สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 191

แบ่งทรัพย์สิน?

นี่มันหมายความว่ายังไง?

นี่มันจางจงหัวต้องการคิดบัญชีกับคนพวกนี้!

ต้องบอกก่อน ปัจจุบันทรัพยากรส่วนใหญ่ของบ้านตระกูลจางล้วนแต่อยู่ในมือของจางจงหัว ถ้าหากจางจงหัวเห็นด้วยกับคำแนะนำของหลินหยาง ทรัพย์สินที่อยู่ในมือของคนตระกูลจางพวกนี้ก็จะลดน้อยลงอย่างกะทันหันทันที

ถึงเวลานั้น ตระกูลจางยังจะเรียกตระกูลจางได้อีกเหรอ?

พวกเขาจะกลายเป็นคนไม่เหลืออะไรเลย!

"พ่อ พ่อ…พ่อจะฟังคำพูดของหลินหยางไม่ได้นะ!" จางอ้ายฉีที่ตั้งสติได้เป็นคนแรกรีบตะโกนขึ้นทันที

ส่วนคนอื่นก็รู้สึกตื่นตระหนกเหมือนกัน รีบก้าวออกมาข้างหน้า

"พ่อ พ่อต้องไต่ตรองให้ดีก่อน!"

"อยากฟังคำพูดของพวกเขาเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นตระกูลจางของเราต้องจบสิ้นแน่!"

"หลินหยางแกหุบปากไปเลย อย่ามาพูดจาไร้สาระที่นี่!"

"หลินหยาง คุณอยากทำให้ตระกูลจางของเราล่มจมหรือยังไง?"

จางคุนและคนอื่นตะโกนอย่างบ้าคลั่ง มีทั้งพูดเกลี้ยกล่อมมีทั้งด่าทอ แม้แต่จางซงหงก็นั่งไม่ติดแล้ว

แต่แล้วผู้เฒ่าจางกลับส่งเสียงฮึ่มอย่างเย็นชา "ทำไม? พวกแกยังรู้เหรอว่าฉันเป็นพ่อของพ่อแก? ฉันนึกว่าพวกแกจะเป็นพวกขี้อิจฉาที่ไม่มีพ่อแม่เสียอีก!"

ทุกคนรีบก้มหน้าลงไม่กล้าพูดอะไร ภายในใจรู้สึกผิดมาก

ส่วนคุณนายจางโกรธจนตัวสั่น

เธอรู้ดีว่าเป้าหมายของหลินหยางคืออะไร!

และเธอก็เข้าใจด้วยว่าตอนนี้กำลังเผชิญหน้ากับอะไร

แต่เธอไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนก

"แบ่ง? ได้สิ! ใครจะกลัวใคร ทางที่ดีพวกเราหย่ากันด้วยเลยจะดีกว่า! ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าแกจะได้เงินไปเท่าไหร่!" คุณนายจางพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา หลังจากนั้นหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาใครบางคน

ผ่านไปสักพัก มีรถยนต์คันหนึ่งขับมาจอดที่หน้าประตูบ้านตระกูลจาง หลังจากนั้นมีผู้ชายแต่งตัวดีถือกระเป๋าเอกสารเดินเข้ามาด้านใน

มีผู้คนไม่น้อยที่หันไปมอง และสีหน้าเปลี่ยนไปทันที

"ชวี่จี?" ทางด้านของเหมยยี่อุทานออกมาโดยไม่รู้ตัว

"คุณเหมย สวัสดีครับ" ผู้ชายที่ชื่อชวี่จี้หันไปพยักหน้าให้กับเหมยยี่

"เขาเป็นใคร?" หลินหยางหันไปถามเสี้ยวฉางชิงที่อยู่ด้านข้าง

"ทนายอันดับหนึ่งของมณฑลกวงหลิว!" เสี้ยวฉางชิง

"ฮืม?"

หลินหยางรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

"ต้องการแบ่งทรัพย์สิน? ไม่มีปัญหา แต่ฉันจะเอาทรัพย์สินทั้งหมด70%ของตระกูลจาง ถ้าหากคุณไม่เห็นด้วย งั้นพวกเราก็ไปเจอกันในศาล! !" คุณนายจางยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูด

ความหมายของเธอมันชัดเจนมาก

ชวี่จี้เป็นถึงทนายอันดับหนึ่งของมณฑลกวงหลิว ไม่ว่ายังไงกันแบ่งทรัพย์สินครั้งนี้ก็ต้องไปถึงศาลแน่นอน ส่วนคุณจางมีชวี่จี้คอยช่วย จางจงหัวไม่มีทางชนะคดีความ ด้วยความสามารถของชวี่จี้ อย่าว่าแต่ 70% เลย เกรงว่าอาจจะได้สูงถึง 80% ด้วยซ้ำ

สีหน้าของผู้เฒ่าจางเปลี่ยนไปทันที

เขาไม่เคยคิดว่าคุณจางคนนี้จะไปดึงชวี่จี้ทนายความอันดับหนึ่งของมณฑลกวงหลิวมาเป็นพวกตั้งนานแล้ว

แล้วแบบนี้เขาจะไปหาทนายที่ไหน?

เยี้ยนจิน?

แต่ทนายความที่มีชื่อเสียงในเมืองเยี้ยนจินมันเชิญง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ? เชิญทนายพวกนั้นมาช่วยสู้คดี ไม่เพียงแต่ต้องมีเงินอย่างเดียวเท่านั้น จางจงหัวยังไม่มีเกียรติมากขนาดนั้น

ในเมื่อเชิญทนายทางเยี้ยนจินไม่ได้ แล้วใครจะเป็นคู่ต่อสู้ของชวี่จี้อีก?

จางจงหัวเงียบขรึมลง

คนของตระกูลจางก็รู้สึกอึ้งเหมือนกัน หลังจากนั้นมองไปทางคุณนายจางด้วยความดีใจ

คิดไม่ถึงว่าคุณนายจางจะมีอาวุธลับแบบนี้ด้วย!

ดูเหมือนเธอจะเคยคิดไว้แล้วว่าต้องยึดตระกูลจางยังไง

ตั้งแต่เริ่มจนจบ คุณนายจางเตรียมตัวมาหมดแล้ว!

บางทีเธออาจจะคาดการณ์ว่าต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแน่นอน!

จางจงหัวกําหมัดแน่น บนใบหน้าถูกปกคลุมด้วยความโกรธ

เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลย อายุปูนนี้แล้วกลับต้องมาเสียรู้ให้กับภรรยาของตัวเอง…

ขายหน้าสิ้นดี!

ผู้เฒ่าจางโกรธจนพ่นลมออกจากจมูก

แต่ในตอนนั้นเอง หลินหยางพูดขึ้นอย่างกะทันหัน "คุณตา คุณไม่ต้องเป็นห่วง พวกเขาอยากสู้กันในชั้นศาลก็ปล่อยให้พวกเขาสู้เถอะ! ผมจะเชิญทนายความมาช่วยคุณเอง"

"เสี่ยวหยาง แกไม่ใช่คนกวงหลิว แกไม่รู้หรอกว่าทนายชวี่จี้คนนี้ร้ายกาจแค่ไหน เขาอยู่ในวงการทนายความมานานสิบกว่าปีแล้ว ตั้งแต่เข้าวงการจนถึงตอนนี้เคยแพ้คดีความแค่สามครั้ง และทนายความที่เขาแพ้ให้ทั้งสามครั้งก็คืออาจารย์ของเขา ตอนนี้อาจารย์ของเขาอายุมากปลดเกษียณไปแล้ว ปัจจุบันมณฑลกวงหลิวไม่มีใครใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีกแล้ว ถ้าหากจะฟ้องร้องกันในชั้นศาลจริง เพลงว่าฉันคงต้องแพ้อย่างยับเยินแน่นอน…" จางจงหัวพูดด้วยความโมโห

"คุณตา ทีมทนายความที่ผมเชิญก็เก่งมากเหมือนกัน คุณวางใจได้ แค่ชวี่จี้คนเดียวไม่ได้อยู่ในสายตาพวกเขา" หลินหยางพูด

"ทนายชวี่ ว่ายังไง? คุณรับมือไหวหรือเปล่า?" คุณนายจางถาม

สีหน้าของชวี่จี้เปลี่ยนไปแล้ว เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม "วางใจได้ ผมจะพยายามให้ดีที่สุด ถึงจะไม่สามารถชนะคดีความ แต่อย่างน้อยผมก็สามารถปกป้องสิทธิประโยชน์ของคุณ ทรัพย์สินที่คุณได้ไม่มีปัญหาแน่นอน"

"ถ้าหากน้อยกว่าครึ่งคดีนี้ก็ไร้ความหมาย นี่คือขีดจำกัด!" คุณนายจางพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม

"วางใจได้ ผมจะพยายามอย่างเต็มที่" ชวี่จี้พยักหน้า

คำพูดของหยางไคเสิ้งยังคงเป็นประเด็นที่ทุกคนพูดถึง แต่ในตอนนั้นเอง หลินหยางกลับพูดขึ้น…

"ผู้อาวุโสหยาง ไม่ต้องแล้ว ผมไม่เชิญทีมทนายของพานหลง"

คำพูดประโยคนี้ ทำให้ทุกคนเงียบสงบลงทันที

ไม่เชิญทีมทนายของพานหลง? หลินหยางกำลังคิดอะไรอยู่?

คงไม่ได้เป็นเพราะทนายความชื่อดังอย่างพานหลงไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาหรอกมั้ง? แบบนั้นมันบ้าไปแล้ว! ต้องบอกก่อน พานหลงไม่ได้มีชื่อเสียงเฉพาะภายในประเทศเท่านั้น ชื่อเสียงของเขาดังกระฉ่อนไปถึงต่างประเทศ เขาเคยสู้คดีบนศาลโลกหลายครั้ง ความสามารถที่เขาแสดงออกมาน่าทึ่งมาก

ไม่เชิญแม้กระทั่งคนที่มีความสามารถขนาดนี้ หลินหยางต้องการเชิญใคร? คงไม่ใช่ทนายอันดับหนึ่งชิวซวนเซิงหรอกมั้ง?

เรื่องนั้นเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!

เพราะหยางไคเสิ้งยังมีเกียรติไม่พอ ชิวซวนเซิงไม่มีทางสนใจเขาแน่นอน คนที่จะเชิญคนแบบนั้นได้ ต้องมีแต่คนใหญ่คนโตระดับประเทศเท่านั้น?

ในเมื่อเป็นแบบนั้น แล้วตกลงหลินหยางจะไปเรียกใครมาช่วยสู้คดีครั้งนี้?

ทุกคนมองไปทางหลินหยางด้วยความสงสัย

รวมไปถึงหยางไคเซิงด้วย

"คุณหลินอยากเชิญใคร?" หยางไคเซิงถามด้วยความระมัดระวัง

"เคยได้ยินชื่อคังเจียห่าวหรือเปล่า?"

หลินหยางถามกลับ

"คังเจียห่าว?"

หยางไคเสิ่งรู้สึกอึ้ง

ลมหายใจของชวี่จี้หยุดชะงัก สีหน้าซีดขาว

"ผมจะเชิญคังเจียห่าวและทีมทนายความของจี้เหวินมารับผิดชอบเรื่องนี้ นอกจากนี้ ผมจะขอให้ทีมทนายความของฟางซื่อหมิงเดินทางมาช่วยคดีนี้อีกแรง"

หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ

คราวนี้ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์เงียบลงทันที

ชวี่จี้ถึงกับทรุดก้นทิ่มลงกับพื้น เบิกตากว้างมองไปทางหลินหยางด้วยความหวาดกลัว…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา