ทันทีที่ภาพนี้ปรากฏขึ้น ทุกคนรู้สึกว่าสมองของตัวเองระเบิดดังตูมจนทุกอย่างว่างเปล่าไปหมด
ผู้จัดการเฉิงอ้าปากกว้างค้าง
คุณชายเล่ยและคนอื่นก็มองตาครั้งเหมือนกัน
"นี่…นี่…นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? คนคนนี้เป็นใคร? ทำไมถึงมาคุกเข่าให้ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านของตระกูลซู?"
"มีคนมาคุกเข่าให้ไอ้โง่คนนี้? ต้องกลายเป็นตำนานแน่นอน"
"มันเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้?"
โห่วจื่อ จี้ห่าว เจียงหว่างและคนอื่นดูตกใจปนประหลาดใจ
ส่วนคุณชายเล่ยกำลังกระพริบตาจ้องมองคนที่กำลังคุกเข่าอย่างเหม่อลอย
"ทำไม…หน้าตาของคนคนนั้นถึงเหมือนกับเฉาเวยของซื่อจี้ห๋าวชิง? ใช่เขาเหรอ? มันใช้เขาจริงเหรอ?" คุณชายเล่ยไม่กล้ามั่นใจว่าใช่เขาจริง
พ่อของเขาก็มีบ้านหลังหนึ่งอยู่ในซื่อจี้ห๋าวชิง แต่ค่อนข้างอยู่ติดกับสุดขอบของหมู่บ้าน ตอนที่ซื้อบ้านเขาก็ตามไปด้วย ทั้งสองพ่อลูกมีโอกาสได้เจอกับเฉาเวยในตอนนั้น เขายังจำได้ว่าตอนนั้นพ่อของตัวเองระมัดระวังและเคารพเฉาเวยยังไง ท่าทางของเขาไม่เหมือนกับคนกำลังจะไปซื้อบ้าน ในทางกลับกันเฉาเวยมากกว่าที่ดูเหมือนลูกค้า
แต่ตอนนั้นเฉาเวยไม่ได้สนใจเล่ยฟู่กุ้ย มองข้ามเขาราวกับเป็นอากาศธาตุ
คนระดับนี้จะมาคุกเข่าให้หลินหยางที่เป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านผู้หญิงเหรอ?
ล้อเล่นหรือเปล่า?
หลินจื่อหยูและซูเสี่ยวชิงก็มองเขาด้วยความตกใจเหมือนกัน
"คุณเองเหรอ?"
หลินหยางเหลือบมองเฉาเวยแวบหนึ่งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย "ผมบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าผมไม่สนใจคุณ? ช่างเถอะ ในเมื่อมาแล้วก็มาแล้ว เรื่องของคุณเอาไว้ก่อน ตอนนี้ผมมีธุระต้องจัดการ"
"ประธานหลิน เรื่องแค่นี้ไม่จำเป็นต้องให้คุณลงมือเอง? ให้ผมจัดการเถอะ"
เฉาเวยรีบพูดพร้อมกับรอยยิ้ม หลังจากนั้นหันหน้าไปมองผู้จัดการเฉิงอย่างกะทันหัน แล้วมองผู้คนที่อยู่โดยรอบ เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา "ผู้จัดการเฉิง นี่มันเรื่องอะไรกัน? ประธานหลินมาเที่ยวที่นี่ แต่ทำไมคุณถึงพาคนมามากมายขนาดนี้?"
"คือ…คือ…" ผู้จัดการเฉิงอ้าปากไม่รู้ควรจะพูดยังไง
"คืออะไรคือ?" เฉาเวยเหวี่ยงฟ้ามือออกไปโดยตรง
เพี๊ยะ!
ผู้จัดการเฉิงโดนตบเข้าอย่างจังจนถึงกับเซถอยหลัง แต่เขากลับกุมหน้าของตัวเองโดยไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
หลังจากเห็นภาพนี้ คุณชายเล่ยและคนอื่นมองตาค้าง
"เป็นเขาจริงเหรอ?" คุณชายเล่ยพูดพึมพำด้วยความตกตะลึง
"เขา…เขาเป็นใคร?"
เจียงหว่างมึนงงไปหมดแล้ว
หลินจื่อหยูปิดปากของตัวเองด้วยความตกตะลึง
คนคนนี้ถึงขั้นกล้าตบหน้าผู้จัดการเฉิง? เขาบ้าไปแล้วเหรอ?
"รีบพาคนของคุณไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้! แล้วก็บินของคืนนี้ไม่ต้องเก็บเงิน! ถ้าหากคุณตัดสินใจเองไม่ได้ ก็สั่งให้เถ้าแก่ของคุณมาคุยกับผม!" เฉาเวยพูดด้วยความหยิ่งผยอง
"เถ้าแก่เฉา อันที่จริงเรื่องนี้เถ้าแก่ของผมก็ตัดสินใจไม่ได้…" ผู้จัดการเฉิงพูดด้วยท่าทางที่ลำบากใจ
"คุณหมายความว่ายังไง?" เฉาเวยขมวดคิ้ว
ผู้จัดการเฉิงรีบก้าวออกมาพูดกระซิบ
เฉาเวยได้ยินแล้วรู้สึกลำบากใจขึ้นมาทันที
"ทำไม? นายน้อยคนนั้นมีอิทธิพลมากเลยเหรอ?" หลินหยางถามโดยกอดเด็กผู้หญิงไว้มือละครั้ง
"ประธานหลิน อาจจะ…อาจจะค่อนข้างยุ่งยาก" เฉาเวยพูดด้วยความระมัดระวัง
"เฉาเวย ดูเหมือนคุณจะทำให้ผมผิดหวังอีกแล้ว" หลินหยางส่ายหัว
ร่างกายของเฉาเว่ยสั่นสะท้าน รีบก้มหน้าลง "คุณหลินสั่งมาได้เลย เฉาเวย…เฉาเวยฟังคำสั่งของคุณ…"
"ไปพาตัวนายน้อยคนนั้นมา" หลินหยางพูดด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์
"เรื่อง…นี้…" เฉาเวยขึ้นหลังเสือแล้วยากที่จะลง สุดท้ายจึงพาตัวผู้จัดการเฉิงไปพาตัวคน
ผู้จัดการเฉิงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินออกไป
แม้แต่เฉาเวยก็ยังต้องก้มหัว เขารู้ดี ครั้งนี้ตัวเองเจอเข้ากับของแข็งแล้ว
"จงเจริญ!"
หลังจากคนทั้งกลุ่มเดินออกไป หลินจื่อหยูพูดออกมาทันที
"พี่เขยหลินสุดยอดไปเลย!" พูดจบเธอหอมแก้มของหลินหยางโดยตรง
หลินหยางถึงกับอึ้ง
"พี่เขย โชคดีที่คุณมาด้วย" ซูเสี่ยวชิงพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา หลังจากนั้นรวบรวมความกล้าแล้วหอมแก้มของหลินหยางอีกข้างด้วยความเขินอาย
วินาทีนี้ หลินหยางกลายเป็นฮีโร่ในดวงใจของพวกเธอไปแล้ว
หลินหยางยิ้มอย่างขมขื่นโดยไม่ได้พูดอะไร
ส่วนท่าทางของคนอื่นดูโล่งใจขึ้นมา แต่ภายในใจยังคงเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง
ส่วนคนอื่นก็ไม่ดีไปกว่านี้ แต่ละคนหน้าซีดเขากลัวจนถึงขีดสุด
หลินหยางพูดปลอบใจซูเสี่ยวชิง หลังจากนั้นลุกขึ้นยืน
"เกิดอะไรขึ้น?" หลินหยางถามเฉาเวย
ในขณะที่เฉาเวยกำลังจะอ้าปากพูด มีเสียงของเด็กหนุ่มที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะแต่เต็มไปด้วยความมั่นใจดังขึ้น
"ใครคือประธานหลิน? ผมมาแล้ว! มาเพื่อคุกเข่ามั้ง?"
หลินหยางมองไปทางประตู สังเกตเห็นคนสองคนเดินตรงเข้ามา
เฉาเวย ผู้จัดการเฉิงและคนอื่นเห็นคนทั้งสอง ทุกคนตกใจจนรีบหลบไปที่มุมห้องทันที…
คนที่เดินเข้ามาในประตูคือเด็กหนุ่มในเสื้อโค้ทสีขาวตัวใหญ่ การแต่งตัวดูดีมีสไตล์ บนใบหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์ของความเย่อหยิ่ง ดวงตาทั้งคู่ราวกับเฉยเมยต่อทุกสิ่ง ถึงจะมองมาทางหลินหยาง แต่กลับให้ความรู้สึกเหมือนไม่เห็นหลินหยางอยู่ในสายตา
เขาก็คือนายน้อยคนนั้น
ส่วนคนที่อยู่ด้านหลังของเขาค่อนข้างน่าตกใจ เขามีความสูงถึงสองเมตร ร่างกายของเขาดูกว้างยิ่งกว่าบานประตูไม่ต่างอะไรกับยักษ์ เขายืนอยู่ตรงหน้าประตูจนเกือบเข้ามาในประตูไม่ได้
เห็นคนคนนี้แล้วทุกคนถึงกับตกใจจนหนังศีรษะชา
ไม่น่าแปลกใจเลยทำไมพวกผู้จัดการเฉิงถึงโดนจัดการได้อย่างง่ายดาย มีพี่เบิ้มตัวใหญ่อยู่ใครจะไปสู้ได้?
หลินหยางลองจ้องมองคนตัวใหญ่คนนั้นอย่างละเอียด เขาพบว่าคนคนนี้ไม่ธรรมดา อยากเห็นร่างกายของเขาตัวใหญ่แบบนี้ แต่ด้านในล้วนแต่เป็นกล้ามเนื้อทั้งนั้น นิ้วมือทั้งสิบดูด้านมาก เห็นได้ชัดว่าเกิดจากการฝึกฝนหรือออกแรงในระยะยาว
ผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้!
คนที่มีร่างกายกำยำและมีศิลปะการต่อสู้…มันน่ากลัวเพียงใด…
"นี่? เป็นใบ้กันไปหมดแล้วเหรอ? คนที่สั่งให้ผมมาคุกเข่าเมื่อกี้อยู่ไหน? รีบบอกมาเดี๋ยวนี้! อยู่ไหน? หรือจะให้ผมจัดการทีละคนถึงจะยอมรับ?" นายน้อยคนนั้นหรี่ตาลง สายตามองมาทางหลินหยาง
เพราะในบรรดาทุกคนทั้งหมด มีเพียงหลินหยางเท่านั้นที่ไม่แสดงท่าทางหวาดกลัว
"คุณเองใช่หรือเปล่าที่ตบน้องของผม?" หลินหยางราวกับไม่ได้ยินคำพูดของนายน้อย ยิ่งไปกว่านั้นยังตั้งคำถามกลับ
"ฮืม? คุณก็คือประธานหลินเหรอ?" นายน้อยคนนั้นรู้สึกอึ้งเล็กน้อย เขาแสดงสีหน้าที่หยิ่งผยอง ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูด "ตอนแรกผมก็แค่อยากจะเชิญน้องของคุณไปดื่มและร้องเพลงที่ห้องผม แต่น้องของคุณไม่เพียงแต่ปฏิเสธผม แถมยังตบหน้าผม ดังนั้นผมตบหน้าเธอมันก็คงไม่เกินไปหรอกมั้ง?"
"งั้นก็ดี คุณเข้ามานี่!"
หลินหยางพยักหน้า
"ได้สิ คุณอยากให้ผมทำอะไร?"
นายน้อยเดินเข้าไปหาหลินหยางอย่างยิ้มแย้ม ตอนที่เขาเดินเข้ามา พี่เบิ้มตัวใหญ่ที่อยู่ด้านหลังของเขาก็เดินตามเข้ามาด้วย
ตอนที่เขาเดินให้ความรู้สึกเหมือนเหยียบพื้นจนสั่นสะเทือน บวกกับร่างกายที่สูงใหญ่ของเขาทำให้ดูน่ากลัวมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...