SO BAD เพื่อนสนิทร้ายซ่อนรัก นิยาย บท 18

-หนึ่งอาทิตย์ต่อมา-

“คุณตินครับลงไปเถอะครับใกล้ถึงเวลาแล้ว ท่านประธานถามหาเป็นสิบรอบแล้วนะครับ” เสียงวายุเลขาส่วนตัวของผมกำลังขอร้องให้ผมลงไปที่งานข้างล่างด้วยความกังวลเพราะตอนนี้ก็ใกล้ถึงเวลาเปิดงานแล้ว

ผมลืมบอกใช่ไหมครับว่าวันนี้งานเปิดตัวโปรเจคใหม่ของบริษัทในเครือครอบครัวผมเองที่มีผมเป็นคนควบคุม ไม่ต้องเดากันแล้วล่ะ ใช่ครับงานเปิดตัวห้างที่มินตราเป็นออแกไนซ์นั่นแหละ

ผมไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปวุ่นวายกับชีวิตเธอเลยนะครับแต่เพราะบริษัทนั้นเป็นบริษัทใหญ่ที่มีชื่อเสียง ผมเปิดตัวห้างทั้งทีลงทุนตั้งหลายพันล้านยังไงผมก็คงต้องทำให้มันออกมาดีที่สุดเลยเลือกบริทัษที่มีฝีมือ แต่ใครจะไปคิดว่าบริษัทที่มีทีมออแกไนซ์เก่ง ๆ เป็นสิบทีมจะให้มินตรามาเป็นแม่งานนี้

ไม่ใช่ว่าผมไม่ไว้ใจเธอหรือดูถูกความสามารถเธอ มินตราเก่งผมรู้ดี แต่ใครจะไปคิดว่าเรื่องราวมันจะบังเอิญให้เราต้องมาเจอกันอีกแบบนี้วะ แล้วผมที่อุตส่าห์หลบหน้ามาตั้ง 3 อาทิตย์ก็ยังไม่พร้อมที่จะโผล่ไปให้เธอเห็นหน้าตอนนี้ด้วย

“ฉันยังไม่พร้อม” ผมบอกวายุ เลขาส่วนตัวของผมที่คุณพ่อให้เขามาคอยช่วยงานจนรู้ใจกัน รู้ใจเรื่องงานนะครับอย่าคิดลึก

“แต่งานนี้จะขาดคุณไม่ได้นะครับ” วายุบอกผม เออกูรู้แล้ว แต่กูไม่พร้อมโว้ย!

ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด

...ไอ้ห่าแอล

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ไอ้แอลนี่หว่า

“ฮัลโหล”

“ไงมึง เมื่อไหร่จะโผล่หัวมา ไม่เปิดงานเหรอ?”

“เชี่ยมึงก็รู้ว่าเพราะอะไร”

“ลงมาเถอะน่า กูว่ามินไม่คิดอะไรกับเรื่องนั้นแล้วแหละ”

“เรื่องนั้นกูไม่รู้แต่ตอนนี้กูกลัวใจกูเองนี่แหละ กูกลัวกูทำตามที่เคยสัญญากับมินไว้ไม่ได้...กูไม่พร้อมจะไปให้เขาเจอว่ะ”

“แล้วมึงจะทิ้งงาน?”

เสียงไอ้แอลถามสั้น ๆ นั่นสิวะผมจะทำยังไง นี่มันงานสำคัญที่ผมควบคุมเอง มันเป็นความเชื่อมั่นที่บอร์ดบริหารและพ่อฝากไว้กับผมที่เป็นทายาทคนเดียว

“มึงช่วยกูหน่อยได้ไหม”

“เออ กูก็โทรมาเพื่อโปรดมึงนี่แหละ”

ไอ้แอลตอบด้วยน้ำเสียงยียวน ไอ้เชี่ยมันจะบอกว่าผมเป็นสัตว์เหรอวะ โปรดของมันคือโปรดสัตว์แน่นอน

-สองชั่วโมงต่อมา–

เฮ้อ! ไม่รู้ว่าไอ้แอลกับมิลานใช้วิธีไหนในการพามินตราออกไปจากสถานที่จัดงานแต่ผมโคตรอยากกราบขอบคุณสองคนนั้นเลย ไม่ใช่ผมไม่อยากเจอเธอนะครับ รู้ไหมว่าผมโคตรคิดถึง โคตรอยากเจอหน้า โคตรอยากกอดเธอเลย แต่ผมทำไม่ได้

เวลานี้งานเปิดตัวที่เป็นพิธีการก็จบลงไปแล้ว ตอนนี้ก็มีการทำข่าวแล้วก็มีการแสดงจากบรรดาดารานางแบบนายแบบชื่อดังของวงการบันเทิงเพื่อเรียกกระแสให้ห้างนั่นล่ะอย่าไปสนใจเลย

