สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 142

"ประธานหลิน นี่…ถ้าพวกเขาซื้อคนของเราแล้วสั่งให้แอบทำอะไรบางอย่าง หลังจากนั้นแจ้งให้ทางภาครัฐมาตรวจสอบ ถ้าเป็นแบบนั้นถึงพวกเราจะบริสุทธิ์แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว" หม่าไห่พูดด้วยความร้อนรน

"ในเมื่อฝ่ายใต้ตัดสินใจที่จะลงมือกับหยางหัวกรุ๊ป นั่นก็หมายความว่าพวกเขาต้องการเอาเราให้ถึงตายอย่างไม่มีที่ฝัง พวกเราคุณจะโต้ตอบ!"

"ประธานหลินมีวิธีอะไรหรือเปล่า?" หม่าไห่ถาม

"คุณให้ผมไปลงที่ป้ายรถเมล์หน้าก็พอ คุณกลับบริษัทไปก่อนเถอะ ผมจะไปพบใครบางคน!"

"นี่…ก็ได้"

หม่าไห่ส่งหลินหยางลงป้ายรถเมล์หน้าพร้อมกับความมึนงง

หลังลงจากรถ หลินหยางสั่งให้หม่าไห่กลับบริษัทไปก่อน

หลังจากที่หลินหยางจากไป รถเมล์ถนนหมายเลข2มาถึงพอดี หลินหยางขึ้นรถนั่งจนไปถึงป้ายสุดท้าย เขาลงรถที่เขตชานเมืองทางเหนือ

เขาเดินตามเส้นทางที่ไม่ค่อยมีผู้คนสัญจรไปมา จนกระทั่งมาถึงหน้าบ้านพักคนชราแห่งหนึ่งแล้วเคาะประตู

"สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรหรือเปล่า?"

ประตูถูกเปิดออก มีหญิงสาวสวมชุดพยาบาลคนหนึ่งเดินเข้ามายิ้มแล้วถาม

"สวัสดีครับ ผมมาเป็นอาสาสมัคร" หลินหยางยิ้มแล้วพูด

"จริงเหรอ? ไม่ทราบว่าคุณมีใบรับรองหรือเปล่า? หรือไม่ก็เอกสารที่เกี่ยวกับการผ่านฝึกอบรม?" พยาบาลถาม

"มี"

หลินหยางยิ้มแล้วพูด หลังจากนั้นยื่นมือเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหยิบของ แต่ผ่านไปสักพัก บนใบหน้าของเขาปรากฏให้เห็นอารมณ์ของความประหลาดใจ

"ฮืม? ไปไหนแล้ว? เมื่อกี้มันยังอยู่ที่นี่อยู่เลย…ไปไหนแล้วเนี่ย?"

ท่าทางของเขาดูร้อนรนมาก สองมือคนทำกระเป๋าเสื้อและกางเกงอยู่หลายรอบ

"ของหายเหรอ?" พยาบาลถาม

"ดูเหมือนจะใช่"

หลินหยางทำหน้าช่วยไม่ได้ เขาถอดหมวกออกเผยให้ใบหน้าที่หล่อเหลาเหมือนเทพบุตร

พยาบาลมองตาค้าง

แววตาทั้งคู่ของเธอดูเหม่อลอย จ้องมองใบหน้าที่อยู่ตรงหน้าไม่กระพริบตา วิญญาณของเธอแทบจะลอยออกจากร่างแล้ว

"คุณครับ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?"

