กวนฮั่นหลินยื่นแขนออกมาอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง อินชิงเสวียนเปิดกล่องออกมาอย่างเป็นระเบียบ นำสายคาดรัดไว้ที่แขนของกวนฮั่นหลิน
เมื่อกดปุ่มอิเล็กทรอนิกส์ สายรัดจะสูบลมเข้ามาทันทีและจะนูนขึ้นอย่างรวดเร็ว
เย่ไห่ถังรู้สึกประหลาดใจอย่างอดไม่ได้
เสด็จพี่สะใภ้เป็นเทพลงมาจุติหรือไม่ เหตุใดจึงมีของแปลกประหลาดเยอะแยะไปหมด
กวนฮั่นหลินกลับรู้สึกตื่นตกใจเล็กน้อย รู้สึกราวกับว่าของสิ่งนั้นจะบีบแขนของเขาออกเป็นสองท่อน หากไม่ใช่เพราะรู้ว่าอินชิงเสวียนไม่มีทางทำร้ายตัวเอง เขาคงใช้ฝ่ามือสับของสิ่งนี้ออกเป็นสองท่อนไปนานแล้ว
โชคดีที่ความรู้สึกบีบอัดนั้นมีอยู่ไม่นาน เพียงไม่กี่อึดใจก็ค่อยๆ หดตัวกลับไป ค่าที่เกี่ยวข้องก็ปรากฏขึ้นบนเครื่องวัดความดันโลหิตด้วย
ค่าต่ำ70 ค่าสูง170 ค่าความดันนี้ทำให้น่าตกใจอย่างมาก โดยเฉพาะความดันที่มีค่าต่างกันมากเป็นพิเศษ จำได้ว่าหมอที่โรงพยาบาลบอกว่า ผู้สูงอายุที่มีความดันต่างกันมาก ส่วนใหญ่จะมีภาวะสมองตาย ท่านผู้เฒ่ากวนอายุมากขนาดนี้แล้วจึงไม่อาจเลี่ยงได้
แต่ว่า หากไม่ได้ใช้เครื่องวัดค่าอย่างละเอียดก่อน อินชิงเสวียนก็ไม่กล้าจ่ายยาให้เขามั่วซั่ว จึงหยิบยาลดความดันที่เตรียมเอาไว้ออกมา
“ความดันโลหิตของอัคราจารย์สูงกว่าจุดวิกฤติมาก ขอเพียงท่านกินยาให้ตรงเวลาทุกวัน ดื่มสุราให้น้อยลง สองสามวันก็จะลดลงมาได้ ถึงตอนนั้นก็จะไม่มีอาการปวดศีรษะหรืออาการนอนไม่หลับอีกแล้วเจ้าค่ะ”
ที่เหลือก็ต้องรอให้เย่จิ่งหลานกลับมาก่อน แล้วค่อยทำการตรวจร่างกายกวนฮั่นหลินอย่างละเอียดอีกครั้ง
อินชิงเสวียนยื่นขวดยาให้ พร้อมกับพูดอธิบาย “ปริมาณยาชนิดนี้สูงมากทีเดียว ท่านกินแค่วันละเม็ดก็เพียงพอแล้วเจ้าค่ะ”
เมื่อมองขวดยาพลาสติกสีขาวเล็กๆ นี้ กวนฮั่นหลินก็รู้สึกสนใจมาก แต่ไม่ได้ถามอะไรมาก อีกทั้งตัวเขาเองก็ไม่ใช่คนที่มีนิสัยชอบซักไซ้ไล่เลียง
“ขอบพระทัยหวงกุ้ยเฟย กระหม่อมจะกินยาให้ตรงเวลาแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”
“เช่นนั้นก็ดี ต้าโจวขาดอัคราจารย์ไม่ได้ ฝ่าบาทก็ไว้วางใจอัคราจารย์มากด้วย หวังว่าอัคราจารย์จะดูแลร่างกายให้ดี แม่ทัพในภายภาคหน้าจะเป็นบุคคลผู้แบกค้ำต้าโจวครึ่งค่อนฟ้า ยังต้องพึ่งพาการสั่งสอนที่เอาใจใส่ของอัคราจารย์”
เมื่ออาศัยอยู่ในวังมานาน อินชิงเสวียนจึงพูดภาษาชาววังได้อย่างคล่องแคล่ว เชี่ยวชาญและเหมาะสม สีหน้าของจอมพลเฒ่ากวนจึงดีขึ้นมากในทันที
“ข้าจะไปหาซูฉ่ายเวยเสียหน่อย วันหน้ามีเวลาว่าง ข้าจะพาท่านออกไปเที่ยวเล่นอีก”
เย่ไห่ถังมีบางสิ่งที่อยากพูด แต่สุดท้ายก็ได้เพียงพยักหน้า
“ขอบพระทัยเสด็จพี่สะใภ้ เช่นนั้นข้าขอตัวกลับก่อนเพคะ”
อินชิงเสวียนมองนางจากไป และเดินไปยังหอฉยงหวา ขณะเดียวกันนั้น ฮั่วเทียนเฉิงก็ได้พายอดฝีมืออีกสองคนของตำหนักเทพกลับไปยังเป่ยไห่
เมื่อเห็นว่าสำนักทั้งหลายต่างปิดประตูไว้แน่น ฮั่วเทียนเฉิงก็รู้ว่าคนเหล่านี้กลับไปหมดแล้ว
ศิษย์น้องที่อายุน้อยจึงถามว่า “ศิษย์พี่ฮั่ว พวกเราจะไปหาใครก่อนดี?”
ฮั่วเทียนเฉิงครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ไปริมทะเล หากเย่จิ่งหลานยังอยู่ ก็พาเขากลับไปยังยอดเขาบรรจบสวรรค์ก่อน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...