สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 60

หลังจากที่พูดจบ มีคนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ สุดท้ายโค้งคำนับ 90 องศาให้กับหลินหยาง "คุณหลิน เรื่องที่เกิดขึ้นครั้งก่อนล้วนแต่เป็นความผิดของผม ไม่ว่าคุณต้องการอะไรคุณพูดมาได้เลย ผมจะยอมทำทุกอย่างขอเพียงแค่คุณให้อภัยผม!"

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์มองตาค้าง

"คุณคือ…ลุงโม่ชิง?" ลมหายใจของฉู่เหย้าหางหยุดชะงัก

ผู้จัดการจางก็รู้จักคนคนนี้เหมือนกัน เขาพูดด้วยความประหลาดใจ "ผู้อำนวยการโม่ นี่คุณกำลังทำอะไร?"

โม่ชิงไม่ได้สนใจคำพูดที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจของคนพวกนี้ เขายังคงรักษาท่าโค้งคำนับของตัวเองไว้ไม่ขยับตัว

แต่ว่าหลินหยางไม่ยอมพูดแม้แต่คำเดียว

โม่ชิงกัดฟันแน่น เหมือนจะตัดสินใจอะไรบางอย่างอย่างกะทันหัน หัวเข่าทั้งสองข้างของเขาคุกเข่าลงกับพื้นโดยตรง

"ถ้าหากคุณหลินไม่ยอมให้อภัยผม ผมโม่ชิงจะไม่ลุกขึ้นจากที่นี่"

ทันทีที่ภาพนี้เกิดขึ้น ความวุ่นวายในงานเลี้ยงเงียบสงบลงทันที

วินาทีนี้ลมหายใจและหัวใจของทุกคนหยุดชะงัก…

ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็น

มีคนมากมายพยายามขยี้ตาตัวเอง หวังว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้มันจะเป็นเพียงภาพหลอน

รวมไปถึงฉู่เหย้าหางและผู้จัดการจางก็เป็นหนึ่งในนั้น

แต่ความจริงมักจะน่าเศร้าเสมอ!

"ลุง…ลุงโม่!" ฉู๋เหย้าหางตะโกนด้วยเสียงที่สั่นเทา

อายุของโม่ชิงก็ไม่ได้มากไปกว่าเขามากเท่าไหร่ แต่เนื่องจากเหตุผลทางสถานะ แม้แต่เขาก็ต้องเรียกโม่ชิงว่าลุง

แต่วันนี้

คนที่ตัวเองเรียกว่าลุง…กำลังคุกเข่าให้หลินหยาง?

บ้าไปแล้วเหรอ?

โลกใบนี้มันเกิดอะไรขึ้น?

โม่ชิงกำลังคุกเข่าให้คนไร้ประโยชน์ที่งอมืองอตีนรอผู้หญิงเลี้ยง?

ฉู่เหย้าหางรู้สึกว่าหัวสมองของตัวเองกำลังจะระเบิดแล้ว!

ภายในห้องจัดเลี้ยงไม่มีใครกล้าพูดอะไรแม้แต่คำเดียว

เรื่องมันเกิดขึ้นอย่างกะทันหันมากเกินไป มีผู้คนมากมายที่ตอบสนองไม่ทันว่ามันเกิดอะไรขึ้น

สถานการณ์ในตอนนี้เหมือนกับโดนหยุดเวลา

แน่นอน คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดนี้ไม่พ้นซูเหยียน

เธอไม่รู้จักโม่ชิง

แต่ไม่ว่าเขาจะเป็นใครหรือเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนมาคุกเข่าให้หลินหยางไม่ใช่เหรอ?

ทั้งเมืองเจียงเฉินมีใครไม่รู้บ้างว่าสามีของตัวเองเป็นคนไร้ประโยชน์ที่รอผู้หญิงเลี้ยง คุกเข่าให้คนแบบนี้เหรอ? แล้วต่อไปจะใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเจียงเฉินยังไง?

