บังเอิญกับจงหงเป็นคนประเภทยิ่งไม่ได้ก็ยิ่งต้องการ เขาโตมาจนถึงขนาดนี้ ยังไม่เคยมีของอะไรที่ต้องการแล้วไม่ได้ ในสายตาของเขา ซูเหยียนก็เหมือนกับสิ่งของชิ้นหนึ่ง ถึงต้องไม่เลือกวิธีการก็จะต้องทำให้ได้มาครอบครองไว้ในมือ
"เฮ้อ!"
จงหงถอนหายใจอีกครั้ง บนใบหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์ของความช่วยไม่ได้และเสียดาย
"เสี่ยวเหยียน ผมพยายามเจรจากับคุณด้วยความอดทนแล้ว แต่คุณกลับปฏิเสธเสียงแข็งแบบนี้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็อย่าโทษผมก็แล้วกัน!"
"คุณคิดจะทำอะไร?" ซูเหยียนรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที
"ก็ไม่ได้จะทำอะไร แค่จะบอกคุณว่าเซี่ยจิงแห่งนี้เป็นถิ่นของตระกูลจง ขอแค่ผมไม่อนุญาต หลังจากลงจากรถคันนี้ พวกคุณก็ไปไม่ถึงสนามบินเหมือนกัน ถึงพวกคุณจะอยู่บนเครื่องบินแล้ว ไฟท์บินเที่ยวนั้นก็จะไม่ขึ้นบิน เสี่ยวเหยียน คุณเชื่อหรือเปล่า?" จงหงยิ้มเล็กน้อยแล้วพูด
หลังจากได้ยินคำพูดประโยคนี้ ลมหายใจของซูเหยียนหยุดชะงักทันที
เธอไม่เชื่อได้เหรอ?
จงสือกรุ๊ปตั้งรกรากอยู่ในเซี่ยจิงอย่างน้อยก็ห้าสิบกว่าปีแล้ว ส่วนตระกูลจงก็เป็นงูเจ้าถิ่นของที่นี่ ได้ยินมาว่าตระกูลจงสร้างรากฐานของตัวเองจากธุรกิจสีเทา เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน พ่อของจงหงเริ่มหันมาทำธุรกิจถูกกฎหมาย เพราะแบบนี้จึงสามารถฟอกเงินทั้งหมดจนกลายเป็นเงินสะอาด
แม้ปัจจุบันจะเป็นสังคมที่ถูกปกครองด้วยกฎหมาย ตระกูลจงไม่สามารถใช้อิทธิพลได้เหมือนเมื่อก่อน แต่ถ้าคิดจะเล่นงานผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างเธอ มันยังคงเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
สีหน้าของซูเหยียนน่าเกลียดจนถึงขีดสุด มือกำหมัดแน่น แทบอยากจะชกหน้าจงหงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เดี๋ยวนี้
แต่เธอในตอนนี้ทำอะไรไม่ได้ สีหน้าเคร่งขรึมไม่พูดอะไรสักคำ
จงหงที่เห็นสถานการณ์ รู้ดีว่ามีความเป็นไปได้ที่ซูเหยียนจะยอมตอบตกลง
มันก็จริง ด้วยสถานการณ์แบบนี้ ถ้าเธอยังคิดจะหัวแข็งใช้หัวชนฝาไม่เลิก ผลที่ตามมามันไม่มีอะไรดีสำหรับเธอ
แต่ในขณะเดียวกันจงหงก็เข้าใจ เขาจะบีบคั้นซูเหยียนมากเกินไปไม่ได้เด็ดขาด ผู้หญิงคนนี้เป็นคนอารมณ์ร้าย ถ้าหากบีบคั้นเธอมากเกินไป มีแต่จะทำให้เธอคิดสั้น
