อินชิงเสวียนก้าวไปรับลูกชาย แล้วถามด้วยรอยยิ้ม “ฝ่าบาทสะสางงานราชกิจเสร็จแล้วหรือ”
“เสด็จอาไม่เหลือฎีกาไว้ให้ข้ามากนัก ข้าแค่ไปพอเป็นพิธีเท่านั้น”
เย่จิ่งอวี้นั่งลงที่โต๊ะ แล้วจิบชา
เล่นกับเสี่ยวหนานเฟิงแค่ครู่เดียว ก็ทำให้เขาเหงื่อออกแล้ว เรียกว่าเหนื่อยยิ่งกว่าการฆ่าคนในสนามรบเสียอีก
“ได้ยินจากอวิ๋นฉ่ายว่า เสวียนเอ๋อร์ไปที่หอฉงฮวามา ซูฉ่ายเวยคงจะรู้เรื่องนี้แล้ว?”
เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลง แล้วถามด้วยรอยยิ้ม
อินชิงเสวียนพยักหน้าตอบว่า “อื้ม นางก็ถือว่าช่วยข้าได้มาก ข้าคิดว่าจำเป็นต้องบอกนางหน่อย หากส่งนางออกไปด้วยราชโองการหนึ่งฉบับ เกรงว่าจะใจร้ายเกินไป”
เย่จิ่งอวี้ไม่ได้คัดค้านเรื่องนี้
“จากนี้ไปเสวียนเอ๋อร์จะเป็นเจ้าของวังหลังแห่งนี้ เรื่องในวังหลัง เสวียนเอ๋อร์สามารถตัดสินใจได้ทุกอย่าง ต่อไปถึงแม้จะไม่มีสนมหรือนายหญิง แต่ก็ยังมีไท่เฟยที่ยังมีชีวิตอยู่อีกมาก ถ้าเสวียนเอ๋อร์รู้สึกเบื่อ ก็สามารถเดินเล่นไปเยี่ยมเยียนพวกนางได้”
อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ ว่า “มีจ้าวเอ๋อร์อยู่ด้วย ข้ายังจะเบื่ออีกงั้นหรือ”
“เจ้าเด็กนี่ นับวันยิ่งซนมากขึ้นเรื่อยๆ”
เย่จิ่งอวี้มองดูลูกชายด้วยสีหน้ารักใคร่เอ็นดู
“ถ้าเขาอยู่นิ่งไม่ได้จริงๆ ข้าจะหาอาจารย์ให้เขา จะได้ดัดนิสัยชอบเที่ยวเตร่เขาด้วย”
อินชิงเสวียนปฏิเสธทันที
“ไม่เอาหรอก เด็กโตแค่นี้เอง ข้าทำใจไม่ได้ ถ้าอยากให้เรียนก็ต้องรอถึงสามขวบ ตอนนี้ข้าแค่หวังว่าเขาจะใช้ชีวิตวัยเด็กอย่างมีความสุข ในอนาคตจะได้ไม่เป็นเหมือนอาอวี้ ที่ฟ้าไม่มืดก็ไม่เห็นเงา”
เย่จิ่งอวี้ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย
“เสวียนเอ๋อร์ทำใจแยกจากข้าไม่ได้งั้นหรือ?”
อินชิงเสวียนพูดอย่างกะบึงกะบอน “ใครทำใจไม่ได้กัน ข้าแค่ว่ากันไปตามเนื้อผ้าเท่านั้นเอง”
ดวงตาอันเปี่ยมด้วยความรักของเย่จิ่งอวี้เลิกขึ้น แล้วพูดด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้มว่า “ดูท่าทางอนาคตข้าจะต้องรีบสะสางงานราชกิจโดยเร็วที่สุด ใช้เวลากับเสวียนเอ๋อร์ให้มากขึ้น มิฉะนั้น เสวียนเอ๋อร์ ของข้าจะเหงาเอา”
เสี่ยวหนานเฟิงพูดทันที “สวยแม่เหงาๆ ลูกก็เหงา เด็จพ่ออยู่ด้วย”
“แน่นอน”
เย่จิ่งอวี้ยิ้มด้วยสายตาเจ้าเล่ห์คลุมเครือ
ภาพเบื้องหน้าเป็นแสงแวบวาบ และทั้งสองก็เข้ามาในมิติแล้ว
ยังไม่ทันที่อินชิงเสวียนจะพูดอะไร ริมฝีปากก็ถูกปิดผนึกด้วยลมหายใจที่เร่าร้อนและคุ้นเคย
“อึก...ท่านเล่นสกปรกอีกแล้ว”
อินชิงเสวียนประท้วงอย่างงอนๆ ข้อมือเรียวยาวกลับถูกเย่จิ่งอวี้จับกดบนเตียง
“เจ้ากับข้าเป็นสามีภรรยากัน จะทำอะไรต่อมิอะไรกันบ้างก็เป็นเรื่องปกติ จะเรียกว่าเล่นสกปรกอะไรกัน”
เย่จิ่งอวี้ขบติ่งหูอิ่มเอิบของนาง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเย้ายวนใจ
อินชิงเสวียนดิ้นรนอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นได้ ในสถานการณ์ที่ไม่ได้ใช้พลังมิติ ความแข็งแกร่งของนางและเย่จิ่งอวี้นั้นแตกต่างกันมาก
หายใจหอบแฮ่กๆ “อาอวี้ท่าน...ชักจะเจ้าเล่ห์ขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...