แต่ว่าโม่ชิงกลับไม่ได้คิดแบบนั้น!

หัวเข่าของลูกผู้ชายหนักดุจดั่งทองคำ เมื่อไหร่ที่คุกเข่าลงก็เท่ากับความอัปยศ แต่ว่า…เขาก็ยังจำเป็นที่จะต้องคุกเข่า!

เพราะในมุมมองของเขา เขากำลังคุกเข่าให้กับแพทย์แผนจีนของประเทศ!

ถ้าหากเขาไม่คุกเข่า เมื่อไหร่ที่หมอเทวดาหลินคนนี้ยังฝังใจกับคำพูดของตัวเอง ภายใต้ความโกรธตัดสินใจไปอยู่กับคนเกาหลี เมื่อเป็นแบบนั้นสำหรับประเทศจีนมันจะกลายเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ และตัวของเขาก็จะกลายเป็นคนบาป!

เรื่องนี้เขาเป็นคนก่อขึ้นเอง เขาต้องเป็นคนแก้ไขมัน!

การคุกเข่าครั้งนี้คุ้มค่า!

เพียงแต่หลินหยางไม่มีอารมณ์มาสนใจโม่ชิง

"หลบไป!" หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

โม่ชิงรู้สึกอึ้ง เขามองดูสีหน้าที่เย็นชาของหลินหยางรู้ได้ในทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขารีบหลบไปด้านข้างทันที

หลินหยางจับมือของซูเหยียนแล้วก้าวเท้าเดินออกจากห้องจัดเลี้ยง

"หลินหยาง…" ซูเหยียนไม่รู้จะทำยังไง

เรื่องมันวุ่นวายมาถึงขั้นนี้ เธอไม่สามารถคุยธุรกิจกับฉู่เหย้าหางได้อีกแล้ว เธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย และยิ่งรู้สึกไร้เรี่ยวแรง

"หยุดอยู่ตรงนั้น! ใครอนุญาตให้พวกคุณไป?"

ในตอนนั้นเอง พี่เหมยกระโดดออกมาขวางทางของคนทั้งสองเอาไว้

ฉู่เหย้าหางไม่ได้คิดจะห้ามการกระทำของเธอ

"ผมจะนับถึงสาม รีบไสหัวไป" หลินหยางพูดด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์

"ไอ้สุนัขข้างถนน กล้าพูดจาข่มขู่ฉันเหรอ?" พี่เหมยรู้สึกโกรธมาก เธอแยกเขี้ยวเตรียมตัวพุ่งเข้ามาหาหลินหยางพร้อมกับกรงเล็บของเธอ

"ฉู่เหย้าหาง ถ้าฉันจำไม่ผิดเธอคือเลขาของนายใช่หรือเปล่า? เธอบ้าไปแล้วนายจะไม่ดูเธอสักหน่อยเหรอ?" โม่ชิงพูดขึ้นอย่างกะทันหัน

คำพูดที่เรียบง่ายเพียงประโยคเดียว แต่มันก็ฟังดูน่าตกใจยิ่งกว่าตอนที่เขาคุกเข่ามาเมื่อกี้

ทุกคนรู้สึกตกใจมาก

สีหน้าของฉู่เหย้าหางซีดขาว

โม่ชิงไม่เพียงแต่คุกเข่ายังพูดเข้าข้างคนไร้ประโยชน์คนนี้ด้วย?

เขามีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับหลินหยาง?

"เสี่ยวเหมย หยุดเดี๋ยวนี้…" ฉู่เหย้าหางตะโกนด้วยเสียงที่แหบแห้ง

"คุณชายฉู่!" ร่างกายของพี่เหมยสั่นสะท้าน มองเขาอย่างไม่กล้าเชื่อสายตา

ฉู่เหย้า่หางส่งซิกทางสายตาให้เธอ หลังจากนั้นหันไปมองจางซีที่อยู่ด้านข้าง

จางซีเข้าใจได้ในทันที เขารีบพุ่งออกมาแล้วพูด "ไม่ได้! พวกคุณจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!"

"ฮืม?" สีหน้าของโม่ชิงเคร่งขรึมลง

พี่เหมยเป็นคนของฉู่เหย้าหาง แต่จางซีไม่ใช่!

เห็นได้ชัด ฉู่เหย้าหางยังไม่ยอมหยุดแค่นี้!

"เกิดอะไรขึ้น?" แอนนาถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

"คุณแอนนา เกรงว่าผมคงจะต้องขอตัวก่อนแล้ว?"

หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่ไร้อารมณ์ หลังจากนั้นพาซูเหยียนเดินออกไปทางข้างนอก

"หลิน! รอก่อน!"

แอนนารีบเดินตามออกไปทันที

แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย หลินหยางลากซูเหยียนออกจากโรงแรมโดยตรง

แอนนารู้สึกโกรธจนกระทืบเท้า เธอเบิกตากว้างหันไปมองฉู่เหย้าหางอย่างกะทันหัน

"ใครพอจะอธิบายได้หรือเปล่าว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?" แอนนาถามด้วยความโกรธ

"คุณแอนนา คุณรู้จัก…คนคนนี้ได้ยังไง?" ฉู่เหย้าหางถามด้วยความแปลกใจ

"ลองไปถามพ่อคุณดูสิ"

แอนนาพูดด้วยความโกรธแล้วเดินจากไปทันที

"คุณแอนนา คุณจะไปไหน? รอก่อนคุณแอนนา!"

ฉู่เหย้ารีบเดินตามไป แต่แอนนาไม่สนใจเขาเลยสักนิด

ไม่นาน แอนนาก็ขึ้นรถของเธอที่อยู่หน้าล็อบบี้

"ฉู่ คุณทำให้ฉันรู้สึกผิดหวังมาก ฉันว่าฉันคงต้องพิจารณาเรื่องเกี่ยวกับโครงการพัฒนาเครื่องมือแพทย์ใหม่แล้ว!" แอนนาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

"คุณแอนนาฟังผมอธิบายก่อน!"

ฉู่เหย้าหางรีบตะโกนพูด

แต่รถของแอนนาหายไปในความมืดแล้ว

"ตกลงนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"

ฉู่เหย้าหางพูดพึมพำ หลังจากนั้นหันไปมองโม่ชิง "ลุงโม่!"

แต่โม่ชิงเดินออกไปข้างนอกโดยไม่สนใจเขา

ตอนที่เดินถึงหน้าประตูใหญ่ ฝีเท้าของเขาหยุดชะงักลง

"ฉู่เหย้าหาง…นายสร้างปัญหาครั้งใหญ่แล้ว!"

พูดจบเดินออกจากประตูทันที

"ปัญหา? ฉันสร้างปัญหาอะไร? ฉันฉู่เหย้าหางรับมือไม่ได้แม้กระทั่งไอ้หน้าขาวที่รอผู้หญิงเลี้ยงเหรอ? เป็นไปไม่ได้ คนพวกนี้ต้องเข้าใจอะไรผิดแน่นอน ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด มันต้องเป็นแบบนั้น!" ตอนนี้หัวใจของฉู่เหย้าหางยุ่งเหยิงจนรู้สึกชาไปหมด ตอนที่เขาพูดเหมือนกำลังสวดมนต์

"คุณชายฉู่ นี่…นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?" จางซีเดินเข้ามาแล้วถาม

"หลินหยางไปรู้จักคนแบบนั้นได้ยังไง?" เสี่ยวหรานก็ถามด้วยเสียงที่สั่นเทาเหมือนกัน

"ต้องเป็นเรื่องบังเอิญแน่นอน พวกเขาต้องจำคนผิดแน่นอน…"

"แต่คุณโม่ชิง…"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา