"ผมว่าเรื่องนี้กำลังจะสำเร็จแล้ว พี่ ถึงเวลาอย่าลืมเชิญผมดื่มเหล้ามงคลด้วย…"
คนของตระกูลจางที่อยู่โดยรอบต่างพูดเอาอกเอาใจ บนใบหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
แม้แต่จางอ้ายฉีก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
ก่อนหน้านี้พวกเขาปฏิบัติต่อครอบครัวของจางชิงหยู่อย่างเฉยเมยและเต็มไปด้วยคำพูดจาถากถาง แต่ตอนนี้กลับมานับญาติจนไม่สามารถนับได้อีกแล้ว การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันแบบนี้ไม่ว่าใครก็รู้สึกตกใจ
จางชิงหยู่เพลิดเพลินกับการเอาอกเอาใจของคนอื่น เธอโบกมือแล้วพูดอย่างยิ้มแย้ม "เรื่องเล็กน้อย เรื่องเล็กน้อย ถึงเวลามาดื่มเหล้ามงคลกันทุกคนเลย"
ซูเหยียนที่อยู่ด้านในได้ยินคำพูดประโยคนี้เธอโกรธจนแทบจะระเบิดแล้ว
"ปล่อยให้พวกเขาพูดไปเถอะ"
หลินหยางยังคงนิ่งสงบเหมือนเดิม
ในตอนนั้นเอง เฉิงผิงเดินเข้ามาอย่างกะทันหัน
"พวกคุณสองคนตามฉันมา คุณปู่ต้องการพบพวกคุณ!"
"มีอะไรเหรอ?"
ซูเหยียนรู้สึกสับสนไปหมด
"ตามฉันมาก็พอ!"
เฉิงผิงหรี่ตาลงยิ้มแล้วพูด
หัวใจของซูเหยียนรู้สึกเย็นวูบ เธอรู้สึกว่าต้องมีอะไรแน่นอน
คนทั้งสองเดินตามเฉิงผิงออกจากห้องโถงตรงไปที่ใจกลางของสวน
นี่เป็นที่พักของผู้เฒ่าจาง ปกตินอกจากคุณนายจางคนอื่นห้ามเดิมเข้ามาตามใจชอบเด็ดขาด
ตระกูลจางมีกฎระเบียบที่เคร่งครัด ชายชราก็เป็นคนที่เข้มงวดมาก มีกฎระเบียบในสมัยโบราณทุกเขียนเข้าไปในกฎของตระกูล
หลังจากที่เดินเข้าไปในบ้าน
ชายชรากำลังนั่งดื่มชาอยู่ในห้องรับแขกเพียงลำพัง
นี่เป็นครั้งที่สองที่หลินหยางได้เจอกับผู้เฒ่าจาง
ก่อนหน้านี้เคยเจอตอนส่งตัวเจ้าสาวในงานแต่ง
ชายชราคนนี้ถึงแม้ผมหงอกจะเต็มหัว แต่สีหน้าของเขาดูมีชีวิตชีวาท่าทางกระฉับกระเฉง
เห็นคนทั้งสองเดินเข้ามา ชาชาววางแก้วชาที่อยู่ในมือลงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง "พวกเธอสองคน คุกเข่าลง!"
ซูเหยียนไม่สามารถแบกรับออร่าของชายชรา เธอตกใจจนเข่าอ่อนเข่าลงกับพื้น
"คุณตา…" เธอก้มหน้าลงท่าทางดูหวาดกลัว
แต่ว่าหลินหยางกลับยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางที่สบายใจ
"หลินหยาง แกไม่คิดจะคุกเข่าเหรอ?" จางจงหัวขมวดคิ้ว
หลินหยางเงียบไปสักพัก สุดท้ายพยักหน้าแล้วคุกเข่าลงพูดอวยพรชายชรา "หลานเขยหลินหยาง ขอให้ท่านผู้เฒ่าสุขภาพแข็งแรงอายุยืนยาว!"
ชายชรารู้สึกอึ้งไปสักพัก แต่ไม่นานเขาก็ตะคอกด้วยความโกรธ "หลินหยาง! แกเลิกมาพูดจาเล่นลิ้นได้แล้ว ฉันไม่ได้บอกให้แกผู้อวยพร! ตอนนี้แกยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าตัวเองทำอะไรผิด?"
"ท่านผู้เฒ่า ผมทำอะไรผิดเหรอ?" หลินหยางงงเป็นไก่ตาแตก
"ฉันขอถามแกหน่อย รถที่อยู่ข้างนอกไปเอามาจากไหน" ชายชราถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
หลินหยางขมวดคิ้ว เหลือบมองเฉิงผิงที่อยู่ด้านข้าง
"คนทั้งตระกูลคิดว่าไคโม่เป็นคนมอบให้ แต่อันที่จริงแล้วมันไม่ใช่ แกได้มาเพราะไปพนันม้ากับพวกไคโม่ถูกหรือเปล่า?" ผู้เฒ่าจางพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
"ดูเหมือนเฉิงผิงจะบอกเรื่องทุกอย่างให้ท่านผู้เฒ่ารู้แล้ว?"