"เสี่ยวเหยียน ผมไม่ได้ต้องการเสนอเงื่อนไขที่มากเกินไปอะไรเลย ผมแค่อยากกินข้าวกับคุณ เดินทางกับคุณ ดูหนังกับคุณ แค่คืนนี้คืนเดียว ถ้าหากคุณยอมตอบตกลงทั้งสามเรื่อง พรุ่งนี้เช้า ผมจะใช้เครื่องบินส่วนตัวส่งคุณกลับเจียงเฉิน โอเคหรือเปล่า?" จงหงพูดด้วยอารมณ์ที่ลึกซึ้ง
ซูเหยียนยังคงก้มหน้าลงไม่พูดอะไรสักคำ
ส่วนหลินหยางเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว
เขามองจงหงด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ กำลังเริ่มคิดแล้วว่าจะจัดการคนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ยังไง
ส่วนจงหงยังคงไล่บีบคั้นทีละนิด
"เสี่ยวเหยียน ว่ายังไง? อยู่ต่ออีกสักคืนเถอะ! ผมไม่ได้มีเจตนาอื่น ผมแค่อยากมองหน้าคุณนานกว่านี้ จริงนะ ขอแค่คุณตอบตกลง พรุ่งนี้คุณจะถึงเจียงเฉินอย่างปลอดภัยแน่นอน แล้วก็สามีที่แต่งเข้าบ้านของคุณด้วย!" จงหงจ้องซูเหยียนตาเป็นประกายแวววับ ส่วนหลินหยาง ตั้งแต่เริ่มจนจบเขาไม่เคยเหลือบมองแม้แต่แวบเดียว
"ขอโทษ ฉันปฏิเสธ!"
ซูเหยียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เงยหน้าขึ้นพูดอย่างกะทันหัน
แววตาของจงหงเย็นชาลง
"เพราะอะไร?"
"ไม่ได้เพราะอะไรทั้งนั้น ถ้าฉันนั่งเครื่องบินไม่ได้ ฉันก็นั่งรถไฟแทน ถ้าจะนั่งรถไฟไม่ได้ ฉันก็นั่งรถแท็กซี่กลับเจียงเฉิน ถ้าหากรถแท็กซี่ก็ยังไม่ได้อีก งั้นฉันยอมเดินกลับเจียงเฉิน! จงหง ฉันเคยพูดไปหลายครั้งแล้ว ฉันเป็นคนมีขีดจำกัด คนที่นั่งอยู่ข้างฉันคือสามีของฉัน ฉันไม่มีทางไปออกเดทกับคนอื่นแน่นอน ไม่งั้นฉันซูเหยียนจะไม่กลายเป็นผู้หญิงสำส่อนเหรอ?" ซูเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง
"คุณคิดว่าผมไม่รู้เหรอ? คุณกับคนไร้ประโยชน์คนนี้แต่งงานกันแค่ในนามเท่านั้น! คนไร้ประโยชน์คนนี้ไม่เคยแตะต้องแม้แต่ปลายนิ้วของคุณด้วยซ้ำ!" จงหงเหมือนจะโดนกระตุ้นจนโกรธแล้ว เขาตะโกนถามเสียงดัง
แต่วินาทีต่อมา ซูเหยียนหันหน้าอย่างกะทันหัน ยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มของหลินหยางโดยตรง
ทันใดนั้น จงหงสั่นสะท้านเหมือนโดนไฟช็อต
หลินหยางก็ตกใจมากเช่นกัน…
ใบหน้าที่ขาวเนียนของซูเหยียนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่สีหน้าท่าทางยังคงนิ่งสงบ
"ตอนนี้ล่ะ?" เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
จงหงโกรธจนตัวสั่นแทบจะระเบิดอยู่แล้ว
"ได้! ได้! ซูเหยียน! อย่าโทษผมไม่ให้โอกาสคุณก็แล้วกัน! คุณเป็นคนเลือกเอง!"
จงหงลงจากรถด้วยความโกรธ
ส่วนซูเหยียนก็ดึงมือของหลินหยางลงจากรถเช่นกัน
"พวกเราเดินกลับ!" ซูเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
"ได้!"
