แม้แต่ตัวของเธอเองก็คิดไม่ถึง บริษัทที่ไม่มีเงินทุนและไม่มีสถานที่ประกอบกิจการของเธอจะมีโอกาสได้ร่วมมือกับบริษัทใหญ่อย่างหยางหัวกรุ๊ป
หลังลงจากรถ ซูเหยียนมีความรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฝัน
ในตอนนั้นเอง ด้านข้างมีเสียงหัวเราะดังขึ้น
"คุณน่าจะเป็นประธานซูใช่หรือเปล่า? สวัสดีครับ!"
ซูเหยียนเงยหน้าขึ้นมองกลับเห็นหม่าไห่มายืนรอต้อนรับเธอด้วยตัวเองอยู่หน้าประตู
ทันทีที่ภาพนี้ปรากฏขึ้น ผู้คนที่อยู่ตรงหน้าประตูถึงกับตกตะลึง
ซูเหยียนก็มองตาค้างเหมือนกัน
ในขณะเดียวกันวันนี้ยังไม่ทันผ่านไป ข่าวลือเกี่ยวกับประธานหลินและซูเหยียนได้แพร่กระจายไปทั่วแล้ว
ซูเหยียนกลับถึงบริษัทของตัวเองด้วยความรู้สึกที่มึนงง
ถึงแม้บริษัทของเธอจะยังไม่ได้รับการปรับปรุงถึงขั้นยังไม่ได้ทำแม้แต่ส่วนหน้าของอาคาร แต่นั่นมันไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกแล้ว
เธอแทบจะไม่สามารถควบคุมหัวใจที่เต้นแรงของตัวเอง
หม่าไห่เห็นด้วยกับความเห็นของเธอทุกอย่างและตอบตกลงเงื่อนไขของเธอ
ไม่เพียงแค่นั้น หม่าไห่ยังลงทุนกับเธอด้วยเงินทุนสิบล้านในนามของเขา
ตอนนี้เธอไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องเงินทุนอีกแล้ว
ปัญหาทุกอย่างได้รับการคลี่คลาย
ตอนนี้ซูเหยียนเต็มไปด้วยความคาดหวังและมั่นใจบริษัทในอนาคตของเธอ
ปัง!
ในตอนที่ซูเหยียนกำลังจมอยู่กับอนาคตที่หอมหวานของตัวเอง ประตูใหญ่ของบริษัทโดนคนถีบจนเปิดออกอย่างกะทันหัน
"ว้าย!"
ซูเหยียนสะดุ้งตกใจจนอุทานออกมา เธอรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ กลับเห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินตรงเข้ามาจากประตู
คนที่เป็นผู้นำคือ…จางเป่าชวี!
"ลูกผู้พี่?"
ซูเหยียนรู้สึกแปลกใจ
แต่แล้วเธอพูดไม่ทันจบประโยค หลัวเฟิงที่อยู่ด้านข้างพุ่งเข้ามาอย่างกะทันหัพร้อมกับเหวี่ยงฝ่ามือใส่ใบหน้าของซูเหยียนโดยตรง
ซูเหยียนที่ไม่ทันระวังโดนตบจนล้มลงไปนอนกับพื้น
รอยฝ่ามือสีแดงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
"พวกคุณทำอะไรของพวกคุณ?"
ซูเหยียนกุมใบหน้าของตัวเองแล้วตะโกนด้วยความเจ็บปวดและโกรธเคือง
"นางตัวดี! พูดมา! เธอเป็นคนบอกให้ชายชู้ของเธอห้ามพบลูกชายของฉันใช่หรือเปล่า?" หลัวเฟิงพุ่งเข้ามาจิกผมของซูเหยียนแล้วตะคอกด้วยสีหน้าที่ดูน่ากลัว
ความเจ็บปวดที่รุนแรงทำให้ซูเหยียนรู้สึกทรมาน
และในตอนนี้เธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมจางเป่าชวีถึงมาหาเธออย่างกะทันหัน
ดูเหมือนตระกูลจางจะคิดว่าซูเหยียนมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับประธานหลินในตำนานคนนั้น ส่วนประธานหลินปฏิเสธพวกเขาอย่างกะทันหัน ทำให้คนของตระกูลจางคิดว่าซูเหยียนเป็นคนพูดยั่วยุ ดังนั้นพวกเขาจึงมาแก้แค้นเธอ
เห็นเพียงจางเป่าชวีเดินตรงเข้ามาแล้วนั่งยองลง จ้องมองซูเหยียนอย่างไม่ใส่ใจ
"เสี่ยวเหยียน ฉันจะให้โอกาสเธออีกครั้ง เธอยินดีที่จะคว้ามันเอาไว้หรือเปล่า?"
"โอ...โอกาสอะไร?" ซูเหยียนรู้สึกกลัวจนตัวหด เธอถามด้วยเสียงที่สั่นเทา
"บอกให้หยางหัวกรุ๊ปร่วมมือกับตระกูลจาง และให้โอนสิทธิ์การขายยาตัวใหม่ในมณฑลกวงหลิวให้พวกเรา!" จางเป่าชวีพูด
"เป็นไปไม่ได้" ซูเหยียนกัดฟันพูด "ลูกผู้พี่ คุณป้า พวกคุณเข้าใจผิดแล้ว ฉัน…ฉันไม่รู้จักประธานหลินคนนั้นด้วยซ้ำ และฉันก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเขา"
"เธอพูดอะไรนะ?"
