อินชิงเสวียนไม่เชื่อคำโกหกของเขาเลย คิดแค่จะชิงตัวเสี่ยวหนานเฟิงกลับคืนมา
เมื่อครู่นางพยายามเอาตัวเสี่ยวหนานเฟิงเข้าไปในมิติ แต่ระบบยังคงแจ้งเตือนว่า ห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไป
ก่อนที่ผู้อาวุโสหันจะบีบบังคับด้วยกำลัง นางต้องหลอกเอาตัวเสี่ยวหนานเฟิงออกมาให้ได้ ไม่เช่นนั้นมิติจะสามารถเปิดได้หรือไม่นั้น ยังเป็นปัญหาอยู่
นางมองไปที่เสี่ยวหนานเฟิง เห็นว่าชายชราจับเขาไว้ด้วยท่าทางสบาย จากนั้นจึงขยิบตากับลูก บอกเสี่ยวหนานเฟิงว่าไม่ต้องกลัว มีแม่อยู่
เสี่ยวหนานเฟิงก็รู้ความยิ่งนัก ด้วยมือเล็กป้อมคู่นั้นจับเสื้อของผู้อาวุโสหันไว้แน่น รอให้เสด็จแม่มาช่วยตัวเอง
อินชิงเสวียนละสายตาจากลูกชาย ถามอย่างแสร้งทำเป็นประหลาดใจว่า “ผู้อาวุโสท่านพูดจริงหรือนี่? ถ้าท่านแม่ของข้ามาจากตำหนักเทพจริง แล้วตำหนักเทพเป็นสถานที่เช่นไรหรือเจ้าคะ”
“ข้าก็อายุปูนนี้แล้ว จะหลอกเด็กอย่างเจ้าได้อย่างไร ตำหนักเทพหอทองคำเป็นสำนักสันโดษที่แท้จริง ยังดำรงอยู่ในระดับสุดยอดที่สุดในยุทธจักร”
ผู้อาวุโสหันพูดประโยคนี้อย่างค่อนข้างภาคภูมิใจ แล้วพูดอย่างใจดี “เด็กน้อย กลับไปกับข้าเถิด ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเจ้าคือหวังให้เจ้าล้างแค้นแทนนาง ถ้าเจ้าสังหารเฮ่อยวนไม่ได้ แม่ของเจ้าที่อยู่ในปรโลก คงยากที่จะตายตาหลับได้”
“เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้อาวุโสได้โปรดคืนลูกให้ผู้เยาว์ด้วย ผู้เยาว์จะพิจารณาให้รอบคอบแน่นอน อีกทั้งยามนี้ผู้เยาว์เป็นฮองเฮาแห่งแคว้น หากจะจากไป ยังมีบางสิ่งที่ต้องมอบหมายงานก่อน ผู้อาวุโสโปรดให้เวลาผู้เยาว์อีกสักเล็กน้อย”
ผู้อาวุโสหันส่ายหัว ถอนหายใจกล่าวว่า “ในเมื่อเจ้าเป็นบุตรสาวของธิดาเทพ เช่นนั้นเด็กคนนี้ ก็เป็นคนของตำหนักเทพเราด้วย ข้ารู้สึกถูกชะตากับเขาตั้งแต่แรกพบ ประเดี๋ยวข้าจะพาเขาออกจากวังก่อน เมื่อใดที่เจ้าคิดได้แล้ว สามารถไปหาข้าที่เรือนจุ้ยหงได้”
อินชิงเสวียนไม่มีแก่จิตแก่ใจจะคิดว่าเหตุใดผู้อาวุโสหันจึงอาศัยอยู่ที่เรือนจุ้ยหง เมื่อเห็นเขาอุ้มเอาลูกไป นางก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที
“ไม่ได้ ท่านต้องทิ้งเด็กไว้กับข้า”
การที่ลูกอยู่ในมือของคนอื่น อินชิงเสวียนจะวางใจได้อย่างไร และชายชราที่อยู่เบื้องหน้านี้ ยังรับมือได้ยากกว่าคู่ต่อสู้ทั้งหมดที่นางเคยเผชิญหน้ามามาก
พลังอันแกร่งกล้าเช่นนี้ ในสายตาของเขากลับเป็นเหมือนกับการตบควันให้รู้สึกจั๊กจี้ ตกลงว่าเขาดำรงอยู่อย่างน่าสะพรึงกลัวเช่นไรกัน
ในขณะที่อินชิงเสวียนกำลังใคร่ครวญอยู่นั้น ผู้อาวุโสหันก็อุ้มเสี่ยวหนานเฟิงเดินหน้าต่อไปแล้ว
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
อินชิงเสวียนยกฝ่ามือขึ้นซัดออกไปอีกครั้ง ครั้นแล้วเสียงเพลงอันไพเราะก็ดังก้องไปในอากาศ ที่นางกำลังใช้ ก็คือวรยุทธ์ของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์
เมื่อรู้สึกถึงพลังอันท่วมท้นที่อยู่ข้างหลัง ใบหน้าของผู้อาวุโสหันพลันมืดมน ทันใดนั้นเขาก็หันกลับมา พูดเน้นทีละคำ “ความอดทนของข้ามีขีดจำกัด เจ้าคนไม่รู้ดีชั่ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...