"คุณยังช่วยอะไรฉันได้อีก?" อารมณ์ของซูเหยียนเริ่มพลุ่งพล่าง "คุณอาศัยอยู่บ้านฉันใช้ของฉัน ทำงานได้ไม่กี่วันก็ตกงาน ไม่มีรายได้เข้ามาแม้แต่แดงเดียว คุณยังช่วยอะไรฉันได้อีก?"
"เสี่ยวเหยียน คุณแค่ไม่เข้าใจเกี่ยวกับตัวผม ความจริงผมคือ..."
"พอแล้ว!"
ซูเหยียนกัดฟันแน่น ตะโกนด้วยความโกรธ "ฉันจะขอพูดเป็นครั้งสุดท้าย คุณจะฟังคำพูดของฉันก็ดีหรือไม่ฟังก็ช่างนั่นมันเรื่องของคุณ ตอนนี้คุณรีบออกจากที่นี่…"
พูดจบ ซูเหยียนหันหน้าไปทางอื่น ที่ขอบตาของเธอมีประกายของน้ำตาปรากฏขึ้น
"ไสหัวไป! ไอ้คนไร้ค่า!" เสี่ยวหรานตะโกนเสียงดัง
"เห็นแก่หน้าของซูเหยียนพวกเราจะไม่เรียกรปภ. ถ้าหากคุณยังไม่รีบออกไป งั้นพวกเราคงทำได้แต่ต้องโยนคุณออกไปแทน!"
"ได้ยินหรือเปล่า? ยังไม่รีบไสหัวออกไปอีก!"
พี่เหมยที่อยู่ด้านข้างก็เดินเข้ามาพูดตำหนิ
"คิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ มาก่อกวนความวุ่นวายถึงที่นี่!"
"ไม่ดูเลยว่าที่นี่มันที่ไหน มันใช่ที่ที่คนจนอย่างคุณจะมาได้เหรอ?"
"ผู้จัดการ ผู้จัดการ นี่มันเรื่องอะไรกัน? ปล่อยให้คนแบบนี้เข้ามาได้ยังไง? รีบโยนเขาออกไปเดี๋ยวนี้!"
"คนคนนี้ตัวเหม็นชะมัด!"
ผู้คนที่อยู่โดยรอบทั้งชี้ทางพูด แต่ละคนทำท่าขยะแขยงใส่หลินหยาง
สถานที่ของงานเลี้ยงก็ไม่ได้ใหญ่โตมโหฬารอะไร และทุกคนรู้จักชื่อเสียงของหลินหยางเป็นอย่างดี ย่อมมีแต่คนดูถูกเขาอยู่แล้ว
ไม่ว่าใครก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น เมื่อไหร่ที่แว่นที่พวกเขาสวมใส่มีมลทิน ไม่ว่าคนจะดีแค่ไหนแต่ในสายตาของพวกเขาก็จะกลายเป็นคนมีมลทิน
ผู้จัดการเรียกรปภ.เข้ามา
คราวนี้หลินหยางเริ่มทำตัวนิ่งสงบไม่ไหวแล้ว ในแววตาของเขาปรากฏให้เห็นความโกรธ
งานเลี้ยงกำลังดุเดือดอย่างเห็นได้ชัด เสียงดนตรีที่ไพเราะจำเป็นต้องหยุดบรรเลง
จนกระทั่งในตอนนั้นเอง มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาจากหน้าประตู
ผู้ชายคนนี้สวมชุดสูทอามานี่ทั้งตัว ผมถูกหวีอย่างประณีตและเงางาม รูปร่างสูงใหญ่ เดินเข้ามาด้วยท่าทางที่ทะมัดทะแมง
"คุณชายฉู่มาแล้ว!"
มีคนอุทานพูด
"อะไรนะ? คุณชายฉู่มาถึงแล้ว?"
"สวัสดีคุณชายฉู่!"
"ในที่สุดก็ได้เจอคุณสักทีคุณชายฉู่!"
"คุณฉู่ คุณยังจำผมได้หรือเปล่า?"
...
คุณชายคุณหนูที่อยู่ในงานเลี้ยงเริ่มเดินกันเข้ามา แต่ละคนใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความเคารพมองผู้มา
ซูเหยียนก็โดนการเปลี่ยนแปลงนี้ดึงดูดเหมือนกัน เธอหันไปมองถึงจะเห็นใบหน้าผู้มาอย่างชัดเจน
"ฉู่เหย้าหาง?" ซูเหยียนอุทานออกมาโดยไม่รู้ตัว
"ซูเหยียน ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณไม่เคยลืมผม!" ฉู่เหย้าหางพูดด้วยอารมณ์ที่ลึกซึ้ง
"เขาเป็นใคร" หลินหยางขมวดคิ้วถาม
"เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย" ซูเหยียนพูดเสียงเบา "เขาไล่ตามจีบฉันตอนเรียนมหาลัย แต่โดนฉันปฏิเสธมาโดยตลอด ต่อมาทางครอบครัวของเขาสั่งให้เขาไปรับราชการเป็นทหาร หลังจากนั้นพวกเราก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย"
"เหยียนเหยียน ช่วงนี้คุณสบายดีหรือเปล่า?" ฉู่เหย้าหางถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
"สะ…สบายดี…" ซูเหยียนเดินเข้าไปใกล้หลินหยางโดยไม่รู้ตัว เธอถามกลับ "คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?"
"ยัยโง่เสี่ยวเหยียน นี่ยังไม่รู้อีกเหรอ? งานเลี้ยงของคืนนี้คุณชายฉู่จัดขึ้นเพื่อเธอโดยเฉพาะ!" เสี่ยวหรานยิ้มแล้วพูด
"เพื่อฉัน?" ซูเหยียนรู้สึกอึ้ง
"ไม่อย่างนั้นทำไมพวกเราถึงมาปรากฏตัวที่นี่ล่ะ? ทั้งหมดก็เพราะคุณชายฉู่เรียกพวกเรามารวมตัวกันที่นี่ไง" จางซีหัวเราะฮ่าฮ่าแล้วพูด
"แต่ว่า…ฉันมาที่นี่เพื่อ…พบลูกค้าคนสำคัญคนหนึ่ง…" ซูเหยียนรู้สึกมึนงงไปหมดแล้ว
"ลูกค้าสำคัญที่เธอกำลังจะพบก็คือคุณชายฉู่ของเราเอง" พี่เหมยเดินออกมาจากฝูงชน ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูด "คุณชายฉู่ลองตรวจสอบเธอมาระยะหนึ่งแล้ว เขารู้มาว่าช่วงนี้เธอกำลังลำบาก และเขาก็เคารพสิทธิ์ในการเลือกของเธอ ดังนั้นเขาจึงพยายามเข้าใกล้เธอด้วยสถานะของนักลงทุนคนหนึ่ง และยังเสนอเงินสิบล้านให้เป็นเงินลุงทูนเริ่มต้นธุรกิจของเธอ"
ซูเหยียนได้ยินประโยคนี้ตัวแข็งทื่อยืนอยู่กับที่
ที่แท้ทั้งหมดเป็นแผนของฉู่เหย้าหาง
ไม่ว่าจะเป็นพี่เหมย จางซี เสี่ยวหราน หรือแม้กระทั่งงานเลี้ยง ฉู่เหย้าหางเป็นคนเตรียมทั้งหมด
เพื่อซูเหยียน เรียกได้ว่าเขาพยายามทุ่มเทอย่างเต็มที่…
มีผู้คนไม่น้อยที่รู้สึกหวั่นไหวต่อการกระทำของฉู่เหย้าหาง
มีผู้หญิงบางคนถึงขั้นใช้สายตาเหมือนกำลังมองวีรบุรุษผู้สง่างามคนหนึ่ง แทบอยากจะกลายเป็นคนที่โดนเซอร์ไพรส์แทน
"เหยียนเหยียน ถ้าหากไม่ได้เป็นเพราะที่บ้านบังคับให้ผมเข้าร่วมกับกองทัพ ผมไม่มีทางปล่อยคุณไปแน่นอน และคุณก็คงจะกลายเป็นภรรยาของฉู่เหย้าหางไปแล้ว! แต่ว่าตอนนี้ฟ้าประทานโอกาสให้ผมอีกครั้ง! ครั้งนี้ ผมจะไม่ปล่อยให้คุณหลุดมือไปอีก!" ฉู่เหย้าหางพูดด้วยน้ำเสียงที่ลึกซึ้ง หลังจากนั้นหยิบกล่องขนาดเล็กที่สวยงามใบหนึ่งออกจากกระเป๋าตรงหน้าอก เขาคุกเข่าลงข้างหนึ่งต่อหน้าซูเหยียน มีแหวนเพชรที่ใสแหววปรากฏขึ้นบนกล่อง
"หา!"
"เหยียนเหยียน!"
ฉู่เหย้าหางดูใจร้อนเล็กน้อย เขาเรียกเธอด้วยน้ำเสียงที่ลึกซึ้ง
ซูเหยียนถอนหายใจแล้วหันหน้าหนี
นี่เป็นการปฏิเสธทางอ้อมเหรอ?
"เหยียนเหยียน เธอรีบตอบตกลงสิ ขอเพียงแค่เธอตอบตกลง เธอก็จะกลายเป็นคุณนายของตระกูลฉู่แล้ว! รีบตอบตกลงเร็วเข้า" เสี่ยวหรานที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้น
"ใช่แล้วเหยียนเหยียน หรือว่าเธอทิ้งไอ้คนไร้ประโยชน์อย่างหลินหยางไม่ลง? เหอ เขาไม่สามารถให้อะไรเธอได้สักอย่าง เธอจะใส่ใจเขาทำไม? ขอเพียงแค่เธอตอบตกลงคุณชายฉู่ เรื่องอื่นเธอไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น!" จางซีก็ช่วยพูดเกลี้ยกล่อมอีกคน
"ตอบตกลง!"
"ตอบตกลง!"
"ตอบตกลง!"
ผู้คนที่อยู่โดยรอบตะโกนขึ้นอีกครั้ง
แรงกดดันทั้งหมดถาโถมเข้ามาหาซูเหยียน เธอเริ่มรู้สึกหายใจลำบาก
มุมปากของฉู่เหย้าหางกระตุกขึ้นอย่างมั่นใจ
แต่ในตอนนั้นเอง มีมือข้างหนึ่งยื่นออกมาจากด้านข้างปิดกล่องแหวนเพชรของฉู่เหย้าหางที่กำลังยื่นมาข้างหน้าอย่างกะทันหัน
สายตาของฉู่เหย้าหางแข็งทื่อ เขาหันไปมองกลับพบกับดวงตาคู่หนึ่งที่กำลังจ้องมองเขาอย่างเย็นชา
"คุณทำอะไร?" ฉู่เหย้าหางขมวดคิ้วถาม
"คุณชื่อฉู่เหย้าหาง? ผมขอถามคุณหน่อย ใครเป็นคนให้ความกล้ากับคุณมาขอแต่งงานกับภรรยาของผมต่อหน้าผมแบบนี้?" คนคนนั้นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไร้อารมณ์…
"คุณก็คือหลินหยาง?"
หลังจากได้ยินคำพูดประโยคนี้ ฉู่เหย้าหางรู้สถานะของคนที่อยู่ด้านข้างทันที
"ใช่"
หลินหยางมองเขาด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์
"เท่าไหร่" ฉู่เหย้าหางถาม
"อะไรเท่าไหร่?"
"ต้องให้คุณเท่าไหร่ คุณถึงจะยอมไสหัวไปจากชีวิตของเสี่ยวเหยียน?" ฉู่เหย้าหางหยิบสมุดเช็คเล่มหนึ่งออกมา หลังจากนั้นเขียนตัวเลขลงบนสมุดเช็คแล้วฉีกโยนให้หลินหยาง
"นี่เป็นเงินหนึ่งล้าน ไสหัวไป" ฉู่เหย้าหางพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...