หลินหยางรู้สึกมึนงงเล็กน้อย แต่ก็ยังพยักหน้าอยู่ดี
ท่าทางที่หนักแน่นของซูเหยียนทำให้เขารู้สึกชื่นชมมาก คิดไม่ถึงว่าภรรยาของตนเองจะเป็นคนที่มีหลักการแน่วแน่มากขนาดนี้
ดูเหมือนเขาจะดูถูกเธอเกินไป…
"ผมเคยให้โอกาสพวกคุณแล้ว!" จงหงยักไหล่แล้วโบกมือ
"ลงมือ!"
คนที่อยู่ด้านข้างตะคอก
ชายชุดดำทั้งกลุ่มพุ่งตรงเข้าไปหาหลินหยาง หมัดและเท้าที่น่าสะพรึงกลัวถูกเหวี่ยงไปทางร่างกายของหลินหยาง
ทว่าในขณะที่สถานการณ์กำลังคับขัน มีเสียงตะโกนด้วยความโกรธดังขึ้น
"หยุดเดี๋ยวนี้!"
ทุกคนรู้สึกอึ้ง
จงหงขมวดคิ้ว หันไปมองตามทิศทางของเสียง
กลับเห็นรถเบนท์ลีย์คันหนึ่งและรถเบนซ์เจ็ดแปดคันขับพุ่งตรงเข้ามา ตรงที่นั่งข้างคนขับของรถเบนท์ลี่ย์ มีชายชราคนหนึ่งกำลังยื่นหัวออกมาจากหน้าต่าง ตะโกนมาทางนี้ "ทุกคนหยุดเดี๋ยวนี้!"
"ลุงหนาน?"
มีคนอุทาน
"ไอ้แก่คนนี้มาทำอะไรที่นี่?" จงหงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
กลับเห็นฮั่นหนานและคนอื่นพุ่งลงมาจากรถ ปิดล้อมจงหงและคนอื่นอย่างกะทันหัน
เห็นได้ชัดว่าทางด้านของฮั่นหนานมีการเตรียมความพร้อมมาเรียบร้อยแล้ว มีคนประมาณสามสิบกว่าคนลงมาจากรถ มองดูบอดี้การ์ดท่าทางดุร้ายที่อยู่โดยรอบของฮั่นหนาน จงหงรู้สึกกังวลขึ้นมาทันที
"ฮั่นหนาน คุณทำอะไร?" จงหงตะโกนเสียงดังด้วยความหัวเสีย
"คุณชายจง! ไว้หน้าผมสักครั้ง อย่าทำให้คุณซูและคุณหลินต้องลำบากใจเลย! ปล่อยพวกเขาไปเถอะ!" ฮั่นหนานพูดกับจงหงด้วยสีหน้าที่จริงจัง
"ฮั่นหนาน ดูเหมือนเรื่องนี้จะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณไม่ใช่เหรอ? หรือคุณคิดจะยื่นมือเข้ามายุ่ง?" จงหงขมวดคิ้วถาม
"คุณหลินและคุณซูเป็นสหายของผม! คุณทำให้สหายของผมต้องลำบากใจ ยังจะบอกว่าไม่เกี่ยวอะไรกับผมอีกเหรอ?" ฮั่นหนานพูด
"งั้นเหรอ?" สีหน้าของจงหงดูไม่เป็นธรรมชาติเท่าไหร่ "ดังนั้น คุณตั้งใจมาเป็นศัตรูกับผมโดยเฉพาะ?"
"ถ้าคุณไม่ทำให้สหายของผมลำบากใจ ผมย่อมไม่เป็นศัตรูกับคุณ! จงหง ถ้าพูดถึงในแง่ของความเป็นอาวุโสและประสบการณ์ ถึงพ่อคุณมาอยู่ที่นี่ก็ต้องไว้หน้าผม หรือวันนี้คุณคิดจะฉีกหน้าผม?" ฮั่นหนานพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม ท่าทีของเขาหนักแน่นมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...