หลัวเฟิงยิ่งรู้สึกโกรธ เธอพูดเสียงแหลมพร้อมกับคิดจะใช้มือข่วนหน้าของซูเหยียน
ภายใต้สถานการณ์คับขัน ซูเหยียนคว้าข้อมือของหลัวเฟิงแล้วกัดโดยตรง
ผู้คนพากันมามอบกระเช้าดอกไม้
บนใบหน้าของลั่วเฉียนเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น
เธอคิดจะหลุดพ้นจากอิทธิพลของคุณปู่มาโดยตลอด แต่ตอนนี้ดูเหมือนยังอีกยาวไกล
หลินหยางยิ้มแล้วยิ้มอีก ตั้งแต่เริ่มจนจบเขากวาดพื้นอยู่ด้านข้างโดยไม่ได้พูดอะไร
ถึงแม้การเปิดคลินิกของวันนี้จะคึกคักมาก แต่เห็นได้ชัดว่ามันไร้สาระ
หลังจากที่ได้เวลาพอสมควรแล้ว หลินหยางทักทายลั่วเฉียนแล้วเตรียมกลับบ้านไปอ่านหนังสือต่อ
แต่แล้วในระหว่างทาง หลินหยางเจอกับคนที่เขาคิดไม่ถึงว่าจะได้เจอ
ซูหยู!
ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่ได้สังเกตเห็นหลินหยาง เธอยืนอยู่ข้างถนนพร้อมกับเด็กสาวคนหนึ่งที่สวมชุดนักเรียนมัดผมหางม้า
เด็กสาวคนนี้สะพายกระเป๋าท่าทางของเธอดูหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนตรงหน้าของซูหยูเป็นผู้ชายตัวอ้วนที่สวมชุดแบรนด์เนม และด้านข้างของผู้ชายคนนี้มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น ท่าทางของเด็กหนุ่มคนนั้นดูเย่อหยิ่ง ย้อมผมสีทอง เขากำลังยืนสองมือล้วงกระเป๋าและจ้องมองเด็กสาวคนนั้นพร้อมกับรอยยิ้มที่ชั่วร้าย
หลินหยางรู้จักเด็กสาวคนนั้น
เธอชื่อซูเสี่ยวชิง เป็นลูกสาวคนที่สองของซูไท่
อันที่จริงหลินหยางไม่ได้มีอคติอะไรกับครอบครัวของซูไท่
ซูไท่คนนี้เป็นคนที่หนักแน่นมากและไม่เย่อหยิ่งวางอำนาจ และไม่เคยใช้สายตาตัดสินคนอื่น ในเวลาสามปีที่ผ่านมาเขาแทบจะไม่เคยพูดอะไรกับหลินหยาง อย่างมากก็แค่เอ่ยปากสั่งสอนไม่กี่คำ ครอบครัวนี้คนที่มีอคติกับหลินหยางมากที่สุดคือซูหยู เหตุผลไม่มีอย่างอื่น เป็นเพราะซูหยูอิจฉาในความสวยของซูเหยียน
ส่วนซูเสี่ยวชิงกลับมาสนิทกับหลินหยาง เวลาว่างเธอมักจะมาพูดคุยกับหลินหยาง แม้ว่าตอนนั้นหลินหยางจะเป็นเพียงคนไร้ประโยชน์คนหนึ่ง
หลินหยางลังเลอยู่สักพักสุดท้ายก็ตัดสินใจเดินเข้าไป
"นี่คุณจะเอายังไงกันแน่? สมัยนี้ชีวิตของคนหนุ่มสาวเปิดกว้างจะตายไปไม่ใช่เหรอ? ฉันอายุมากขนาดนี้แล้วยังไม่ใส่ใจเลย เธอจะใส่ใจอะไรกันนักกันหนา? ก็แค่เด็กสองคนรักกันไม่ใช่เหรอ? อายุก็ตั้งสิบหกสิบเจ็ดแล้ว มันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ?" ผู้ชายตัวอ้วนสูบบุหรี่ก่อน หลังจากนั้นยิ้มแล้วพูด
"รักกันอะไรของคุณ? เสี่ยวชิงของเราไม่เคยคิดจะมีความรัก อีกอย่างช่วงนี้ก็ใกล้จะสอบเข้ามหาลัยแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเสี่ยวชิงของเราไม่มีทางชอบลูกชายของคุณ!" ซูหยูพูดด้วยความโกรธ
"เหอ! นางหนู เธอจะใส่อารมณ์ทำไม? สอบเข้ามหาลัย? สอบเข้ามหาลัยมีประโยชน์อะไร! บ้านของฉันรวยล้นฟ้า ที่ลูกชายของฉันชอบน้องสาวของเธอ แสดงว่ามันเป็นวาสนาของน้องสาวเธอ ถ้าหากน้องสาวของเธอมาคบกับลูกชายฉัน แล้วยังจะไปสอบเข้ามหาลัยทำไม? สอบเข้ามหาลัยได้แล้วจะหาเงินได้เท่าไหร่กันเชียว?" คนคนนั้นถุยน้ำลายลงพื้นแล้วพูดอย่างดูถูก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...