สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 84

"หลังจากผ่านการประเมินของผม สูตรยาทั้งสองแผ่นไม่เหมือนกัน" ผู้พิพากษาจางพูด

"อะไรนะ?"

ภายในชั้นศาลตกอยู่ในความวุ่นวายอีกครั้ง

"เป็นไปไม่ได้!"

คุณนายซูตะคอกอย่างเกรี้ยวกราด

ซูเป่ย ซูเจินและคนอื่นมองตาค้าง แต่ละคนไม่สามารถยอมรับความจริงได้

คนของตระกูลซูตกอยู่ในความสิ้นหวัง!

"เงียบ เงียบ! ใครยังสร้างปัญหาในชั้นศาลอีก ผมมีอำนาจในการจัดการคนคนนั้น!" ผู้พิพากษาจางเคาะค้อนอย่างแรง ท่าทางของเขาในตอนนี้ดูโกรธมากแล้ว

ภายในชั้นศาลเริ่มเงียบสงบลงไม่น้อย แต่ผู้คนก็ยังไม่สามารถยอมรับได้

"ท่านผู้พิพากษา ผมสงสัยว่าหยางหัวกรุ๊ปแก้ไขสูตรยา! ทางเราเคยทำการวิจัยเกี่ยวกับสูตรยาของตระกูลซูแล้ว มีผลต่อผู้ป่วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบจริง และมีประสิทธิภาพถึงขั้นสามารถใช้รักษา ยาตัวใหม่ของหยางหัวกรุ๊ปผ่านการจดสิทธิบัตร แสดงว่าต้องมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว แต่สูตรยาใบนี้ใช่สูตรยาตัวใหม่ของหยางหัวกรุ๊ปหรือเปล่า จำเป็นต้องผ่านการตรวจสอบก่อน!" คังเจียห่าวลุกขึ้นยืนแล้วพูด

"ทางเราสามารถนำข้อมูลเกี่ยวกับสูตรยาตัวใหม่ในฐานข้อมูลมาเปรียบเทียบ" จี้เหวินพูด

"ข้อมูลในฐานข้อมูลสามารถแก้ไขได้ ไม่สามารถใช้เป็นข้อมูลสำหรับการเปรียบเทียบ" คังเจียห่าวพูด

"แล้วพวกคุณต้องการแบบไหน?"

"ใช้สูตรยาตัวนี้ผลิตยาขึ้นในชั้นศาล หลังจากนั้นเชิญผู้ป่วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบใช่ยา ถ้าหากมีผลก็แสดงว่าสูตรยาตัวนี้เป็นของจริง ไม่อย่างนั้นจะถือว่าสูตรยาตัวนี้ได้รับการแก้ไขมาก่อนแล้ว"

"แบบนี้ไม่ได้ ใช้เวลานานเกินไป แม้แต่การผลิตยาจากหยางหัวกรุ๊ปก็ยังต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือนกว่าการรักษาจะเห็นผลอย่างชัดเจน" จี้เหวินส่ายหัวปฏิเสธ

เขารู้ดีว่าคังเจียห่าวกำลังถ่วงเวลา

เพราะคังเจียห่าวไม่เคยคิดว่าสูตรยาทั้งสองจะไม่เหมือนกัน

เรื่องแบบนี้ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเชื่อหรอกมั้ง?

อย่างไรก็ตามโรคเส้นเลือดในสมองตีบเป็นปัญหาที่แม้แต่องค์กรแพทย์ระดับโลกก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่ในเมืองเจียงเฉินกลับสูตรยาสองสูตรที่สามารถรักษาได้ปรากฏขึ้น…

ใครจะเชื่อ?

การรุกครั้งนี้คังเจียห่าวไม่เคยคิดถึงมาก่อน ดังนั้นเขาจำเป็นต้องถ่วงเวลาเพื่อรวบรวมข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อตัวเอง แบบนี้ถึงจะสามารถโต้ตอบกลับ

แต่แล้วคนของตระกูลซูกลับไม่เข้าใจความคิดของเขา พวกเขาคิดว่าจี้เหวินไม่มั่นใจ จึงรีบตะโกนพูดขึ้น "สูตรยาของพวกคุณเป็นของปลอมอยู่แล้ว พวกคุณก็แค่ไม่กล้าใช่เท่านั้น"

"ใช่ ทองแท้ไม่กลัวไฟ พวกคุณไม่กล้าทำก็แสดงว่าเป็นของปลอม"

"พวกคุณหยุดทำตัวอวดดีได้แล้ว!"

ซูเป่ย ซูเจินและคนอื่นเริ่มพูด

"พวกคุณอย่าพูดมาก…"

คังเจียห่าวแทบจะกระอักเลือดเพราะคนกลุ่มนี้

อีกฝ่ายกล้าเอาสูตรยาออกมาพิสูจน์ก็แสดงว่าไม่มีปัญหา ของแบบนี้ถ้าหากต้องการประเมินว่าจริงหรือเปล่ามันง่ายมาก!

"เรื่องใช้เวลานานไม่ใช่ปัญหา แต่ต้องผลิตยาและใช้ยาตรงนี้ แน่นอน สิ่งเหล่านี้ต้องดำเนินการภายใต้เจ้าหน้าที่การแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ จำเป็นต้องเป็นไปตามกฎหมายทุกอย่าง" ผู้พิพากษาจางพูด

จี้เหวินพยักหน้า "ในเมื่อท่านตัดสินแบบนี้ ทางเราก็จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ หลังจากนี้หนึ่งเดือนความจริงก็จะปรากฏ!"

"ถ้าหากทั้งสองฝ่ายไม่มีความเห็นอะไรแล้ว ผมขอประกาศว่าจะหยุดการพิจารณาคดีชั่วคราว หยางหัวกรุ๊ปเริ่มทำการผลิตยาตามสูตร หลังจากนั้นผ่านการทดสอบ ถ้าหากยาของบริษัทหยางหัวกรุ๊ปมีผล คดีนี้จะมีการพิจารณาใหม่อีกครั้ง…"

"รอก่อนครับท่านผู้พิพากษา!"

ในตอนนั้นเอง ทางด้านของหม่าไห่พูดขึ้นอย่างกะทันหัน

"ท่านผู้พิพากษา ลูกความของผมมีอะไรอยากจะพูด" จี้เหวินรีบพูดขึ้น

"เชิญพูด" ผู้พิพากษาจางพูด

กลับเห็นหม่าไห่พูดว่า "ท่านผู้พิพากษา ผมอยากเชิญประธานหยางหัวกรุ๊ปของเราขึ้นศาล! และใช้สูตรยาตัวที่สามรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ วิธีการรักษาแบบนี้ใช้เวลาสั้นมาก ขอเพียงแค่เจ็ดวันก็จะเห็นผลอย่างชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถเห็นผลได้ในทันที เรื่องนี้เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าหยางหัวกรุ๊ปของเราไม่ได้ขโมยสูตรยาของตระกูลซู ผมต้องการใช้วิธีนี้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของหยางหัวกรุ๊ป!"

"อะไรนะ?"

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตกตะลึง!

วินาทีนี้แม้แต่ผู้พิพากษาจางก็เริ่มนั่งไม่ติดแล้ว

สูตรยาตัวที่สาม?

หยางหัวกรุ๊ป…มีสูตรยารักษาโรคเส้นเลือดในสมองตีบสองสูตร?

บ้าไปแล้ว!

สิ่งนี้จะทำให้องค์กรการแพทย์ทั่วโลกคลั่งไคล้!

"โรคเส้นเลือดในสมองตีบ…เป็นเหมือนกับไข้หวัดธรรมดาไปตั้งแต่เมื่อไหร่? มันรักษาง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?" คังเจียห่าวพูดด้วยน้ำเสียงที่ขมขื่น ตอนนี้ภายในใจของเขาเริ่มจะไม่แน่ใจแล้ว

คดีนี้ดูผิวเผินเหมือนมีโอกาสชนะ แต่อันที่จริงแล้ว…พวกเขากำลังตกหลุมพรางของอีกฝ่าย…

คนคนนี้ก็คือประธานแห่งหยางหัวกรุ๊ปในตำนาน!