"โชคดีที่เฉิงผิงบอกให้ฉันรู้ก่อน ไม่อย่างนั้นตระกูลจางคงจะเกิดเรื่องใหญ่แน่นอน!" ผู้เฒ่าจางพูดด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ "หลินหยาง ฟังให้ดี ฉันไม่สนว่าแกจะใช้วิธีอะไร รีบเอาเงินทั้งหมดที่แกได้มาไปคืนเดี๋ยวนี้ รวมทั้งบ้าน รถ บัตรธนาคาร แล้วก็เงื่อนไขข้อตกลงที่ควรจะฉีกทิ้งก็ฉีกทิ้งให้หมด จัดการบัญชีทั้งหมดให้เรียบร้อยเข้าใจหรือเปล่า?"
คำพูดประโยคนี้ทำให้ซูเหยียนมองตาค้าง
หลินหยางเงยหน้าขึ้น
"คุณตา เพราะอะไร?" ซูเหยียนเริ่มรู้สึกร้อนรนแล้ว
"เพราะเงินพวกนี้ไม่สะอาด!" ผู้เฒ่าจางขมวดคิ้วตะคอกด้วยความโกรธ
ซูเหยียนถึงกับสะดุ้งตกใจ
"ชนะติดต่อกันเจ็ดครั้ง และยังใช้ม้าของไคโม่ชนะเขาในสนามม้าของเขา? เธอรู้หรือเปล่าว่ามันยากมากแค่ไหน? ตามหลักแล้วมันเป็นไปไม่ได้! นอกเสียจากใช้วิธีโกงถึงจะสามารถทำได้ เหยียนเอ๋อ ตาอยู่มานานขนาดนี้แล้ว ลูกเล่นของพวกเธอหลอกไคโม่ได้ แต่คิดว่าหลอกฉันได้เหรอ? หลอกตระกูลไคได้เหรอ?" ผู้เฒ่าจางพูดด้วยความโกรธ
ซูเหยียนได้ยินคำพูดของเขาแล้วถึงจะเข้าใจ ดูเหมือนชายชราจะคิดว่าหลินหยางใช้วิธีการโกงบางอย่างเอาชนะไคโม่?
อันที่จริงหลินหยางทำแบบนั้นจริง
"พวกเธอสามารถหลอกพวกไคโม่ แต่คนที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขาไม่มีทางโดนพวกเธอหลอก ได้ยินมาว่าครั้งนี้พวกเธอได้เงินมาจากพวกเขาสูงถึงหลายร้อยล้าน นี่ไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาจะสามารถแบกรับได้ และพวกเขาก็ต้องไปอธิบายสถานการณ์กับคนในตระกูลแน่นอน ถึงเวลานั้นคนของตระกูลพวกนี้มาหาถึงที่ ถึงแม้ตระกูลจางจะมีอิทธิพลอย่างกว้างขวางในมณฑลกวงหลิว แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะรับมือกับกลุ่มอิทธิพลหลายกลุ่มพร้อมกัน แม้แต่พวกเราก็ช่วยพวกเธอไม่ได้ แล้วใครจะช่วยพวกเธอได้อีก? พวกเธอรีบเอาเงินไปคืนให้หมด ถ้าหากไม่ทำตามที่ฉันสั่งก็ไสหัวออกจากตระกูลจาง" จางจงหัวตะคอกด้วยสีหน้าที่แดงก่ำ
"ทำตามที่คุณตาพูดเถอะ"
"ไม่จำเป็น"
"หลินหยาง อย่าดื้อด้านไปหน่อยเลย หรือว่าคุณต้องการให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่โตเหรอ? ยิ่งไปกว่านั้นเงินพวกนี้ก็ไม่ใช่ของเรา" ซูเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงที่ร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา
เธอไม่เคยให้ความสำคัญกับเงินพวกนี้ ในมุมมองของเธอ สิ่งสำคัญที่สุดคือครอบครัวอยู่อย่างมีความสุข
หลินหยางคิดสักพัก สุดท้ายถอนหายใจแล้วพูด "ช่างเถอะ ในเมื่อพวกคุณต้องการให้ผมทำแบบนี้ งั้นก็ได้ หลังจากงานเลี้ยงสิ้นสุดลงผมจะหาโอกาสเอาไปคืน"
อีกด้านหนึ่งบัญชีที่ควรชำระก็ต้องชำระ
"ดีแล้ว" ซููเหยียนถอนหายใจอย่างโล่งอก
พับพับพับพับพับ…
มีเสียงประทัดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตระกูลจางเริ่มคึกคัก
เต็มไปด้วยเสียงตะโกนและเสียงปรบมือ
ผู้เฒ่าจางเดินเข้าไปในห้องโถงอย่างเป็นทางการ
ผู้คนรีบพากันเดินเข้ามาอวยพรให้กับผู้เฒ่าจางทันที
บนใบหน้าของชายชราเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาพูดอย่างยิ้มแย้ม "ดี! ดี! ดี! เหอเหอ…"
ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นและสงบสุข
"ลูกสี่" ในตอนนั้นเองที่ผู้เฒ่าจางตะโกนเสียงดัง
ลูกชายคนที่สี่ของเขารีบวิ่งตรงเข้ามา
"พ่อ"
"แม่ของแกล่ะ?"
"แม่อยู่ในห้อง"
"ฮืม? งั้นแล้วแต่เธอเถอะ พวกเราเริ่มงานเลี้ยงกันเลย อย่าปล่อยให้แขกรอนาน"
"ได้เลย"
จางคุนยิ้มเร็วพูด หลังจากนั้นเริ่มไปยุ่งอยู่กับงานเลี้ยง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...