ณ ริมชายฝั่ง
การก่อสร้างเรือขนาดยักษ์ได้เข้าสู่ตอนท้ายแล้ว
นับตั้งแต่วันนั้นที่เย่จิ่งหลานได้แสดงอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ ทุกคนก็เลื่อมใสศรัทธาเขามากขึ้น
ไม่แปลกใจที่หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์รับเขาเป็นศิษย์ และยังส่งฮวาเชียนมาเป็นผู้ช่วย อีกทั้งหนังสือล้ำค่ามากมายที่ได้เห็นในมิติวันนั้น ทั้งหมดนี้บ่งชี้ว่าตัวตนของคุณชายน้อยเย่ผู้นี้ไม่ธรรมดาสามัญ
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงชีวิตความเป็นอยู่ที่มีในทุกวันนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน อีกทั้งเย่จิ่งหลานยังรักษาอาการป่วยได้ ประชาชนจำนวนมากที่กลับมาเป่ยไห่ก็ได้รับการรักษาจากเขา ชาวบ้านที่ได้รับความเมตตาจากเขาก็มาช่วยเหลือด้วยตัวเองเช่นกัน
เมื่อเห็นว่ากองกำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เย่จิ่งหลานก็พึงพอใจอย่างมาก
ความจริงแล้ว ความตั้งใจเดิมของเขาไม่ได้สูงส่งขนาดนั้น เขารักษาโรคให้ประชาชนก็เพียงเพื่อให้ได้คะแนนมากขึ้น และให้หลักประกันที่มากขึ้นกับตัวเอง แต่เมื่อเขาเห็นชาวบ้านธรรมดาเหล่านี้ช่วยสร้างเรือตลอดวันและคืน ในใจของเขาก็รู้สึกซาบซึ้งมากขึ้น
บางทีอินชิงเสวียนอาจพูดถูก เพราะเขาใช้ชีวิตของตัวเองแบ่งแยกมากเกินไป ขอเพียงยินดีที่จะให้ จะต้องได้รับผลตอบแทนแน่นอน
เพราะอย่างไรก็กลับไปไม่ได้แล้ว เหตุใดต้องสนใจว่าตัวเป็นคนยุคสมัยนี้หรือไม่
เพียงแต่บางครั้งยังคงคิดถึงผู้หญิงหน้าตาสวยงามคนนั้น ยังเอามือเท้าเอวและดึงหูของเขา จึงยังรู้สึกเศร้าโศกเล็กน้อยอยู่ในใจ
พวกเขาคงจะกลับไปถึงเมืองหลวงแล้วสินะ ไม่รู้ว่าการจากลาครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการพบกันใหม่ครั้งหน้า หรือเป็นการจากลาชั่วนิรันดร์!
“นี่ ท่านกำลังคิดอะไรอยู่?”
เก่อหงยวนวิ่งกระโดดโลดเต้นเข้ามา และตบที่ไหล่ของเย่จิ่งหลานหนึ่งที
หลายวันนี้ทุกคนอยู่ด้วยกันจนสนิทสนมแล้ว เวลาที่เก่อหงยวนไม่มีอะไรทำ มักชอบมาหยอกล้อกับผู้ใหญ่ตัวน้อยคนนี้
เย่จิ่งหลานนั่งหันหน้าไปทางทะเลกว้าง บนใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์และหล่อเหลาของเขา มีร่องรอยของความรู้สึกลึกซึ้งที่ไม่เหมาะกับอายุของเขา
เย่จิ่งหลานหันกลับไปมอง ทันใดนั้นเขาก็เห็นฮั่วเทียนเฉิงยืนห่างออกไปห้าก้าว
เขาสวมเสื้อคลุมสีเทาลายเรียบๆ พร้อมรอยยิ้มบนริมฝีปากและแววตาที่ดูเหนื่อยล้าจากการเดินทาง
ข้างหลังมีชายวัยยี่สิบปีสองคน รูปร่างหน้าตาของพวกเขาไม่หล่อเหลามากนัก แต่พวกเขาเรียบร้อยและดูมารยาทดีมาก
ฮั่วเทียนเฉิงพูดแนะนำในทันที “สองท่านนี้คือสหายของข้า โจวหนิงและต้วนจื่อฉู่ วันนั้นที่บ้านของข้าเกิดเรื่องขึ้น ข้าจึงจำเป็นต้องรีบกลับไป ไม่คิดว่าจะพลาดสงครามเป่ยไห่เสียได้ ข้ารู้สึกผิดในใจอย่างมาก เมื่อครู่ข้าเดินผ่านสำนักใหญ่ๆ แต่ละสำนัก เห็นว่าไม่มีผู้ใดอยู่แล้ว คาดว่าสงครามครั้งนี้ต้องได้รับชัยชนะเป็นแน่”
เย่จิ่งหลานหรี่ตาลงเล็กน้อย
คนผู้นี้เคยช่วยอินชิงเสวียนและเย่จิ่งอวี้ ได้รับความเลื่อมใสจากเจ้าสำนักเซี่ยวอย่างมาก ขมับของชายสองคนที่อยู่ด้านหลังเขาโป่งพองเล็กน้อย คงต้องเป็นผู้ฝึกการต่อสู้มาก่อนแน่ หากสามารถออกทะเลไปกับพวกเขาได้ จะต้องมีหลักประกันมากขึ้นแน่นอน
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาจึงลุกขึ้นยิ้มแล้วพูดว่า “ท่านฮั่วไม่ต้องรู้สึกผิด สงครามยังไม่สิ้นสุด ท่านมาได้ทันเวลาพอดี สามารถช่วยทุ่มเทแรงใจให้แก่ประชาชนต้าโจวได้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...