ในที่สุดเขาก็ปรากฏตัวขึ้นแล้ว…

ทันทีที่ผู้ชายคนนี้เดินเข้ามา สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่บนตัวของเขา

ร่างกายของผู้ชายคนนี้สมส่วนเข้ากับเสื้อสูทของเขามาก แต่เขากลับสวมหมวกทรงสูงและกดต่ำลงบดบังใบหน้าครึ่งหนึ่งของเขา

"หลินหยาง?"

ซูเหยียนที่นั่งอยู่บนที่นั่งของฝ่ายจำเลยพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว

"หลินหยางอะไร? เสี่ยวเหยียนเธอบ้าหรือเปล่า?" จางชิงหยู่ใช้แขนกระแทกแขนของลูกสาวแล้วพูด

ร่างกายของซูเหยียนสั่นสะท้านเพิ่งจะดึงสติกลับมาได้ เธอหันไปมองคนคนนั้นอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นหุ่นหรือทรงหน้าคล้ายคลึงกับหลินหยางมาก แต่มีอยู่จุดหนึ่งที่ไม่เหมือนกัน

นั่นก็คือเขาดูหล่อเหลามาก

ถึงแม้จะเผยให้เห็นเพียงใบหน้าครึ่งเดียว แต่ใบหน้าเพียงครึ่งเดียวของเขาเป็นเหมือนกับผลงานชิ้นเอกของพระเจ้า เกรงว่าแม้แต่ไมเคิลแองเจโลก็ไม่สามารถปั้นใบหน้าแบบนี้ออกมามั้ง?

ซูเหยียนอยากวิ่งเข้าไปดึงหมวกทรงสูงของเขาออก เธออยากรู้ว่าตกลงคนคนนี้ใช่หลินหยางหรือเปล่า แต่ตอนที่เขาไปยืนอยู่หน้าบัลลังก์ เธอถึงจะนึกขึ้นได้ เขาเป็นถึงตำนานของเจียงเฉิน เป็นถึงประธานบริษัทหยางหัวกรุ๊ป

ซูเหยียนส่ายหัวปัดความคิดพวกนั้นทิ้งไป หลังจากนั้นอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น

บุคคลระดับนี้จะเป็นหลินหยางได้ยังไง?

คนแบบนี้ก็คือประธานบริษัทหยางหัวกรุ๊ปที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ความรุ่งโรจน์เหรอ?

อายุน้อยมาก!

มีผู้คนไม่น้อยที่อุทานออกมาด้วยอารมณ์ที่ลึกซึ้ง

"สวัสดีครับผู้พิพากษาจาง" ผู้มาพูด

"คุณหลิน คุณหม่าบอกว่าในมือของคุณมีสูตรยารักษาโรคเส้นเลือดในสมองตีบแบบที่สาม ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?" ผู้พิพากษาจางถาม

"ใช่ครับ"

ประธานหลินโบกมือ หลังจากนั้นมีหมอสองคนที่สวมชุดกาวน์สีขาวเดินเข้ามาจากด้านนอก ในขณะเดียวกันก็มีชายชราผมร่วงจนเกือบหมดหัวและผิวหนังเหี่ยวย่นถูกเข็นตามเข้ามาด้วยอีกคน

ชายชราคนนี้มีอายุมากแล้ว นั่งอยู่บนรถเข็น ท่าทางดูเหม่อลอยเล็กน้อย ทันทีที่ชายชราคนนี้ปรากฏตัวขึ้น มีผู้คนไม่น้อยที่อุทานออกมา

"นี่คือผู้พิพากษาโม่ไม่ใช่เหรอ?" มีคนอุทาน

เจ้าหน้าที่ภายในศาลบางคนก็รู้สึกอึ้งเหมือนกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา