"ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง หึ สวะอย่างพวกคุณช่างน่าสนใจจริงๆ ผิดแล้วไม่แก้ไขงั้นเหรอ? ถ้ารู้อย่างนี้ พวกคุณน่าจะยกคนจำนวนนี้ให้ตระกูลตู๋กูของฉัน ฉันจะได้ส่งคนในตระกูลไปเก็บกวาดให้ และจะแข็งแกร่งกว่าไอ้สวะนอกดินแดนคนนี้อีกด้วย" ตู๋กูหวยกล่าวอย่างเหยียดหยาม หลังจากนั้นก็โบกมือเบาๆ
ผู้แข็งแกร่งตระกูลตู๋กูทั้งสองด้านต่างล่าถอยไปตามๆ กัน
เมื่อได้ยินว่าหลินหยางเป็นเพียงคนนอกดินแดน ตู๋กูหวยก็ยิ่งไม่ปรารถนาที่จะลงมือกับเขา
การฆ่าคนอย่างนี้ มีแต่จะทำให้มือของเขาสกปรก และทำลายชื่อเสียงของเขา
ถ้าข่าวแพร่ออกไป และคนอื่นทราบว่าตู๋กูหวยอย่างเขาเป็นปฏิปักษ์กับคนนอกดินแดนคนหนึ่ง เช่นนั้นจะไม่ทำให้คนหัวเราะเยาะเอาได้หรอกเหรอ?
เมื่อนึกถึงตรงนี้ ตู๋กูหวยก็คิดว่าจะเลิกแล้วต่อกันไป และเข้าร่วมการแข่งขันอวี่เจวี๋ยก่อน ส่วนอ้ายหร่านนั้น รอหลังจากการแข่งขันอวี่เจวี๋ยแล้ว ค่อยนำเธอมาอยู่ในกำมืออีกครั้ง
อย่างไรก็ตามตอนนี้สำนักชิงเซวียนกำลังติดตามตระกูลตู๋กูอยู่ และอ้ายหร่านก็อยู่ต่อหน้าต่อตาตนเอง ก็ไม่สามารถหนีไปไหนพ้น
"อย่าเสียเวลาเลย เร่งการเดินทางต่อเถอะ"
ตู๋กูหวยกล่าวอย่างเย็นชา และหันกลับไปที่รถม้า
กองทัพใหญ่เดินหน้าต่อไป
คนของสำนักชิงเซวียนกลับไปที่ด้านหลังของกองทัพใหญ่อีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ พวกเขาได้ยินเสียงหัวเราะเยาะจากตระกูลอื่นอย่างชัดเจน
"สำนักชิงเซวียนตกต่ำแล้วจริงๆ คาดไม่ถึงว่าจะหาคนนอกดินแดนมาช่วยเหลือ!"
"นึกถึงในตอนนั้น สำนักชิงเซวียนเป็นสำนักใหญ่ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่ว คาดไม่ถึงเลยว่าจะตกต่ำถึงขั้นนี้ น่าทอดถอนใจจริงๆ"
"ก็ไม่รู้ว่าบรรดาบรรพบุรุษของสำนักชิงเซวียนผู้ล่วงลับไปแล้วทราบเข้า จะเป็นอย่างไร?"
"ไม่ใช่โกรธจนฟื้นคืนชีพนะ"
"ฮ่าๆๆ ....."
เสียงหัวเราะแสบแก้วหูดังขึ้นไม่หยุด
เมื่อคนของสำนักชิงเซวียนได้ยิน แต่ละคนก็โกรธจนกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน กำหมัดแน่น แทบอยากจะเข้าไปตบหน้าคนเหล่านี้ซะเหลือเกิน
แต่โชคดีที่ศักยภาพของพวกเขาไม่อนุญาตจึงทำให้พวกเขาทำได้เพียงเก็บความรู้สึกอัดอั้นเอาไว้ในใจเท่านั้น
การเดินทางที่เหลือถือว่าสงบสุขราบรื่นดี
อย่างไรก็ตามตระกูลตู๋กูบวกกับความแข็งแกร่งของตระกูลอีกนับไม่ถ้วนรวมเข้าด้วยกัน แทบจะเป็นสิ่งที่ใหญ่มหึมา จึงไม่มีใครกล้าเข้ามายั่วยุคนเหล่านี้ได้ตามอำเภอใจ
หลังจากเดินเช่นนี้มาหนึ่งวันเต็ม ทุกคนต่างขึ้นเขาลงห้วยกัน และในที่สุดก็มาถึงดินแดนสุเมรุแล้ว
ดินแดนสุเมรุตั้งอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มแห่งหนึ่ง
แต่พื้นที่ราบลุ่มนี้ว่างเปล่าและกว้างใหญ่มาก
หลังจากที่ทุกๆ คนเข้าไปในดินแดนสุเมรุแล้ว หลินหยางจึงพบว่าเดิมทีที่นี่คือพื้นที่ปัญจธาตุ
เนื่องจากรอบๆ พื้นที่ราบลุ่มนี้ มีภูเขาอยู่ห้าลูก และลักษณะพิเศษของภูเขาห้าลูกนั้นแตกต่างกัน ภูเขาบางลูกปกคลุมไปด้วยหิมะ บางลูกปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวขจี บางลูกปกคลุมด้วยดินเหลือง บางลูกเต็มไปด้วยแม่น้ำลำธาร และภูเขาลูกสุดท้ายเป็นภูเขาไฟ
หลินหยางมองไปรอยๆ ด้วยแววตาเย็นชาและเคร่งขรึม
ดินแดนสุเมรุแห่งนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นดินแดนแห่งพรจากธรรมชาติ หากสามารถเพาะปลูกสมุนไพรหรือบำเพ็ญญาณที่นี่ ลงทุนน้อยแต่ได้ผลตอบแทนที่คุ้นค่า และจะได้ผลประโยชน์อย่างไร้ขีดจำกัด
ดินแดนความเงียบและความตายเป็นสถานที่มหัศจรรย์จริงๆ
หลินหยางรู้สึกทอดถอนใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...