เจ้าพูดอะไรน่ะ?"
"บังอาจมาก! เจ้าคิดว่าในสำนักชิงเซวียนไม่มีใครแล้วใช่ไหม?"
"ปรมาจารย์เสวี่ยอู๋อย่าได้ใจเกินไป! สำนักชิงเซวียนของข้าไม่กลัวเจ้า!"
"ถ้าอยากสู้ก็สู้! อยากฆ่าก็ฆ่า! มาดูกันว่าใครจะเป็นฝ่ายต้องก้มหัว!"
สมาชิกของสำนักชิงเซวียนโกรธมาก แต่ละคนเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและไม่พอใจ
คนเหล่านี้ที่ยังอยู่ในสำนักชิงเซวียนไม่กลัวตำหนักเทียนเสิน ไม่กลัวความตาย จะยอมร่วมเป็นร่วมตายไปกับสำนัก ขนาดตำหนักเทียนเสินยังข่มขู่พวกเข้าไม่ได้ นับประสาอะไรกับปรมาจารย์เสวี่ยอู๋ ใครจะไปสนเรื่องนั้นกันล่ะ?
"ฮ่า ฮ่า ดีมาก ดีมาก! ข้าเข้าใจว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เจ้ายอมจำนนโดยใช้แค่คำพูด ท้ายที่สุด แม้แต่ตำหนักเทียนเสินก็ยังทำให้พวกเจ้าตกใจกลัวไม่ได้ แล้วข้าจะไปทำให้เจ้ายอมจำนนได้อย่างไร ? แต่ไม่ต้องกังวล ข้าไม่เก่งเรื่องการโน้มน้าวใจคนด้วยปาก สิ่งที่ข้าทำได้ดีที่สุดก็คือกำปั้น หรือไม่ก็...ยาพิษที่ข้าชอบมากไงล่ะ!”
ปรมาจารย์เสวี่ยอู๋หัวเราะเบาๆ ยกมือขึ้นช้าๆ แต่เห็นว่ามือซ้ายของเขาเหมือนฝ่ามือของซากสพ มันเหี่ยวเฉาและเรียวยาว ไม่มีเนื้อเลย มีเพียงหนังหุ้มกระดูกเท่านั้น
และบนฝ่ามือที่เหี่ยวเฉานั้นมีมวลสารคล้ายเปลวไฟสีแดงเลือดและหมอก
มันเคลื่อนไหวเล็กน้อยอย่างลึกลับ
อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของผู้นำสำนักชิงเซวียนเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อเขาเห็นสารแปลก ๆ นี้
"เป็นไปได้ไหมว่า... มันคือ วิชาเพลิงพิษใต้พิภพ?"
"คาดไม่ถึงเลยว่าจ้าจะมีสายตาที่เฉียบคม ถูกต้องแล้ว นี่คือวิชาเพลิงพิษใต้พิภพที่ข้าทำงานหนักมาหลายปี! เมื่อนานมาแล้ว บรรพบุรุษของข้าเป็นคนคิดค้นขึ้น ข้าเพิ่งฝึกมันสำเร็จ วันนี้ข้าแค่ อยากให้พวกเจ้ามาลองวิชาเวทย์มนตร์ของข้าก็เท่านั้น!" ปรมาจารย์เสวี่ยอู๋หัวเราะ
"สารเลว! เจ้ามันก็เป็นแค่สัตว์เดรัจฉาน!!"
ทันใดนั้น ผู้นำสำนักชิงเซวียนก็โกรธ ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง มือของเขากหมัดแน่น และดูเหมือนว่าเขาต้องการที่จะกลืนปรมาจารย์เสวี่ยอู๋ทั้งเป็น
ทุกคนสับสนอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...