ก่อนที่จะเกิดเรื่องนี้ผู้คนไม่รู้ว่าฟางหงเป็นใครมาจากไหน รู้เพียงแต่ว่าเขาทำงานในเยี้ยนจิน มีนิสัยถ่อมตน ตายแล้วหลังจากที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น มีผู้คนมากมายเงียบลงทันที
เขาเป็นรองผู้บัญชาการเยี้ยนจินที่ปลดเกษียณพร้อมกับผลงานมากมายและยังเป็นคนที่พักดีและรักประเทศชาติมาก
เป็นไปได้เหรอที่คนแบบนี้จะโดนเงินซื้อ?
ถึงแม้ประธานหลินจะมีความสามารถมากแค่ไหนก็ไม่มีทางสั่งการคนแบบนี้ได้แน่นอน!
ชอบแบบนี้ เรื่องทั้งหมดจึงเงียบลง
ส่วนลั่วเป่ยหมิงที่สูญเสียทนายอย่างฟางซื่อหมิงก็เหมือนกับสูญเสียเสาค้ำจุน พังทลายลงโดยตรง
หลังจากที่รู้ว่าฟางซื่อหมิงถอนตัวออกจากคดี ลั่วเป่ยหมิงถอนหายใจยาวตัดสินใจพักการสู้คดีเอาไว้ก่อน เพราะเขารู้ดีว่าทางฝั่งของเขาไม่มีทางชนะแล้ว
จุดจบมันถูกกำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว
ซูเป่ยและซูเจินยืนเหม่อลอยอยู่ตรงนั้น
"เป็นไง? ฝีมือของผมใช้ได้หรือเปล่า?"
หลินหยางมองคนกลุ่มนั้นด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์
"คุณ…คุณอย่าได้ใจให้มันมากนัก!"
จางชิงเหิงกัดฟันแน่นพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา "ถึงแม้พวกคุณจะชนะคดีความ แต่เรื่องที่หยางหัวกรุ๊ปทำของปลอมรวมไปถึงกดขี่คนงานยังไม่จบ ตลาดหุ้นของพวกคุณเริ่มปั่นป่วน ส่วนซางหยูกรุ๊ปของเราเริ่มลงมือแล้ว ถึงจะไม่สามารถทำให้พวกคุณล้มละลาย แต่อย่างน้อยครั้งนี้พวกคุณก็ต้องสูญเสียครั้งใหญ่!"
"ดังนั้น คุณก็เลยคิดว่าหยางหัวกรุ๊ปของเราจะกลัวซางหยูกรุ๊ปของคุณ?" หลินหยางพูดขึ้นอย่างกะทันหัน
จางชิงเหิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอึ้ง "บริษัทที่เพิ่งก่อตั้งของพวกคุณจะมีโครงสร้างที่ใหญ่มากแค่ไหน? จะมีทรัพยากรมากแค่ไหน? จะเอาอะไรมาสู้กับพวกเรา?"
"ถึงแม้พวกเราจะเพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน แต่ถ้าคุณจะพูดถึงโครงสร้างและทรัพยากร อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน!"
หลินหยางหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาใครบางคน
"ไอ้หนู ผมรู้เรื่องหมดแล้ว คุณวางใจเถอะ เรื่องนี้ปล่อยให้ผมเป็นคนจัดการเอง!" เสียงของเจิ้งหนานเทียนดังขึ้นจากปลายสาย ในน้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยอารมณ์ของความโกรธ
หลินหยางยิ้มเล็กน้อยแล้วพูด "ผู้อาวุโสเจิ้งพูดแบบนี้ผมก็รู้สึกสบายใจ แต่ว่าผู้อาวุโสเจิ้ง ผมยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะคุยกับคุณ"
"เรื่องอะไรคุณพูดมาได้เลย!"
"มันก็เป็นเรื่องที่ผมปฏิเสธเรื่องเงินทุนช่วยเหลือก่อนหน้านี้นั่นแหละ ผมอยากจะถามว่าประมาณเท่าไหร่เหรอ?"
"อันนี้…เกรงว่าผมคงขออนุมัติให้คุณได้แค่เจ็ดพันล้าน!"
"งั้นผมเอา" หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
ประธานหลินโทรหาใคร ที่พูดมาหมายความว่ายังไง ผู้คนโดยรอบได้ยินไม่ค่อยชัดเจน
แต่มีอยู่คำพูดประโยคหนึ่งที่ทุกคนโดยรอบได้ยินอย่างชัดเจน
เจ็ดพันล้าน!
มันคือเงินเหรอ?
มีผู้คนไม่น้อยที่แทบจะคลั่งไปแล้ว!
โดยเฉพาะจางชิงเหิง เขารู้สึกอ่อนแรงจนแทบจะทรุดตัวล้มลงกับพื้น
เจ็ดพันล้าน?
หรือว่า…หยางหัวกรุ๊ปยังมีทุนสำรองอีกเจ็ดพันล้าน?
ถ้าหากเป็นแบบนั้น การโจมตีของซางหยูกรุ๊ปสำหรับพวกเขาแล้วมันนับอะไรไม่ได้เลย ไม่แน่หยางหัวกรุ๊ปอาจจะใช้เงินทุนมหาศาลโจมตีกลับด้วยซ้ำ
เป็นแบบนี้ได้ยังไง?
ร่างกายของจางชิงเหิงสั่นเทา เขาไม่เคยคิดว่าหลินหยางจะมีอิทธิพลมากขนาดนี้…
"คุณ…คุณกำลังโกหก!" เขาพูดด้วยเสียงที่สั่นเทา
"ทุกคนล้วนแต่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ผมพูดโกหกไปมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร ในทางกลับกันมันจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของผมด้วย คุณคิดว่าผมจะทำเรื่องไร้สาระแบบนี้เหรอ?" หลินหยางลดโทรศัพท์ลงแล้วพูด
สีหน้าของจางชิงเหิงเดี๋ยวแดงเดี๋ยวซีด สุดท้ายเขาตัดสินใจหันหลังแล้วเดินจากไป
เขาจะต้องไปรายงานเรื่องนี้ให้กับซือถูจิ้งก่อน และบอกให้ทางบริษัทเตรียมมาตรการรับมือ
แต่ในตอนที่จางชิงเหิงกำลังเตรียมตัวเดินจากไป หลินหยางตะโกนขึ้นอย่างกะทันหัน
"ผมรู้"
หลินหยางหลับตาลง ผ่านไปสักพักแล้วลืมตาขึ้นอย่างกะทันหัน ในแววตาปรากฏให้เห็นความเย็นชา "พวกเขาไม่มายุ่งกับเรา นั่นก็ไม่ได้แปลว่าพวกเราห้ามไปยุ่งกับพวกเขา! หาเทรดเดอร์ที่ดีที่สุด หานักการตลาดที่เก่งที่สุด พวกเราจะเป็นฝ่ายโจมตีซางหยูกรุ๊ปเอง"
หม่าไห่ที่ได้ยินแทบจะตกจากโซฟา
"ประธานหลิน ทำแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด! !" เขารีบพูดขึ้น
"เพราะอะไร?" หลินหยางหันไปแล้วถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
"บริษัทของเราเพิ่งจะก่อตั้งได้ไม่นาน มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังไม่มั่นคง ถ้าหากเปิดสงครามการตลาดตอนนี้ มันจะเป็นผลเสียต่อหยางหัวกรุ๊ป ยิ่งไปกว่านั้นซางหยูกรุ๊ปเป็นถึงบริษัทข้ามชาติ รากฐานของพวกเขามั่นคง เงินทุนหมุนเวียนก็ไม่มีปัญหา ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน เมื่อเทียบกับพวกเขาพวกเราก็เหมือนกับเด็กเพิ่งหัดเดิน ประธานหลินคุณจะวู่วามไม่ได้เด็ดขาด!"
หม่าไห่อยู่ในวงการธุรกิจมานาน สามารถมองได้จากเขาที่พาตระกูลหม่าเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาเป็นคนที่มองวงการธุรกิจได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และมีความเข้าใจเกี่ยวกับบริษัทใหญ่ภายในประเทศหลายแห่งเป็นอย่างดี
ถูกต้อง หยางหัวกรุ๊ปในตอนนี้ทุกอย่างกำลังไปได้สวย เพียงแค่มีสูตรยาสองใบที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้ สามารถบอกได้ว่าอนาคตของพวกเขาไร้ขอบเขต
แต่ไม่ว่าเรื่องอะไรมันก็ต้องมีอุปสรรคและขั้นตอน หยางหัวกรุ๊ปเพิ่งจะก่อตั้งได้นานแค่ไหน? คิดจะงัดข้อกับซางหยูกรุ๊ป? มันจะต่างอะไรกับการไปรนหาที่ตาย!
แต่แล้วหลินหยางกลับส่ายหัว เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย "ไม่จำเป็นต้องห่วง ทำตามที่ผมบอกก็พอ!"
"พวกเราไม่มีโอกาสที่จะชนะเลย!"
"ผมไม่ได้ต้องการชนะ"
"อะไรนะ?"
หม่าไห่มองตาค้าง คิดว่าตัวเองฟังผิด
"ตั้งแต่เริ่มจนจบผมไม่เคยต้องการคำว่าชนะ แต่สำหรับผม ขอเพียงแค่ลงมือทำก็เท่ากับชนะแล้ว หม่าไห่ ผมไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินทองและโอกาส ถึงแม้หยางหัวกรุ๊ปจะได้รับบาดเจ็บสาหัสในสงครามการตลาดครั้งนี้ แต่ผมก็สามารถทำให้มันฟื้นฟูกลับมาได้อย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น และผมถึงขั้นสามารถทำให้มันมีมูลค่าที่สูงกว่า ไปให้ถึงตำแหน่งที่สูงกว่า แต่ทว่าซางหยูกรุ๊ปไม่เหมือนกัน เมื่อไหร่ที่เกิดความสูญเสียกับพวกเขา พวกเขาไม่มีทางฟื้นฟูกลับมาได้เร็วเหมือนผม ดังนั้น เมื่อผมบอกให้คุณเปิดศึก คุณก็ไปทำศึกอย่างไร้กังวล ถึงแม้บริษัทต้องล้มละลายก็ตาม!"
หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
หม่าไห่เริ่มหายใจแรงขึ้น
เขามองไปทางหลินหยางด้วยความตกตะลึง ท่าทางสุขุม สีหน้าจริงจัง สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูด "คุณหลินวางใจได้ เรื่องนี้…ปล่อยให้ผมจัดการเอง!"
ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว หยางหัวกรุ๊ปและซางหยูกรุ๊ปได้มีการผูกความแค้นร่วมกัน ยังมากก็แค่ล้มลงทั้งสองฝ่าย ในเมื่อประธานหลินก็พูดถึงขนาดนี้ เขาไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...