ปลาที่ได้มาต้องรีบจัดการในวันนี้ เพราะพรุ่งนี้เช้าตื่นมาจะต้องได้ทำให้เป็นอาหารแต่เช้า ในขณะที่มะลิซ้อนและป้ากำลังฆ่าสัตว์น้ำที่เพิ่งจะจับมาได้ มิลานได้แต่นั่งปิดตาไม่กล้ามองดู เธอก็รู้แหละว่ามันคือวัฏจักรของโลกใบนี้
"นั่งอยู่เฉยๆ ทำไม มาตักน้ำช่วยกันสิ"
"ตักน้ำทำไม" หญิงสาวละความสนใจจากสิ่งนี้แล้วมองไปที่เขา
"ก็ล้างปลาที่หั่นเสร็จแล้วไง"
มิลานต้องรีบลุกไปตักน้ำที่บ่อ เพื่อมาใส่ตุ่มไว้ ..นี่น้ำที่เธออาบอยู่ทุกวันต้องไปตักในบ่อเหรอ? แทนที่เธอจะขี้เกียจแต่กลับตื่นเต้นเพราะไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
ใบหน้าหวานชะโงกลงไปดูบ่อน้ำ ถึงแม้ว่าบรรยากาศรอบข้างจะมืด แต่แสงจากดวงจันทร์และดวงดาวก็ทำให้มองเห็นได้ดี มันเป็นบ่อน้ำที่พวกเขาขุดกันลงไปลึกมาก และมีท่อวางเรียงกันเป็นชั้นๆ ถ้าจะเอาน้ำขึ้นมาใช้ต้องมีถังมัดด้วยเชือก แล้วก็สาวขึ้นมา
"ทำไมไม่ต่อน้ำประปามาล่ะ"
"มีสมองช่วยคิดหน่อยได้ไหม ขนาดไฟยังไม่มีเลย"
"ทำไมต้องพูดแรงขนาดนั้นด้วย"
พอเห็นเธอไม่ตอบโต้และพูดไปในเชิงที่น้อยใจเขาถึงนึกได้ "ไม่ต้องพูดมากน่าถ้าไม่ช่วยก็กลับไปนั่งที่เดิม ยืนเกะกะอยู่ได้" ว่าแล้วมือแกร่งก็เริ่มสาวเชือกเอาน้ำขึ้นมาเทใส่ถังน้ำ
"เดี๋ยวฉันช่วยหิ้ว" พอใส่น้ำลงไปในถังจนเต็มชายหนุ่มกำลังจะยก หญิงสาวก็เลยอาสายกก่อน
"ทำได้แน่นะ"
"แค่หิ้วน้ำทำไมจะทำไม่ได้" ว่าแล้วเธอก็ยกขึ้น
ปั๊ว~
"นี่เธอ!" ยกขึ้นยังไม่เท่าไรเธอก็ทิ้งมันลง ที่สำคัญตอนนี้ถังน้ำใบนั้นได้แตกเรียบร้อย
"ฉันขอโทษก็มันหนักนี่"
"ถังมีแค่ใบเดียวจะเอาอะไรมาหิ้วน้ำล่ะ"
"นายก็ไปซื้อสิ"
"จะไปซื้อที่ไหนตลาดห่างออกไปเกือบ 20 กิโล"
"น้ำได้หรือยังมัวแต่ทะเลาะกันอยู่นั่นแหละ" ป้าและมะลิซ้อนรอน้ำจนทำปลาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ..เหนือตะวันก็เลยแก้ปัญหาโดยการตักขึ้นมาแล้วก็หิ้วไอ้ที่ตักนั่นแหละเดินไปส่งให้กับทั้งสอง
"สมน้ำหน้า!" หญิงสาวพูดแค่นี้ก็เดินขึ้นบ้านไป ทำไมเธอต้องรู้สึกผิดด้วย พวกเขาต่างหากที่จับตัวเธอมา
เช้าวันต่อมา..
