นที่ลึกราวกับทะเล จู่ๆ ในใจของอินชิงเสวียนก็เต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้

กลับจงใจพูดว่า “มนุษย์ย่อมมีการเกิดแก่เจ็บตาย หากข้ามีชีวิตอยู่ถึงพันหรือหมื่นปี ข้าคงเป็นปีศาจเฒ่าแล้วล่ะ?”

เย่จิ่งอวี้อุ้มอินชิงเสวียนมานั่งบนตักของเขา สองแขนโอบเอวบางไว้แน่น

หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “เช่นนั้นข้าก็จะเป็นปีศาจเช่นกัน ขอเพียงได้อยู่กับเสวียนเอ๋อร์ ไม่ว่าอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น”

อินชิงเสวียนแตะที่ปลายจมูกของเขาอย่างอดไม่ได้

“เจ้าโง่”

เย่จิ่งอวี้กัดนิ้วมือของนางไว้และพูดอย่างคลุมเครือว่า “ชาวบ้านมีคำพังเพยที่กล่าวว่า คนโง่ก็มีวาสนาของคนโง่ไม่ใช่หรือ การได้อยู่กับเสวียนเอ๋อร์ ต่อให้ต้องเป็นคนโง่จริงๆ ข้าก็จะไม่ปริปากบ่นแม้แต่คำเดียว”

อินชิงเสวียนรู้สึกซาบซึ้งใจมาก จึงหันกลับมากอดคอของเขา

“ได้สิ ข้ารับปากท่าน ข้าจะอยู่ข้างท่านไปตลอดชีวิต”

เมื่อนึกถึงไอ้เด็กเปรตนั่น อินชิงเสวียนยังคงรู้สึกหวาดผวาอยู่

ท่ามกลางค่ายกลนั้น นางไร้ซึ่งเรี่ยวแรงในการสู้กลับ แม้ว่าใช้ทักษะห้าสิบห้าสิบก็ยังไม่สามารถแสดงศักยภาพออกมาได้

“เขาน่าจะเป็นท่านอ๋องน้อยโมริตะที่เย่จิ่งหลานพบที่ตลาด ไม่คิดว่าเขาอายุเพียงเท่านี้ กลับมีความสามารถที่น่าหวาดกลัวมาก”

เย่จิ่งอวี้พยักหน้าพูดว่า “การมายังเป่ยไห่ในครั้งนี้ เกิดเรื่องที่พวกเราคาดไม่ถึงมากมายจริงๆ โชคดีที่ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว อีกไม่นานพวกเราก็จะได้กลับเมืองหลวง และใช้ชีวิตของพวกเราอย่างมีความสุข”

“เพคะ”

อินชิงเสวียนพยักหน้าด้วยความปลาบปลื้ม พวกเขาออกเดินทางกันเป็นเวลานานหลายเดือนแล้ว นางมีความรู้สึกคิดถึงเมืองหลวงมากทีเดียว

แต่ในใจยังคงเก็บซ่อนสองเรื่องเอาไว้อยู่ เรื่องแรกคือการเป็นตายร้ายดีของท่านอ๋องน้อยโมริตะคนนั้น เรื่องที่สองคือที่อยู่ของอินหลี

เป่ยไห่มีสำนักอยู่มากมาย แต่ยังคงสืบหาข่าวไม่ได้เลย หรือว่าอินหลีได้ถูกคนฆ่าตายไปแล้วจริงๆ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์