หลินหยางสวมหมวกอีกครั้ง แล้วถามด้วยความระมัดระวัง

แต่แล้วพยาบาลกลับไม่มีการตอบสนอง

เขาถอนหายใจในใจ

อันที่จริงเขาก็ไม่อยากใช้แผนหนุ่มงามแบบนี้ แต่ตอนนี้มันไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆ เขาก็เลยลองเรียกพยาบาลคนนั้นอีกสองสามครั้ง

"หา…ฉัน…ฉันไม่เป็นไร!" ในที่สุดพยาบาลคนนั้นก็ดึงสติกลับมา เธอรีบพูดขึ้น

"ต้องขออภัย เอกสารของผมน่าจะตกหายระหว่างทาง หรือไม่เดี๋ยวผมกลับไปทำมาใหม่ก็แล้วกัน"

"โอ๊ย แบบนั้นมันยุ่งยากเกินไป คุณเป็นถึงอาสาสมัครมาทำความดี จะปล่อยให้คุณมาเสียเวลาแบบนี้ได้ยังไง? เอาแบบนี้ก็แล้วกัน คุณทำงานที่นี่ไปก่อนก็แล้วกัน ส่วนเรื่องเอกสารอะไรพวกนี้ค่อยไปทำพรุ่งนี้ก็ได้!" พยาบาลโบกมือแล้วพูดอย่างเขินอาย

"จริงเหรอ? งั้นต้องขอบคุณมาก"

"คุณตามฉันมา ฉันจะพาคุณไปเดินดูสถานที่ของบ้านพักคนชราก่อน"

"ได้เลย….เออ ผมรู้สึกไม่สบายท้องนิดหน่อย ไม่ทราบว่าห้องน้ำอยู่ทางไหน?"

"อ๋อ…อยู่ทางใต้ จะให้ฉันพาคุณไปหรือเปล่า?"

"ไม่ต้อง ผมไปเองก็ได้"

"ได้ แต่คุณไปถึงโซนทางใต้แล้วห้ามเดินเพ่นพ่านเด็ดขาด โดยเฉพาะป่าไผ่ที่อยู่ตรงนั้นห้ามเข้าไปเด็ดขาด เข้าใจหรือเปล่า?"

"เพราะอะไร?"

"ที่นั่นเป็นที่พักของคนใหญ่คนโต คนทั่วไปเข้าไปไม่ได้" พยาบาลพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง

"อ๋อ ผมเข้าใจแล้ว"

หลินหยางยิ้มแล้วยิ้มอีก หลังจากนั้นเดินออกมา

รอยยิ้มของเขาทำให้พยาบาลรู้สึกตัวลอยอีกครั้ง

แววตาของพยาบาลลุกวาวเป็นประกาย ส่วนหลินหยางเดินตรงไปที่ทิศทางของป่าไผ่แล้ว

แต่สิ่งที่ทำให้คิดไม่ถึงคือ ชายชราที่กำลังพูดถึงคนนี้ อันที่จริงแล้วเขาเพิ่งจะมีอายุห้าสิบปี

และเขาคนนี้ก็คือเจิ้งหนานเทียนผู้ได้รับฉายาเทพเจ้าแห่งสงครามของกองทัพประเทศจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วเมื่อสิบปีก่อน

อันที่จริงตอนที่หลินหยางเพิ่งมาถึงเมืองเจียงเฉินเขาก็รู้แล้วว่าเจิ้งหนานเทียนถูกส่งตัวมาพักฟื้นที่บ้านพักคนชราแห่งนี้

เมื่อสิบปีก่อน เจิ้งหนานเทียนได้รับบาดเจ็บสาหัสในขณะที่กำลังปฏิบัติภารกิจลับ อาศัยวิทยาการการแพทย์ที่ก้าวหน้าและรวมไปถึงทักษะการแพทย์ของฉินไป่ซงรวมไปถึงแพทย์ที่มีชื่อเสียงภายในประเทศ ในที่สุดก็สามารถยื้อชีวิตของเจิ้งหนานเทียนเอาไว้ได้สำเร็จ แต่นั่นมันก็แค่ยื้อชีวิตของเขาไว้ได้เท่านั้น กำลังและร่างกายของเขาได้รับความเสียหายอย่างมาก ความแข็งแกร่งถดถอย ไม่ได้รุ่งโรจน์เหมือนในอดีต