"นี่อะไรกัน เขาโมโหที่เราทำถังน้ำแตกจนไม่ขึ้นมานอนเลยเหรอ" หญิงสาวตื่นขึ้นมาก็ไม่พบร่องรอยว่าเขาขึ้นมานอนด้วย
เธอรีบลงมาข้างล่างเพื่อที่จะมาเอาชุดชั้นใน พอลงมาก็ไม่เจอใคร ..พวกเขาออกไปเช้าขนาดนี้เลยเหรอ ตะวันเพิ่งจะโผล่พ้นขึ้นมาให้เห็น ข้าวของที่เตรียมไว้ก็ไม่มีแล้ว
"รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ เดี๋ยวจะพาลงไปทุ่งนาแล้ว" ในขณะที่เธอกำลังคิดอะไรอยู่นั้น ก็ได้มีเสียงพูดขึ้น หญิงสาวรีบหันไปมอง ก็เห็นว่าเขายื่นเสื้อผ้ามาให้
เธอรับมันมาแล้วกลับขึ้นไปด้านบนเพื่อที่จะเปลี่ยน เสื้อแขนยาวเก่าๆ กางเกงขายาวเอวย้วย พอมันอยู่บนเรือนร่างของเธอแล้ว มิลานถึงกับนึกขำ เขาไปยืมชุดของใครมาให้เธอใส่อีกเนี่ย
จากชีวิตที่เลิศหรู ใส่แต่ของแบรนด์เนม พอได้มาสัมผัสอะไรแบบนี้มันก็เป็นรสชาติของชีวิตอีกแบบ
"ใส่ไว้" ชายหนุ่มหยิบหมวกที่สานด้วยไม้มาวางลงศีรษะของเธอ เพื่อเอาไว้กันแดด
เธอทำอยู่แบบนั้นยังไม่ถึง 10 นาทีเลยด้วยซ้ำก็เริ่มปวดเอว แล้วก็ยืนขึ้นเต็มความสูง
แหมทีตัวเองยืนคุยกับสาวเฉยเลย พอยืนขึ้นได้สายตาก็มองไปเห็นเขาที่ยืนอยู่กับผู้หญิงคนนั้น แต่ก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ พวกเขากำลังเตรียมกับข้าวไว้ให้คนที่ลงมาช่วยเกี่ยวข้าวได้กินกัน
"กับข้าวเสร็จแล้ว ขึ้นมากินข้าวกันก่อนเร็ว" ที่เตรียมก็คืออาหารเช้า ใครมาถึงก่อนก็ลงเก็บเกี่ยวก่อน พอเตรียมอาหารเสร็จถึงได้ขึ้นมากินกัน ..ทุกคนรีบเดินมาเพราะว่าเริ่มจะหิวกันมากแล้ว
สถานที่กินข้าวทำกันขึ้นมาง่ายๆ โดยการวางเสื่อที่ปูรองพื้นไว้ก่อนหน้านั้น และหลังคาก็คือต้นไม้ใหญ่ มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับเธอมาก ทำไมเธอถึงเพิ่งรู้จักชีวิตแบบนี้
"มากินข้าวสิลูก" ป้าวรรณีเห็นว่าเธอเอาแต่ยืนมองก็เลยเรียกให้มานั่งลงข้างๆ "หนูอย่ากินเหมือนวันนั้นนะ ให้เอาข้าวใส่ปากแล้วค่อยตักน้ำซุปมาซด" ป้ากระซิบพูดกับหลานสะใภ้ เพราะวันนี้ชาวบ้านมาเกือบครึ่งค่อนหมู่บ้าน
"ค่ะ" ที่จริงเธอไม่ค่อยกินข้าวเลยด้วยซ้ำ เพราะกลัวมันจะอืดท้อง หญิงสาวกินแค่เท่าที่กินได้ เพราะส่วนมากชาวบ้านทำอาหารรสชาติเผ็ดจัดจ้านมาก
ทานข้าวเสร็จทุกคนต่างก็ถืออุปกรณ์ของตัวเองลงไปทำงานต่อ
เกี่ยวข้าวไปได้สักพักเธอก็รู้สึกปวดนิ้วขึ้นมา เพราะไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อน พอยกมือขึ้นมาดู นิ้วของเธอเริ่มเป็นสีช้ำ และบวมออกมาจนเห็นได้ชัด แต่มิลานก็ไม่กล้าหยุด
เย็นวันเดียวกัน..
ชาวบ้านที่มาช่วยเริ่มทยอยกลับบ้านกันไปบ้างแล้ว และที่เหลือต่างก็เก็บของช่วยกัน แต่ก็ยังไม่ได้เอาข้าวของกลับมา เพราะข้าวยังไม่เสร็จต้องทำอีกหลายวัน
"มือเป็นอะไร" เขาเห็นว่าเธอสะบัดมือตอนหิ้วของกำลังจะเดินกลับบ้าน
"เปล่า" หญิงสาวรีบจับของที่เพิ่งจะวางลงขึ้นมาแล้วเดินนำหน้าไป
"มาพี่ช่วย" เหนือตะวันก็เลยไม่ได้สนใจ คิดว่าเธอคงไม่ได้เป็นอะไรมาก เขาก็เลยหันกลับมาช่วยตั๊กแตนที่กำลังยกของอยู่ด้านหลัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สยบรัก