ผมผละออกมาจากบริเวณงานเพื่อตามหาแอลฟ่า อยากขอบคุณมันสักหน่อยเมื่อกี้โทรหามันบอกอยู่แถวๆ นี้แต่ทำไมหาไม่เจอวะ

#AUSTIN END

#MINTRA TALK

ฉันวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาบริเวณห้างด้วยความเร็วแสงอันน้อยนิดแต่ฉันมั่นใจว่าสุดพลังของฉันแล้วล่ะ ก็อยู่ดี ๆ ใกล้ถึงช่วงที่ผู้บริหารจะขึ้นเวทีเปิดงานพี่พอร์ชก็ลากฉันออกมาแล้วบอกให้ไปเอาเอกสารสำคัญที่คอนโดพี่แกมาให้เพราะต้องให้ลูกค้าเซ็นทันทีหลังจบงาน

“เอ่อ...ไงติน หวัดดี มานานยัง อากาศที่นั่นเป็นไงท่าทางคงเย็นสบายเนาะ” จู่ ๆ มิลานก็พูดขึ้น แบบตะกุกตะกักลิ้นพันกัน เหมือนพยายามจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นแต่เธอคงกำลังตกใจหรือไม่ก็ตื่นเต้นอยู่ทุกอย่างเลยดูไม่เนียนแม้นิดเดียว

“หมายความว่าไง...” มินตราถามขึ้นมาช้า ๆ แต่ไม่ได้ถามผมนะ เธอหันไปถามมิลาน

“ฮะ? อะไรวะ” มิลานถามกลับ เธอคงกำลังตกใจกับสถานการณ์นี้

“ที่เขาพูดเมื่อกี้หมายความว่าไง” มินตราพูดช้า ๆ อีกครั้ง แต่น้ำเสียงเธอกลับทำให้ผมขนลุก

“ก็ ก็ตินเขาเรียกชื่อมึงไง”

“ไม่ใช่ กูหมายถึงประโยคแรก...หมายความว่าไง” มินตราถามเสียงต่ำลงอีกครั้ง โคตรน่ากลัวเลย ไม่เจอกัน 2 ปีทำไมมินตราน่ากลัวขึ้นแบบนี้วะ

“เอ่อ...” มิลานอึกอักคงเป็นเพราะเธอหาคำแก้ตัวไม่ทัน เรื่องนี้ต้นเหตุมาจากผม ผมคงให้มิลานมาลำบากแบบนี้ไม่ได้

“ที่กูต้องไปเอาเอกสารเมื่อกี้ไม่ใช่เพราะพี่พอร์ชลืมใช่ไหม” มินตราจ้องมิลานด้วยแววตากดดัน ทำเอามิลานทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ขึ้นมา

“เรื่องนี้เป็นความผิดฉันเองอย่าไปว่ามิลานเลย” ผมพูดขึ้นมา ใช่ครับมันเป็นความผิดของผมเอง ผมจะให้มิลานต้องมาออกรับแทนไม่ได้หรอก พอผมพูดเท่านั้นมินตราก็หันมามองผม

“ฉันเป็นเจ้าของโครงการนี้ ฉันไม่รู้ว่าเธอจะเป็นคนคุมงานพอรู้ถึงได้พยายามหลบหน้าเพื่อทำตามสัญญา แต่วันนี้ฉันไม่สามารถที่จะเลี่ยงงานเปิดตัวได้ ถึงได้ขอร้องให้มิลานพาเธอ...”

“ฉันก็รู้นะว่าห้างนี้มันของครอบครัวนาย แต่มันก็ไม่ได้มีความจำเป็นที่นายต้องทำแบบนี้เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเจอกันในเมื่อเรื่องมันผ่านไปนานแล้ว ฉันไม่ได้จดจำหรือใส่ใจมันแม้แต่นิดเดียวเลยด้วยซ้ำ แต่งานนี้เป็นงานที่ฉันรับผิดชอบ ถ้ามันมีเรื่องผิดพลาดขึ้นมาระหว่างงานใครกันที่ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่ฉัน ทีมงาน แล้วก็บริษัทของพวกฉันเหรอ? นายคิดได้ยังไง นายอยู่ทำหน้าที่ของนายได้แต่นายเลือกให้ฉันทิ้งหน้าที่ของฉันไป ไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอออสติน?”

มินตราพูดกับผมอย่างชัดถ้อยชัดคำ แล้วก็ไม่ละสายตาไปจากการประสานสายตากันแม้แต่วินาทีเดียว มีแต่ผมเองที่ทนสบตากับเธอไม่ได้ สายตาที่มีแต่ความเย็นชา แล้วเธอก็ก้าวช้า ๆ มายืนตรงหน้าผม

“...นายมันโคตรทุเรศไม่เคยเปลี่ยนเลยออสติน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: SO BAD เพื่อนสนิทร้ายซ่อนรัก