ณ. โรงแรมหรู
"ดูแอสเซสเซอรี่ของคุณเธอสิตั้งแต่หัวจรดเท้ากลัวคนไม่รู้หรือไงว่ารวย"
"ได้ข่าวว่าตระกูลนี้รวยจริงไม่ใช่เหรอ"
"ถึงรวยพันล้าน แต่มีลูกสาวที่ชอบผลาญเงินแบบนี้ไม่นานก็คงหมด"
"ใช่ๆ ดีแต่ใช้เงินไปวันๆ เรียนจบมาเป็นปีแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่เห็นไปช่วยกิจการของพ่อแม่เลย"
"อย่าพูดแรงสิหล่อนกำลังเดินมาทางนี้แล้ว"
"ว่าไงคะคุณหนู เพิ่งไปเที่ยวยุโรปมาเหรอคะ" ที่ทักขึ้นแบบนี้เพราะชุดที่เธอสวมใส่ไม่มีขายทั่วไป
"แค่เบื่อๆ ก็เลยไปหาใช้เงินเล่นค่ะ"
"มิลาน!!" หญิงวัยกลางคนรีบเดินมาคว้าแขนของมิลาน ก่อนที่จะพูดไม่ดีอะไรออกไปมากกว่านั้น
"ฉันไม่พูดอะไรหรอกแม่"
"หนูมานั่งกับแม่ดีกว่า" ว่าแล้วนางก็พาลูกสาวมานั่งที่โต๊ะเดียวกัน
"แล้วคุณพ่อล่ะคะ"
"พ่ออยู่กับท่าน"
พอได้ยินแบบนั้นสายตางามก็ตวัดมองไปกลุ่มคนที่คิดว่าท่านคนนั้นจะนั่งอยู่
"หนูมาถึงนานหรือยัง"
"ลงเครื่องก็ตรงมาที่นี่เลยค่ะ"
"ลงเครื่องแล้วตรงมา?" ผู้เป็นแม่ถามออกไปแบบสงสัย เพราะว่าชุดที่ลูกสาวสวมใส่รวมทั้งเครื่องประดับดูพร้อมมากในงานราตรีนี้
"แค่แต่งตัวมันจะไปยากอะไรคะ ก็แต่งมันในรถนั่นแหละ"
"แม่บอกว่าอย่าทำแบบนั้นแล้วใช่ไหม" เพราะถ้าลูกสาวของนางแต่งตัวในรถ คนขับรถก็ต้องเห็นน่ะสิ
"ใครจะมองก็ช่างเขาปะไรแม่ มิลานมาได้ไม่นานนะ"
"พ่อยังไม่รู้เลยว่าเรามา จะรีบกลับไปไหน"
"นัดกับเพื่อนไว้"
"จะไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์อีกล่ะสิ"
"รุ่นนี้คงไม่ไปเที่ยววัดหรอกแม่ เข้าใกล้ไม่ได้มันร้อน"
"ไอ้ลูกคนนี้!"
ในขณะที่แม่กับลูกกำลังคุยกันอยู่นั้นก็ได้มีบอดี้การ์ดของท่านที่ถูกกล่าวถึงก่อนหน้านี้เดินเข้ามาหา
"คุณพ่อของคุณหนูให้เข้าไปพบหน่อยครับ"
"ไม่ค่ะ"
"มิลาน!!"
หญิงสาวพ่นลมหายใจออกมานิดหนึ่งแบบไม่พอใจที่ถูกแม่ตำหนิ แต่เธอก็จำเป็นต้องได้ทำตาม
"หนูห้ามทำเสียมารยาทกับท่านนะ" ดุจดาวกลัวใจมิลานมาก เพราะลูกสาวของนางเป็นคนพูดตรง คิดยังไงก็ชอบพูดออกไปแบบนั้น
"มิลานไม่รับปากค่ะ" ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินตามบอดี้การ์ดคนนั้นเข้าไป
"มาแล้วครับท่าน" บอดี้การ์ดอีกคนที่ยืนอยู่..ได้กล่าวพูดขึ้นเมื่อเห็นเธอเดินเข้าไป
..มันเกิดอะไรขึ้นกับเรากันแน่ คนแรกที่เธอคิดขึ้นมาได้ก็คือ 'ท่าน' หรือว่าจะเป็นไอ้เฒ่าหัวงูนั่น มิลานพยายามหลีกเลี่ยงจากท่าน..ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงรัฐมนตรี
และอีกสิ่งที่คิดขึ้นมา เธออยากจะรู้ว่าพ่อกับแม่รู้เรื่องนี้ไหม แต่เฒ่าหัวงูนั่นจะกล้าทำแบบพละการเหรอ ถ้าไม่เพราะความเห็นชอบของพ่อกับแม่ ร่างบางค่อยๆ ถอยก้าวไปนั่งลงบนเตียงกว้าง เธอคงไม่มีทางที่จะหนีได้แล้วใช่ไหม
จะโทรไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนก็ไม่ได้เพราะโทรศัพท์ถูกพวกมันยึดไปแล้ว
ก๊อก ก๊อก ที่จริงประตูต้องเคาะจากด้านนอก เพื่อให้คนด้านในเปิดให้ แต่ประตูบานนี้แปลกเคาะจากด้านในเพื่อให้คนด้านนอกเปิด
"พวกคุณจับฉันมาไว้ที่นี่ทำไม คุณรู้ไหมว่ามันข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว"
ก๊อก! ก๊อก!!
"เปิดให้ฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!" เธอพยายามอยู่แบบนั้นแต่ก็ไม่มีใครยอมมาเปิดให้
หลายชั่วโมงผ่านไป
แกร็ก~ เสียงประตูปลดล็อกกุญแจจากทางด้านนอก ทำให้หญิงสาวที่หลับใหลอยู่ถึงกับสะดุ้งตื่น
....??...
อีกสถานที่หนึ่ง
"แม่โทรตามผมกลับมามีอะไรเกิดขึ้นอีกแล้วครับ"
"ลูกจำได้ไหมว่ากลับบ้านครั้งสุดท้ายเมื่อไร"
"พ่อทำอะไรอีกแล้ว"
"เปล่าา..ไม่มีอะไร แม่คิดถึงลูก" คงจะปีหนึ่งได้แล้วที่ลูกชายไม่กลับมาบ้าน
เขาเป็นคนที่ชอบสันโดษ ชอบธรรมชาติ แต่สิ่งที่ผลักไสเขาให้ชอบของพวกนี้ก็คือครอบครัว เพราะยิ่งได้อยู่ร่วมกันมันก็ยิ่งทำให้เขาเบื่อการมีครอบครัว ตั้งแต่เล็กจนโต เห็นสภาพที่แม่อดทนเรื่องผู้หญิงของพ่อ แต่ก็อดทนได้ไม่นาน แม่ของเขาก็มีรอยยิ้มขึ้นมา ถ้าเริ่มเห็นรอยยิ้มนั่นแสดงว่า พ่อไม่ได้สนใจผู้หญิงคนนั้นมากมาย แต่ถึงขั้นที่แม่โทรตามเขากลับมันต้องมีอะไรแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สยบรัก