หลินหยางเคยได้ยินฉินไป่ซงพูดถึง เจิ้งหนานเทียนถูกพิษ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นพิษที่แปลกประหลาดไม่สามารถขับออกจากร่างกาย จึงส่งผลให้ร่างกายอยากจะฟื้นตัว ส่วนเจิ้งหนานเทียนในตอนนี้ถูกพิษมาเป็นเวลานานถึงสิบปี ยาพิษได้ฝังลึกเข้าไปในกระดูกแล้ว คิดจะรักษาให้หายไม่ต่างอะไรกับการปีนขึ้นสวรรค์ ดังนั้นฉินไป่ซงจึงมองว่ายังไงเจิ้งหนานเทียนก็ไม่มีทางรอด ก็เลยบอกให้เขาใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุขก็พอ

แน่นอน เจิ้งหนานเทียนในฐานะที่เป็นเทพเจ้าแห่งสงครามของกองทัพ เรียกได้ว่าเป็นบุคคลระดับผู้นำ อาการบาดเจ็บของเขาถูกปิดเป็นความลับ และสถานที่พักรักษาตัวของเขาก็ถูกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทั้งหมดก็เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายศัตรูรู้เรื่อง อย่างไรก็ตามเมื่อไหร่ที่ข่าวเกี่ยวกับการบาดเจ็บของเขาถูกแพร่กระจายออกไป ไม่เพียงแต่จะส่งผลให้จิตใจของเหล่าทหารเกิดความสับสน ยิ่งไปกว่านั้นยังจะเป็นโอกาสให้พวกประเทศศัตรูที่แข็งแกร่งรุกรานเข้ามาในประเทศ อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาล

แต่หลังจากผ่านไปสิบปี ข่าวของเจิ้งหนานเทียนก็เริ่มรั่วไหลไปทีละนิด

บางคนก็บอกว่าเขาตายไปแล้ว

บางคนก็บอกว่าอันที่จริงเขากำลังเก็บตัวเพื่อฝึกฝน

มีข่าวลือมากมายแพร่กระจายไปทั่ว แน่นอน มีทั้งความจริงที่ว่าเขาโดนพิษถูกลือกันอย่างหนาหูด้วย

แต่ว่าเรื่องพวกนี้มันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว

เจิ้งหนานเทียนไม่ได้ปรากฏตัวเป็นเวลาสิบปี ภายในกองทัพมีคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่มีพรสวรรค์แจ้งเกิดไม่น้อย และถึงขั้นถูกตั้งฉายาว่าเป็นผู้สืบทอดเทพเจ้าแห่งสงคราม

แต่ว่าอิทธิพลของเขาในกองทัพก็ไม่มีวันตกต่ำลง

หลินหยางโดนทหารสองคนนั้นพาตัวเข้ามา

เจิ้งหนานเทียนที่ร่างกายผอมแห้งสังเกตเห็นหลินหยาง ไฟแห่งความโกรธของเขายิ่งลุกโชนขึ้น

"ฉันบอกไปแล้วฉันไม่ต้องการหมอ! ไสหัวไป ไสหัวไปให้หมด!"

เจิ้งหนานเทียนโกรธจนคิดจะลุกขึ้นมาทุบทำลายข้าวของโดยรอบ เนื่องจากร่างกายของเขาผอมแห้งมากเกินไป ทันทีที่ลุกขึ้น เขารับสภาพน้ำหนักร่างกายไม่ไหวจนล้มลงไปนั่งลงอีกครั้ง

"หัวหน้า!" ชายหนุ่มในเครื่องแบบที่อยู่ด้านข้างรีบวิ่งเข้ามาประคองเจิ้งหนานเทียน

แต่เจิ้งหนานเทียนกลับสะบัดมือของเขาทิ้งอย่างกะทันหัน หลังจากนั้นด้วยร่างกายที่ยืนได้มั่นคงล้มลงไปหาพื้น

"หาหน้า!"

คนทั้งกลุ่มถึงกับหน้าถอดสี รีบวิ่งเข้าไปประคองเจิ้งหนานเทียนลุกขึ้นมานั่งบนเก้าอี้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา